· สยามพิวรรธน์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างและสร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมายเป็นครั้งแรก โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์ Customer Centric และการสร้าง Emotional Engagement อย่างตรงใจกับลูกค้าทุกคอมมูนิตี้

· เปิดเทศกาลแห่งความสุข โดยสยามดิสคัฟเวอรี่โชว์เคสแคมเปญล่าสุด “Siam Discovery presents The Magical Sensation, Discover Extraordinary Gifts from the Universe” ภายใต้คอนเซ็ปต์ Everyday Gifts เชิญชวนทุกคนค้นพบอาณาจักรของขวัญสุดสร้างสรรค์ที่พิเศษไม่เหมือนใคร พร้อมสร้างสรรค์ประสบการณ์แห่งความสุขของการเป็นผู้ให้และผู้รับครั้งแรก

· เป็นที่หนึ่งในด้านการนำเสนอของขวัญในแบบ Personalized ตอบโจทย์ตรงตามความสนใจเฉพาะตัวเสมือนเพื่อนที่รู้ใจของลูกค้าได้อย่างแท้จริง พร้อมการเชื่อมโลกออฟไลน์สู่โลกออนไลน์แบบไร้รอยต่อ

นางสาวปวีณา คชเสนี ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารสินค้า สยามดิสคัฟเวอรี่ กล่าวว่า

“ สยามพิวรรธน์ ในฐานะผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างและเป็นครั้งแรก โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์ Customer Centric การสร้าง Emotional Engagement สามารถนำเสนอความเป็น Personalized ตามความสนใจเฉพาะตัวเสมือนเพื่อนที่รู้ใจของลูกค้าได้อย่างแท้จริง สร้างไลฟสไตล์เชื่อมโลกออฟไลน์สู่โลกออนไลน์แบบไร้รอยต่อ โดยในเทศกาลแห่งความสุขในปีนี้ สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม พร้อมให้ทุกคนเข้ามาค้นพบ (Experiment), สร้างสรรค์ (Create) และพัฒนา (Cultivate) ผ่านแคมเปญล่าสุด “Siam Discovery presents The Magical Sensation, Discover Extraordinary Gifts from the Universe” ภายใต้คอนเซ็ปต์ Everyday Gifts สร้างความพิเศษชวนทุกคนค้นพบมหัศจรรย์แห่งความสุขของการเป็นผู้ให้และผู้รับ

สยามดิสคัฟเวอรี่ อาณาจักรของขวัญสุดสร้างสรรค์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร

เพราะสินค้าทุกชิ้นภายในสยามดิสคัฟเวอรี่ ล้วนได้รับการเลือกสรรผ่านการ Curated แล้วว่าเป็นสินค้าที่มีความพิเศษและตอบโจทย์ตรงใจกลุ่มคอมมูนิตี้ที่มีอยู่อย่างหลากหลาย ทั้งจาก Her Lab, Beauty Lab His Lab, Street Lab, Digital Lab, Creative Lab คุณสามารถเลือกเสื้อผ้าแฟชั่นอิมพอร์ตที่ไม่เหมือนใครทั้งสำหรับบุรุษและสตรีหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่ลักซ์ชัวรี่แบรนก์ จนถึงสตรีทแวร์, เครื่องสำอางที่ผ่านการเลือกสรรมาแล้วจากบิ้วตี้กูรู, อุปกรณ์ไอทีที่ล้ำสมัย, สินค้าและของตกแต่งบ้านและมีเอกลักษณ์แบบไทยสร้างสรรค์ ทั้งจากไอคอนคราฟต์, O.D.S รวมถึง Ecotopia แหล่งรวมผลิตภัณฑ์รักษ์โลกมากมาย และ Loft ไลฟ์สไตล์ช้อปชื่อดังจากญี่ปุ่น

ดังนั้นหากจะเลือกของขวัญให้คนสำคัญหรือให้ตัวเองสักชิ้น สยามดิสคัฟเวอรี่จึงตอบโจทย์และสร้างความมั่นใจได้ว่า จะได้ของขวัญที่ดีและมีคุณค่า ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านสยามดิสคัฟเวอรี่ สร้างประสบการณ์มอบความสุขได้ทุกวันในแบบ Everyday Gifts ความพิเศษที่ผนวกทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างความสุขและสร้างพลังบวกให้สังคมผ่านการ “ให้” และการ “รับ”

และเพื่อเชื่อมต่อโลกออฟไลน์สู่โลกออนไลน์ไว้ในมือคุณ ทำให้ทุกคนได้สัมผัสกับประสบการณ์เหนือระดับที่แตกต่างได้ทุกที่ทุกเวลา พบกับ Siam Discovery Magical Catalog ที่จะทำให้การเลือกของขวัญง่ายยิ่งขึ้น โดยจะรวบรวมของขวัญนับหมื่นชิ้น ไว้ใน e-catalog จะเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียและส่งตรงถึงลูกค้าสมาชิกให้สามารถเลือกของขวัญที่ถูกใจ ขณะเดียวกันสามารถเลือกช้อปสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทันที สร้างความสะดวกให้กับนักช้อป และเป็นการสร้างประสบการณ์ในการเลือกซื้อของขวัญที่เชื่อมโลกออฟไลน์สู่โลกออนไลน์แบบไร้รอยต่อ

กล่องมหัศจรรย์ HYPE BOX ส่งมอบเซอร์ไพรส์ความสุขในแบบ Personalized ครั้งแรก !!

ไฮไลท์ของ “Siam Discovery presents The Magical Sensation, Discover Extraordinary Gifts from the Universe” ที่จะทำให้การมอบของขวัญปีนี้ พิเศษยิ่งกว่าเคย ค้นพบประสบการณ์ใหม่ “HYPE BOX” กล่องมหัศจรรย์ที่จะส่งมอบเซอร์ไพรส์ความสุขในแบบ Personalized เพิ่มคุณค่าของขวัญให้กับคนพิเศษในทุกโอกาส สร้างความประทับใจให้กับผู้รับได้อย่างไม่มีสิ้นสุด เพียงเลือกเฟ้นหาของขวัญสำหรับคนพิเศษจากสินค้าแบรนด์ดังภายในสยามดิสคัฟเวอรี่ ทุกชั้นทุก Lab จากนั้นสามารถนำของขวัญมาฝากที่ Hype Box บริเวณ ชั้น G และสยามดิสคัฟเวอรี่จะเป็นสื่อกลางในการส่ง SMS ไปยังผู้รับ เพื่อเชิญชวนให้มาเปิดประสบการณ์เซอร์ไพรส์ความสุขด้วยตนเอง

การสร้าง HYPE BOX เป็นอีกหนึ่งไอเดียสร้างสรรค์ของสยามดิสคัฟเวอรี่ ที่ตอกย้ำการเป็นผู้ที่เข้าใจความต้องการของทุกคอมมูนิตี้แบบ Customer Centric ผสานกับการนำเสนอประสบการณ์แบบ Emotional Engagement ที่สร้างความประทับใจและมอบคุณค่าที่พิเศษยิ่งขึ้นมากกว่าการมอบของขวัญแบบธรรมดาทั่วไป

เพิ่มความพิเศษให้ของขวัญ ด้วยการดีไซน์ Wrapping Special ที่ออกแบบได้ด้วยตนเอง

ร้านลอฟท์ ไลฟ์สไตล์ช้อปชื่อดังจากญี่ปุ่น เดสติเนชั่นแห่งของขวัญสำหรับทุกเทศกาลทุกโอกาส ที่ขึ้นชื่อเรื่องการห่อของขวัญแบบเก๋ๆ หลากสไตล์ โดยเฉพาะวิธีการห่อแบบญี่ปุ่นที่มีดีไซน์เฉพาะ ไม่เหมือนใคร สร้างความแตกต่าง ทำให้ความรู้สึกของผู้ให้และผู้รับมีความพิเศษเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมีกล่องของขวัญ การ์ดอวยพรต่างๆมากมายอีกด้วย ร้านลอฟท์ยังได้เชิญแรปปิ้งกูรู (Wrapping Guru) สุดยอดแห่งนักห่อของขวัญ ที่จะมาแนะนำวิธีการห่อของขวัญสไตล์เก๋ ที่คุณสามารถลงมือห่อด้วยใจของคุณเอง เพิ่มคุณค่าของของขวัญชิ้นเอก ที่จะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้รับตั้งแต่แรกพบ

“เป็นอีกครั้งที่สยามดิสคัฟเวอรี่ นำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างเหนือความคาดหมาย และเชิญชวนทุกคนเข้าไปสนุกกับการค้นพบประสบการณ์ใหม่ เลือกและมอบของขวัญที่มีคุณค่าและเติมความสุขให้กับผู้รับได้มากกว่าครั้งไหน เราเชื่อมั่นว่า สยามดิสคัฟเวอรี่จะครองตำแหน่ง Everyday Gift Destination ตอบโจทย์ของคนหลากสไตล์และทุกคอมมูนิตี้ได้อย่างตรงใจอย่างแน่นอน” นางสาวปวีณา คชเสนี กล่าวทิ้งท้าย

ปี 2561 กลยุทธ์ One Siam จะนำไปใช้กับ 6 บิ๊กแคมเปญ ได้แก่ แคมเปญตรุษจีน, สงกรานต์, หมวดสินค้าแฟชั่น, แคมเปญ Summer , แคมเปญสินค้าเด็กและครอบครัว และปลายปีจะเป็นแคมเปญเฉลิมฉลองในช่วงสิ้นปี (Celebrate) เพราะถือเป็นช่วงไฮไลต์ของการช้อปปิ้ง โดยทั้ง 6แคมเปญจะใช้งบประมาณ 1,200 ล้านบาท จากปีก่อนใช้ราว 1,000 ล้านบาท

“เดิมเราจัดแคมเปญ โปรโมชั่นแยกกันในแต่ละศูนย์ แต่จากนี้การจัดแคมเปญอะไรก็ตามจะอยู่ภายใต้ธีมเดียวกันคือ One Siam จากนั้นแต่ละศูนย์จะหาจุดยืนของธีมให้ตรงกับจุดยืนของศูนย์อีกสเต็ป” มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานส่งเสริมการตลาด บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าว

เธอยกตัวอย่าง เทศกาลตรุษจีน จะชูเรื่องโคมไฟ สยามพารากอนจะเน้นความหรูหรา สยามเซ็นเตอร์จะต้องอาร์ตๆ และสยามดิสคัฟเวอรี่อาจเป็นโคมไฟเหลี่ยมๆ เป็นต้น

กลยุทธ์นี้ ยังช่วยเม็ดเงินโฆษณาประชาสัมพันธ์ ใช้ก้อนเดียวกัน จากเดิมแยกกันใช้ผ่านสื่อทีละครั้ง ตอกย้ำภาพของสยามพิวรรธน์ ในการ One Stop Shopping Destination สร้างอิมแพกต์ได้แรงกว่า ต่างคนต่างๆ ทำ

ขณะที่การประเดิมกลยุทธ์ One Siam กับเทศกาลตรุษจีน “สยาม ดีไลท์ฟูล ไชนีส นิว เยียร์” (Siam Delightful Chinese New Year) เป็นแคมเปญแรกเพราะเป็นเทศกาลที่คนไทยและต่างชาติจับจ่ายใช้สอย ช้อปปิ้งกันเงินสะพัดสูงมากเป็นอันดับ 2 รองจาก Celebrate แคมเปญปลายปีนั่นเอง

การทำโปรโมชั่นจับกลุ่มเป้าหมายไทย-เทศปีนี้ ยังแบ่งตามพฤติกรรมช้อปเชิงลึก (Insight) ของผู้บริโภคด้วย โดยคนไทยจะโฟกัสลูกค้ากระเป๋าหนัก 3 ประเภท ได้แก่

• เศรษฐี บรรดาผู้มั่งคั่งทั้งหลาย แม้จะมีน้อยแต่กลุ่มนี้ช้อประบิดระเบ้อ
• ขาช้อปตัวจริง (Shopaholic) เห็นป้ายลดราคา เห็นสินค้าใหม่แล้วอดใจไม่ได้ต้องปรี่เข้าหา
• ลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ประจำวัน ช้อปปิ้ง ดูหนัง กินข้าว ซึ่งมีสัดส่วนมากสุดจากทั้ง 3 กลุ่ม

ส่วนลูกค้าชาวต่างชาติจะเลือกประเทศที่เข้ามาใช้จ่ายในศูนย์สูงสุด ได้แก่ จีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ มาเลเซีย และสิงคโปร์ ตัวอย่างกลุ่มนี้จะพบว่า ชาวจีนใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 3,000-4,000 บาท และถ้าแยกเฉพาะใช้จ่ายที่พารากอนจะสูงถึงกว่า 10,000 บาทต่อคน

ส่วนสินค้าที่ช้อปกันในช่วงนี้ หลักๆ จะเป็นสินค้าอาหารและเบ็ดเตล็ดในซูเปอร์มาร์เก็ต, สินค้าหรู แบรนด์เนม, แฟชั่น และนาฬิกาและจิวเวลรี่ และยิ่งปี 2561 ตรุษจีนต่อเนื่องจากวันวาเลนไทน์ ทำให้สินค้าเครื่องประดับเป็นสินค้ายอดฮิตมากขึ้นด้วย

“การจับกลุ่มเป้าหมายต่างชาติ จะให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเอง (FIT) มากขึ้น เพราะข้อมูลจากสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) เผยว่ากลุ่มนี้มีปริมาณและการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ขณะที่การจัดแคมเปญตรุษจีนบริษัทคาดหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาทั้ง 3 ศูนย์การค้าหมุนเวียนเติบโตกว่า 10% จากประมาณ 3 แสนคนต่อวัน ยอดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 15%”