Star Voyager – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 23 Apr 2025 08:57:38 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 StarDream Cruises เปิดเส้นทางแหลมฉบัง-สมุย-สิงคโปร์ ดันไทยฮับเรือสำราญอาเซียน https://positioningmag.com/1519142 Tue, 22 Apr 2025 15:19:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1519142 ไมเคิล โก๊ะ ประธานบริษัท StarDream Cruises ผู้ดำเนินธุรกิจเรือสำราญรายใหญ่ กล่าวว่า ธุรกิจเรือสำราญ เป็นอีกหนึ่งการส่งเสริมด้านท่องเที่ยวระหว่างประเทศ โดยปีที่ผ่านมา StarDream Cruises มีผู้โดยสารเฉพาะเส้นทางสิงคโปร์กว่า 6 แสนคน และที่ผ่านมาได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจีน ไต้หวัน อินเดีย และฮ่องกง

เบื้องต้น ได้เปิดเส้นทางการเดินเรือใหม่ คือ แหลมฉบัง-เกาะสมุย-สิงคโปร์ โดยใช้ประเทศไทยเป็นท่าเรือต้นทาง (Home Port) ครั้งแรก จากเดิมมีเฉพาะเส้นทางสิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน ญี่ปุ่นมากกว่า

“ประเทศไทยเป็นเดสติเนชั่นท่องเที่ยวยอดฮิต ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจ เราได้ลงทุน 50 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.6 พันล้านบาท) รีโนเวตเรือสำราญ Star Voyager เจาะผู้บริโภคระดับกลาง-บน จุคนได้ราว 1,940 คน“

ตัวอย่างห้องพักบนเรือ Star Voyager

โดยเส้นทางดังกล่าวระหว่างไทย-สิงคโปร์ จะเปิด 2 รอบ คือ วันที่ 22 เม.ย. 68 และ 7 พ.ค. 68 ซึ่งรูทท่องเที่ยวแหลมฉบัง-สมุย-สิงคโปร์ ใช้เวลาประมาณ 6 วัน 5 คืน

“การเปิดตัวในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการล่องเรือของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายกลุ่มมายังไทย สนับสนุนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้เติบโต”

ส่วนทาร์เก็ตหลักเส้นทางแหลมฉบัง-เกาะสมุย-สิงคโปร์ วางไว้เป็นคนไทย 40-50% และคนจากประเทศใกล้เคียงบริเวณนั้น ๆ

เจาะผู้บริโภคทั้งกลุ่มเพื่อน คู่รัก และครอบครัว เนื่องจากบนเรือมีกิจกรรมหลากหลาย เหมาะกับทุกกลุ่มอายุ เช่น

  • สวนสนุก Adventure Park, สวนน้ำ Aqua Park และสไลเดอร์
  • สวนน้ำสำหรับเด็ก และกำแพงปีนหน้าผาจำลอง
  • ลานโบว์ลิ่ง, ซิปไลน์ และกิจกรรมในธีมพิเศษต่าง ๆ
  • การแสดง Live Performances โรงละคร Zodiac Theatre
ตัวอย่างกิจกรรมบนเรือสำราญ Star Voyager

โดยประเมินว่า ท่าเรือประจำการแหลมฉบังจะเป็นกลไกลำคัญในการเปิดโอกาสให้สามารถต่อยอดการท่องเที่ยว จากกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางโดยเครื่องบินแล้วต่อด้วยการล่องเรือ (Fly-Cruise) ในไทยได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ StarDream Cruises ยังมีแผนขยายเส้นทางไปยังเมืองอื่น ๆ ในเอเชียเพิ่มเติม อาทิ ก่อนหน้านี้มีเปิดเส้นทางในดูไบ รูปแบบเป็นซีซั่น

โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีเรืออยู่ 3 ลำ ได้แก่

  • Star Voyager (เรือในเครือ StarCruises) ความจุ 1,940 คน เจาะเส้นทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • Star Navigator (เรือในเครือ StarCruises) ความจุประมาณ 2,500 คน เน้นเส้นทางสิงคโปร์ และเตรียมส่งไปขยายเส้นทางไต้หวัน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ 8 เดือน
  • Genting Dream (เรือในเครือ Dream Cruises) มีขนาดใหญ่สุด ความจุ 4,500 คน เน้นบริการระดับพรีเมียม

ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวเรือสำราญมีการใช้จ่ายเงินค่อนข้างสูง ดังนั้นในเชิงการท่องเที่ยว การมีเรือสำราญเข้าเทียบท่าในแหลมฉบัง ถือเป็นการเพิ่มช่องทางการเดินทางให้ต่างชาติเข้าไทยได้มากขึ้น

โดยที่ผ่านมา “ไทยเป็นจุดหมายปลายทางของเรือสำราญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

สะท้อนจาก สถิติเรือสำราญขนาดใหญ่เข้าประเทศไทย ปี 2567 อ้างอิงศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) พบว่า มีเรือสำราญเข้าไทย 162 เที่ยว เพิ่มขึ้น 21.8% คิดเป็นจำนวนผู้โดยสาร 379,036 คน เพิ่มขึ้น 6.95% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) สร้างรายได้เข้าไทย 1.89 พันล้านบาท

สถิติเรือสำราญเข้าไทย ปี 2567
สำหรับท่าเรือที่มีเรือสำราญเข้ามามากสุดได้แก่
  • อ่าวป่าตอง จังหวัดภูเก็ต
  • ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี
  • เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
  • ท่าเรือน้ำลึกจังหวัดภูเก็ต
  • ท่าเรือศรีราชา จังหวัดชลบุรี
โดย Top 5 นักท่องเที่ยวเรือสำราญเข้าไทยมากสุด คือ
  • สิงคโปร์ 82,467 คน (21.8%)
  • สหราชอาณาจักร 55,382 คน (14.6%)
  • มาเลเซีย 44,503 คน (11.7%)
  • สหรัฐอเมริกา 42,421 คน (11.2%)
  • เยอรมนี 32,727 คน (8.6%)
]]>
1519142