Single Day – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 13 Nov 2025 10:45:25 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 หรือ ‘วันคนโสด’ ในจีนจะสิ้นมนต์ขลัง หลังผู้บริโภค ‘เบื่อ’ เพราะโปรฯ ไม่ดึงดูด แถมเงื่อนไขซับซ้อน https://positioningmag.com/1546720 Thu, 13 Nov 2025 02:00:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1546720 หลายคนน่าจะคุ้นชินกับเทศกาล 11.11 หรือ วันคนโสด (Single Day) ที่ อาลีบาบา (Alibaba) อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีนเป็นผู้ริเริ่ม จนปัจจุบัน 11.11 ได้กลายเป็นเทศกาล ช้อปปิ้งของบรรดาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและแบรนด์ต่าง ๆ ไปโดยปริยาย

อย่างไรก็ตาม เทศกาล 11.11 ในจีน ซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิดดูเหมือนจะเริ่มเสื่อมมนต์ขลัง ไร้พลังดึงดูดต่างจากอดีต สังเกตได้จากยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน ไม่ว่าจะเป็น อาลีบาบา หรือ ⁦JD.com⁩ ต่างก็ เลิกประกาศสถิติยอดซื้อในวัน 11.11 ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ต้องแข่งกันประกาศยอดขาย

โดยรายงายจาก AFP ที่ถามความเห็นของผู้บริโภคชาวจีนเกี่ยวกับวันคนโสด โดยนักช้อปส่วนใหญ่เริ่มแสดงอาการ เบื่อ กับแคมเปญ 11.11 โดยมองว่า โปรโมชั่นไม่ดึงดูด เหมือนในอดีตที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังรู้สึกว่าไม่ต้องรอ 11.11 พวกเขาก็ถูก กระหน่ำด้วยโปรโมชั่นแทบตลอดเวลา เนื่องจากรัฐบาลจีนกำลังพยายามกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ

นอกจากนี้ หลายคนยังมองว่า เงื่อนไขการใช้โปรโมชั่นซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ต้องเก็บคูปองหลายใบ หรือต้องซื้อให้ถึงขั้นต่ำ เป็นต้น

“ฉันไม่ซื้ออะไรเลยใน 11.11 ปีนี้ เพราะส่วนลดต่างๆ ไม่ได้น่าสนใจเหมือนเมื่อก่อน และฉันไม่เคยเข้าร่วมกฎที่ซับซ้อนพวกนี้เพื่อให้ได้ส่วนลดเลยแม้แต่ครั้งเดียว” Zhang Jing วัย 29 ปี จากเซี่ยงไฮ้ กล่าวกับสำนักข่าว AFP

ปี 2020 Alibaba เคยรายงานยอดขายในวัน 11.11 อย่างยิ่งใหญ่

ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้คนไม่กล้าจับจ่าย โดย Shi Xuebin วัย 42 ปี เจ้าของร้านเสื้อผ้าบูติก บอกว่า แม้วัน 11.11 เธอจะซื้อ iPhone เครื่องใหม่ก็จริง แต่เพราะเธอตั้งใจจะซื้อโทรศัพท์ใหม่อยู่แล้ว โดยถ้าเทียบกับปีก่อน ๆ เธอ ซื้อสินค้าในวันคนโสดลดลง เนื่องจากรู้สึกว่า เศรษฐกิจไม่ดี

“ฉันรู้สึกว่าเศรษฐกิจโดยรวมปีนี้ไม่ค่อยดี และผู้คนหลีกเลี่ยงการซื้อของที่ไม่จำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อก่อนถ้าชอบอะไรก็จะซื้อโดยไม่คิดมาก แต่ตอนนี้มีความรู้สึกของการลดระดับการบริโภคอย่างชัดเจน”

Source

]]>
1546720
รู้หรือไม่ วันคนโสดปีนี้ คนจีนมากกว่าครึ่งสั่งสินค้าแบรนด์ในประเทศมากกว่าแบรนด์ต่างชาติ https://positioningmag.com/1408076 Sun, 13 Nov 2022 07:51:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1408076 วันคนโสดของจีนในปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ผู้บริโภคชาวจีนเองนิยมสั่งสินค้าแบรนด์ในประเทศจีนมากกว่าแบรนด์ต่างชาติ โดยสาเหตุสำคัญนั้นมาจากปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลต่อภาคการผลิต และยังรวมถึงการบริโภคภายในประเทศ

สำนักข่าว Reuters อ้างอิงข้อมูลจาก Alibaba และ JD.com ว่าจำนวนการสั่งสินค้าในช่วงวันคนโสดของจีน (11.11) ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมจนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายนในเว็บไซต์ Tmall และ JD.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าในประเทศจีนรายใหญ่อันดับต้นๆ นั้นชี้ให้เห็นว่าชาวจีนนั้นได้สั่งสินค้าจีนเพิ่มมากขึ้น

ข้อมูลจาก Alibaba พบว่าสินค้ามากกว่า 2,000 รายการที่สร้างยอดขายได้มากกว่า 10 ล้านหยวน พบว่ามากกว่า 50% มักจะสั่งสินค้าแบรนด์จีนมากกว่าแบรนด์สินค้าที่มาจากต่างประเทศ โดยแบรนด์สินค้าจีนที่ขายดี เช่น Midea Haier ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศจีน ขณะเดียวกันแบรนด์สินค้ากีฬาอย่าง Anta ก็มียอดขายที่ดีเช่นกัน

ขณะที่แบรนด์ต่างประเทศที่ยังได้รับความนิยมนั้นได้แก่ Apple และ L’Oreal รวมถึง Nike

ทางด้านของแพลตฟอร์มคู่แข่ง Alibaba อย่าง JD.com ได้เปิดเผยว่าในช่วงเวลา 28 ชั่วโมงแรกของวันที่ 31 ตุลาคม ซึ่งเริ่มเทศกาลคนโสด ชาวจีนได้สั่งสินค้าที่เป็นแบรนด์ในประเทศจีนเองมากถึง 80% ใน 20 แบรนด์สินค้าทั้งในและต่างประเทศ

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนต้องหาสินค้าแบรนด์ในประเทศเพิ่มมากขึ้นนั้นมาจากเรื่องของสภาวะเศรษฐกิจจีนที่เจอผลกระทบจากมาตรการโควิดเป็นศูนย์ ส่งผลกระทบต่อการบริโภคของประชาชน ไปจนถึงภาคการผลิต แม้ว่าจีนจะมีมาตรการผ่อนคลายออกมาบางส่วนก็ตาม

สินค้าแบรนด์ในประเทศจีนถ้าหากเทียบราคากับสินค้าจากแบรนด์ต่างชาติเองนั้นก็มีราคาถูกกว่า ผลที่เกิดขึ้นทำให้ผู้บริโภคชาวจีนเลือกสินค้าในประเทศจีน ยกเว้นบางสินค้าที่สินค้าแบรนด์จีนไม่มี เช่น เครื่องเล่นเกมคอนโซล XBOX จาก Microsoft นั้นมียอดขายเพิ่มขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ

ที่มา – Reuters

]]>
1408076
ย้อนรอยแคมเปญ ‘11.11’ วันสำคัญแห่งปีของนักช้อปออนไลน์ พร้อมเจาะลึก ‘ลาซาด้า’ ที่ยังคงสถานะหมุดหมาย ‘เบอร์ 1’ https://positioningmag.com/1304602 Thu, 05 Nov 2020 11:00:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1304602

แม้ตอนนี้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าแคมเปญ ‘11.11’ เป็นแคมเปญที่เป็นภาพจำของผู้บริโภคไปแล้ว เพราะเป็นวันสำคัญที่ทุกแพลตฟอร์มและทุกแบรนด์จะต้องจัดแคมเปญเพื่อแย่งชิงลูกค้าในวันนี้ ส่งผลให้เป็นวันที่นักช้อปส่วนใหญ่ต่างอดใจรอคอยเพื่อจะได้ช้อปของถูก แน่นอนว่าด้วยการแข่งขันนี้ การจะดึงดูดใจแค่โปรโมชั่นคงไม่พอ แต่จำเป็นต้องมีอะไรที่ ‘มากกว่า’ เพื่อตรึงลูกค้าให้อยู่กับแพลตฟอร์ม

‘ลาซาด้า’ ผู้จุดแคมเปญ 11.11 สู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ถ้าจะย้อนรอยไปถึงต้นกำเนิดของวัน Double Day ต้องย้อนไปถึงปี 2009 ที่ ‘อาลีบาบา’ (Alibaba) เป็นผู้ริเริ่มจัด แคมเปญ ‘วันคนโสด’ (Single’s Day Campaign) ในวันที่ 11.11 เพื่อให้เหล่าคนโสดซื้อของเปย์ตัวเองเสียเลย ซึ่งเคยทำยอดสูงสุดถึง 17.8 พันล้านดอลล่าสหรัฐฯ หรือกว่า 540,000 ล้านบาท ขนาดมันรวมเทศกาลดัง ๆ จากฝั่งตะวันตกอย่าง Black Friday , Cyber Monday และ Amazon Prime Day ถึง 2.5 เท่า

สำหรับแคมเปญ 11.11 ในไทยนั้นได้ ‘ลาซาด้า’ เป็นผู้ที่นำเอาแคมเปญดังกล่าวมาสู่ประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน โดยแต่ในแต่ละปีที่จัดต่างได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างถล่มทลาย

  • โดยในปี 2017 มีผู้เข้าชมแพลตฟอร์มลาซาด้ามากกว่า 10 ล้านครั้ง และมีคำสั่งซื้อมากขึ้น 10 เท่า เมื่อเทียบกับวันปกติ
  • ปี 2018 มียอดคำสั่งซื้อกว่า 4 แสนครั้งภายในเวลา 1 ชั่วโมงแรก และเมื่อเทียบกับปี 2017 ยอดสั่งซื้อเติบโตกว่า 287%
  • ปี 2019 นั้น ยอดคำสั่งซื้อเติบโตจากปี 2018 ถึง 2 เท่า แค่ชั่วโมงแรกก็มีคำสั่งซื้อ 3 ล้านออเดอร์ทั่วทั้งภูมิภาคเลยทีเดียว

จาก Single Day สู่ Double Day

จากความปังดังกล่าว แคมเปญ 11.11 ก็ได้กลายเป็นมหกรรมช้อปปิ้งที่อีคอมเมิร์ซทุกแพลตฟอร์ม ค่ายค้าปลีก และแบรนด์ต้องเข้ามาชิงยอดขายในวันนี้ แต่ไม่ได้จบอยู่แค่วันที่ 11.11 อีกต่อไป แต่ลาซาด้าได้ต่อยอดมาเป็น Double Day ไม่ว่าจะเป็น 9.9 Big Brands Sale ที่จัดโปรใน LazMall ที่รวบรวมสินค้าของแท้ 100% เรียกได้ว่าเกือบทุกเดือนตลอด 1 ปี จะต้องมีแคมเปญโดน ๆ ในเพื่อกระตุ้นตลาด อย่างไรก็ตาม แม้จะมีแคมเปญแทบทุกเดือน แต่ 11.11 ถือเป็นแคมเปญ ‘ใหญ่สุด’ และ ‘ดีลดีที่สุด’ ของลาซาด้า

ช้อปสนุกยิ่งขึ้นด้วย ‘Live-Streaming’

จากวิกฤติ COVID-19 ที่ผ่านมา การขายสินค้าผ่าน Live-Streaming กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก จนเกิดเป็นเทรนด์ ‘ไลฟ์คอมเมิร์ซ’ ซึ่งปัจจุบัน ไลฟ์คอมเมิร์ซไทยมีมาร์เก็ตไซส์ประมาณ 5-10% ของมูลค่าอีคอมเมิร์ซทั้งหมด หรือประมาณ 10,000 ล้านบาทเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม เทรนด์ไลฟ์คอมเมิร์ซไม่ใช่เรื่องใหม่แต่มีมานานแล้ว โดยลาซาด้าถือเป็นผู้เล่นรายแรก ๆ ของไทยที่เพิ่มฟีเจอร์ ‘ไลฟ์สตรีมมิ่ง’ หรือ ‘LazLive’ เข้ามาในแพลตฟอร์มผ่านกลยุทธ์ ‘Shoppertainment’ ที่เปลี่ยนให้การช้อปปิ้งไม่ใช่แค่การ ‘ซื้อ’ แต่ต้อง ‘สนุก’ ด้วย

หลังจากเปิดตัวมาได้ครบ 1 ปี LazLive ได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าและร้านค้า โดยปัจจุบันมีจำนวนยอดการรับชมรวมกว่า 30 ล้านครั้งในประเทศไทย โดยมีจำนวนการรีวิวสินค้ารวมกว่า 50,000 ชิ้นบนแพลทฟอร์ม ซึ่งจัดว่าเป็นคอนเทนต์การตลาดที่ช่วยโปรโมทให้กับร้านค้าได้อย่างดีทีเดียว และในปี 2020 นี้ ลาซาด้าจับมือกับ Elle Magazine ผสานการไลฟ์สตรีมมิ่งกับการจัดแสดงแฟชั่นโชว์แบบ ‘Virtual Runway’ เพื่อเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับตลาดไปอีกขั้น

ขายของ ‘ออนไลน์’ แต่ไม่ทิ้ง ‘ออฟไลน์’

แม้จะเป็นแพลตฟอร์ม ‘ออนไลน์’ แต่ลาซาด้ามองว่าไม่ได้มาเพื่อดิสรัป ‘ออฟไลน์’ แต่สามารถเติบโตไปด้วยกันได้ ลาซาด้าจึงใช้กลยุทธ์ O2O (Online to Offline) โดยช่วงก่อน COVID-19 ที่ผ่านมาได้เปิดตลาดนัด LOL ที่ห้างสรรพสินค้า อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ เอ็มควอเทียร์ โดยให้ร้านค้าออนไลน์ในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น อินสตาแกรม มาเปิดร้านกับลาซาด้า และเปิดร้านขายสินค้าในตลาดนัดเพื่อให้ผู้บริโภคได้เห็นสินค้าจริงก่อนที่จะสั่งซื้อบนลาซาด้า ซึ่งกิจกรรมนี้จะจัดทุก ๆ ไตรมาส มีร้านค้าเข้าร่วมประมาณ 100-300 ร้านค้า

แต่ในปีนี้ ลาซาด้าได้ปรับกลยุทธ์ O2O ใหม่เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดีและสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดแบบไม่ไร้รอยต่อ หรือ seamless experience โดยลาซาด้าได้เปิดป๊อปอัพสโตร์ ‘Lazada On Ground’ แห่งแรกในประเทศไทย ณ สยามเซ็นเตอร์ โดยสโตร์ดังกล่าวจะโชว์สินค้ากว่า 40 แบรนด์ พร้อมกับสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ นอกจากนี้ยังมีสตูดิโอไลฟ์ขายสินค้าโชว์กันสด ๆ เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ถึงมกราต้นปีหน้ากันเลยทีเดียว

เรียกได้ว่า ลาซาด้าไม่ใช่แค่บุกเบิกเอาแคมเปญ 11.11 มาสู่ประเทศไทยและภูมิภาค แต่ยังนำเทรนด์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกอีคอมเมิร์ซ ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์ขายของ หรือการผสานโลกออฟไลน์และออนไลน์ อย่างไรก็ตาม นี่ก็ใกล้ถึงวันที่ 11.11 แล้ว เหล่านักช้อปทั้งหลายอย่าลืมวอร์มนิ้วให้พร้อมกับแคมเปญ Lazada 11.11 Biggest One-Day Sale ถูกสุดในรอบปี วันนี้วันเดียว เพื่อช้อปของดีในราคาลดกระหน่ำ พร้อมสิ่งพิเศษมากมายจากลาซาด้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การแจกคูปอง 1,111 บาทแจกทุก 11 โมง ตั้งแต่วันที่ 1-11 พ.ย. 2563 เท่านั้น
  • คูปองจัดส่งฟรีทั่วไทย*
  • 5% cashback** สำหรับสินค้าLazMall ทุกชิ้น
  • Flash Sale เริ่มต้น 11 บาท
  • Crazy Brand Mega Offers เวลาเที่ยงคืน – ตี 2

และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.lazada.co.th/11-11/

]]>
1304602