shipping – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 26 Dec 2023 08:53:17 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘Maersk’ เตรียมกลับมาใช้เส้นทาง ‘ทะเลแดง’ อีกครั้ง หลังสหรัฐฯ และพันธมิตรประกาศคุ้มกันเรือสินค้า https://positioningmag.com/1457247 Tue, 26 Dec 2023 07:34:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1457247 บริษัทเดินเรือรายใหญ่อย่าง ‘เมอส์ก’ เตรียมกลับมาใช้เส้นทางทะเลแดงอีกครั้ง หลังสหรัฐฯ และพันธมิตรประกาศคุ้มกันเรือสินค้าภายใต้ปฏิบัติการ Prosperity Guardian หลังจากบริษัทเดินเรือหลายแห่งต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางจากการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธฮูตี

สหรัฐอเมริกาและพันธมิตร ได้ประกาศปฏิบัติการ Prosperity Guardian เพื่อปกป้องเส้นทางเดินเรือในทะเลแดง หลังจากกลุ่มติดอาวุธฮูตี (Houthi) ได้โจมตีเรือสินค้าบริเวณช่องแคบบับเอลมันเดบ (Bab el-Mandeb) ซึ่งอยู่ระหว่างประเทศเยเมนกับจิบูติ

สำหรับปฏิบัติการ Prosperity Guardian สหรัฐอเมริกาและพันธมิตร เช่น สหราชอาณาจักร บาห์เรน แคนาดา นอร์เวย์ อิตาลี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สเปน ฯลฯ จะวางกำลังคุ้มกันบริษัทเดินเรือที่ขนส่งสินค้าระหว่างทะเลแดงจนถึงคลองสุเอซเพื่อความปลอดภัย

เมอส์ก (Maersk) ได้กล่าวในแถลงการณ์ของบริษัทว่าข่าวดังกล่าวถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับอุตสาหกรรมเดินเรือ และจะมีการกลับมาเดินเรือผ่านเส้นทางดังกล่าวภายในอีกไม่กี่วันหลังจากนี้

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Maersk บริษัทเดินเรือยักษ์ใหญ่ได้ประกาศหยุดการเดินเรือในพื้นที่ทะเลแดง เนื่องจากเรือสินค้าโดนโจมตีโดยกลุ่ม Houthi ซึ่งทางกลุ่มต้องการตอบโต้ต่อกรณีที่อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซา และทางกลุ่มยังได้ออกมาเตือนว่าจะโจมตีเรือที่เดินทางผ่านเส้นทางดังกล่าว

ไม่เพียงเท่านี้ กลุ่ม Houthi ยังได้ออกมาเตือนว่าจะโจมตีเรือที่เดินทางผ่านเส้นทางดังกล่าว รวมถึงโจมตีเรือสินค้าที่มีเจ้าของเป็นบริษัทอิสราเอล หรือธงอิสราเอล ทำให้ Maersk และบริษัทเดินเรือรายอื่นอย่าง CMA CGM และ MSC ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางการเดินเรืออ้อมทวีปแอฟริกาแทน เพื่อความปลอดภัยของลูกเรือ ขณะที่บริษัทน้ำมันรายใหญ่อย่าง BP ตัดสินใจหยุดการขนส่งน้ำมันผ่านเส้นทางดังกล่าว

ผลกระทบจากการโจมตียังทำให้บริษัทหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น IKEA ได้กล่าวว่าการส่งสินค้าให้กับลูกค้าอาจประสบปัญหาล่าช้า

ทะเลแดงถือเป็นจุดเชื่อมโยงหลักระหว่างเอเชียและยุโรปผ่านทางคลองสุเอซ นั้นคิดเป็นสัดส่วนของการค้าโลกถึง 10-15% ทำให้การปกป้องบริษัทเดินเรือจากการโจมตีของกลุ่ม Houthi มีความสำคัญอย่างยิ่ง

ที่มา – Global News, CNN

]]>
1457247
ภัยแล้งส่งผลต่อคลองปานามา ปริมาณน้ำลดลง เรือขนสินค้าแล่นเข้าออกคลองลำบาก https://positioningmag.com/1441990 Wed, 23 Aug 2023 05:14:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1441990 ภัยแล้งและผลกระทบจากภาวะ El Nino ล่าสุดได้สร้างผลกระทบไม่ใช่แค่ความเป็นอยู่เท่านั้น แต่ภาคการขนส่งเองก็ได้รับผลกระทบแล้วเช่นกัน เหตุการณ์ล่าสุดคือคลองปานามา ปริมาณน้ำลดลง ส่งผลทำให้เรือขนสินค้าแล่นเข้าออกคลองลำบาก แม้ว่าปัญหาจะเริ่มคลี่คลายเล็กน้อยบ้างแล้วก็ตาม

ผลจากภาวะ El Nino รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ทำให้ปริมาณน้ำในคลองปานามาลดลง ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาปริมาณฝนกลับตกลดลง ส่งผลต่อการเดินเรือในคลองดังกล่าวอย่างมากในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

คลองปานามาถือเป็น 1 ใน 2 คลองสำคัญในการส่งสินค้าสำคัญของโลก ทำให้การขนส่งสินค้าจากเอเชียไปยังทวีปอเมริกามีความสะดวกมากขึ้น โดยรองรับปริมาณเรือขนสินค้าไปยังทวีปอื่นๆ ถึง 40% ของปริมาณเรือขนสินค้าทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา

ข้อมูลจาก Refinitiv ชี้ว่าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เรือสามารถผ่านคลองดังกล่าวได้มากถึง 50 ลำ แต่ล่าสุดเหลือแค่ 40 ลำเท่านั้น โดยล่าสุดยังมีเรือต่อคิวเข้าคลองดังกล่าวอีกประมาณ 200 ลำ แม้ว่าหน่วยงานบริหารจัดการคลองปานามากำลังเร่งระบายเรือให้เข้าคลองและออกจากคลองให้ไว้ที่สุดแล้วก็ตาม

ความล่าช้าดังกล่าวสร้างความกังวลถึงการส่งสินค้าระหว่างทวีป ที่อาจส่งผลต่อความล่าช้าด้าน Supply Chain ที่อาจสร้างผลกระทบต่อภาคการผลิตได้ และทำให้ค่าเดินเรือนั้นมีราคาแพงมากขึ้นเนื่องจากเรือที่ต้องการขนส่งสินค้าให้ทันเวลาอาจเดินเรืออ้อมแทน เพราะไม่สามารถรอคิวในการเข้าคลองนี้ได้

นอกจากนี้ปัญหาความติดขัดของคลองดังกล่าวทำให้ผู้นำละแวกละตินอเมริกาเริ่มบ่นถึงปัญหาดังกล่าวแล้วเช่นกัน ประธานาธิบดีของโคลอมเบียได้กล่าวถึงปัญหาดังกล่าวนั้นเกิดจากภัยแล้ง ขณะเดียวกันประธานาธิบดีเม็กซิโกได้กล่าวว่าปัญหาในคลองปานามา อาจทำให้เม็กซิโกอาจขุดคลองคล้ายกับคลองปานามาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย

ปัญหาดังกล่าว Ostergaard Nielsen หัวหน้าฝ่ายการเดินเรือส่วนทวีปอเมริกาของ Maersk ได้กล่าวว่าบริษัทได้ปรับตัวกับปัญหานี้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการโหลดตู้คอนเทนเนอร์ลงเรือให้มีจำนวนลดลง เพื่อที่จะทำให้เรือไม่กินความลึกของร่องน้ำของคลองปานามาจนเกิดความเสี่ยงที่จะทำให้เรือติดขัดในคลองได้

ปัจจุบันความลึกของคลองปานามาอยู่ที่ราวๆ 15 เมตร โดยหน่วยงานบริหารจัดการคลองปานามากำหนดว่าเรือที่จะแล่นผ่านคลองนี้จะต้องกินน้ำลึกไม่เกิน 13.4 เมตร

แม้ว่าสถานการณ์ในเรื่องดังกล่าวจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แต่ ณ เวลานี้เราไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ว่าปัญหาสภาวะแวดล้อมได้ส่งผลต่อผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

ที่มา – CNBC, Business Insider, Reuters

]]>
1441990
รู้จัก MAERSK เจ้าแห่งชิปปิ้ง สายเรือขนส่ง “ตู้คอนเทนเนอร์” รายใหญ่ที่สุดในโลก https://positioningmag.com/1307614 Wed, 25 Nov 2020 12:08:31 +0000 https://positioningmag.com/?p=1307614 กลายเป็นข่าวฮือฮาไม่น้อย หลังมีการเเชร์ภาพตู้คอนเทนเนอร์ ที่ทางการไทยนำมาวางเป็นเเนวกั้น เพื่อสกัดผู้ชุมนุม จุดประเด็นที่ถูกถกเถียงกันอย่างเเพร่หลายในโลกโซเชียล เมื่อตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว ปรากฏ “ชื่อเเบรนด์ของบริษัทชิปปิ้งชื่อดังชาวเน็ตเริ่มตั้งคำถามว่า เเบรนด์นี้มีความเกี่ยวข้องอย่างไร

ล่าสุด MAERSK ผู้ขนส่งตู้คอนเทนเนอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก ออกมาชี้เเจงว่า ตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกนำมาใช้เป็นสิ่งกีดขวางกิจกรรมในประเทศไทยนั้นไม่ได้อยู่ในการครอบครองบริษัท เพราะได้ขายต่อไปในตลาด ให้บุคคลที่ 3 แล้ว” 

วันนี้ เราจะพามารู้จัก MAERSK ผู้ให้บริการการขนส่งสินค้าทางทะเลเบอร์ 1 ของโลกจากเดนมาร์ก ให้มากขึ้นกัน

Photo : mgronline

MAERSK คือใคร ? 

โลจิสติกส์เป็นหนึ่งในธุรกิจดาวรุ่งเมื่อโลกปัจจุบันเชื่อมต่อกัน ทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศง่ายเเละเร็ว” กว่าสมัยก่อนมาก โดยเฉพาะธุรกิจเรือขนส่ง “ตู้คอนเทนเนอร์” ที่เฟื่องฟูมาเรื่อยๆ

MAERSK (เมอส์ก) หรือ A.P. Moller Maersk บริษัทขนส่งสัญชาติเดนมาร์ก ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1904 ถึงตอนนี้ก็อายุราวๆ 116 ปี เริ่มต้นด้วยการเป็นธุรกิจครอบครัวของตระกูล Møller เป็นที่รู้จักในวงกว้างในวงการเดินเรือสมุทรมานับศตวรรษ

ปัจจุบันให้บริการกว่า 130 ประเทศ มีพนักงานมากกว่า 88,000 คน และให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทางทะเลเเละทางบกเเบบครบวงจร

ธุรกิจหลักๆ ของ MAERSK ส่วนใหญ่จะเป็นการขนส่งและพลังงาน นอกนั้นจะเป็นธุรกิจค้าปลีก อู่ต่อเรือ การทำธุรกิจในอุตสาหกรรมอื่น เเละสนใจการลงทุนในธุรกิจการเงินด้วย

การขนส่งสินค้าทางทะเล เป็นส่วนที่ทำรายได้ให้ MAERSK มากที่สุด โดยบริษัทเปิดให้บริการทั้งเเบบขนสินค้าใส่ตู้คอนเทนเนอร์ เเละเเบบ Bulk cargo (เรือสินค้าเเบบเทกอง ขนส่งครั้งละมากๆ เเต่ไม่มีภาชนะบรรจุสินค้า)

ปัจจุบันมีเรือในสังกัดมากกว่า 786 ลำ รวมไปถึงเปิดให้บริการที่เกี่ยวข้องกับท่าเรือซึ่งมีท่าเรือที่ให้ทั้งหมด 65 แห่งทั่วโลก

จากนั้น MAERSK มีธุรกิจบริการขนส่งเเบบครบวงจรใน “ทางบก” ทั้งการบริหารสินค้าคงคลัง และให้บริการโกดังสินค้าให้กับโรงงานต่างๆ

Photo : MAERSK

ในส่วนของธุรกิจตู้คอนเทนเนอร์นั้น บริษัทมีการผลิตเพื่อใช้งานภายในกลุ่มธุรกิจตัวเอง เเละผลิตขายให้ลูกค้าภายนอก มีฐานผลิตที่ประเทศจีน โดยในปี 2018 สามารถผลิตตู้คอนเทนเนอร์ได้ถึง 1.5 เเสนตู้

ข้อมูลจากเว็บไซต์ ship-technology ประเมินว่า MAERSK เป็นบริษัทขนส่งทางเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ถึง 4.1 ล้านทีอียู ตามมาด้วย Mediterranean Shipping Company (MSC) ด้วยขนาด 3.8 ล้านทีอี เเละ COSCO Shipping Lines อยู่ที่ 3.1 ล้านทีอียู

ดีมานด์ “ตู้คอนเทนเนอร์” ร่วงจากพิษ COVID-19 

เมื่อช่วงเดือนพ..ที่ผ่านมา โลกต้องเผชิญกับโรคระบาด COVID-19 ทาง MAERSK ออกมาเตือนว่า ปริมาณการขนส่งสินค้าด้วยตู้คอนเทนเนอร์ทั่วโลกจะ “ร่วงลง” อย่างรุนแรงในปีนี้ จากที่เคยคาดว่าจะขยายตัว 1-3%

สำหรับผลประกอบการของ MAERSK ในไตรมาสที่ 2/2020 พบว่า บริษัทมีผลกำไรก่อนหักภาษีอยู่ที่ 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.1 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 25% จากไตรมาสก่อนหน้า ที่มีผลกำไรอยู่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.5 หมื่นล้านบาท) แม้จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการระบาดของ COVID-19

ส่วนไตรมาสที่ 3/2020 การส่งออกทั่วโลกเริ่มมีการฟื้นตัว เป็นผลดีต่อผลประกอบการของ MAERSK ทำให้มีผลกำไรก่อนหักภาษีอยู่ที่ 2.3 พันล้านดอลลาร์ (6.9 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 39% จากไตรมาสก่อนหน้า

โดยในสถานการณ์โรคระบาด ธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเล เเละการให้บริการท่าเรือ มีรายได้ลดลงเเต่บริษัทมีรายได้ชดเชยจากธุรกิจขนส่งคงคลัง (Logistics & Services Segment) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

Source
Source
source

]]>
1307614