T-Beauty – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 04 Nov 2025 00:09:24 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘คาร์มาร์ท’ ปูทางสู่ Global Brand ‘หมื่นล้าน’ https://positioningmag.com/1545335 Mon, 03 Nov 2025 14:45:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1545335 ‘คาร์มาร์ท’ (Karmart) ผู้นำเข้าเครื่องสำอางจากเกาหลี และเจ้าของเครื่องสำอาง T-Beauty ที่มีแบรนด์ในพอร์ตถึง 21 แบรนด์ กำลังเดิมพันครั้งใหญ่ด้วยการนำ CATHY DOLL บุกประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นตลาดที่ทั้ง ‘โหด’ และ ‘หิน’ เพื่อเป็นหมุดหมายแรกสำหรับปูทางสู่การเป็น Global Brand และผลักดันรายได้แตะ 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2573

 

“ไม่มีเครื่องสำอางแบรนด์ไทยแบรนด์ไหนไปเกาหลีเลย เพราะที่นั่นมีความเป็นชาตินิยม และในตลาดมีแบรนด์เกาหลีให้เลือกมากกว่า 5,000 แบรนด์ เรียกได้ว่า เป็นตลาดหินสุด ๆ เราก็เลยอยากเริ่มการไปสู่แบรนด์ระดับโลกกับที่นี้ ลองดูว่า จะทำได้ไหม เหมือนครั้งนึงเราภูมิใจที่คนดังระดับโลกที่คนติดตามเป็นร้อยล้านคนก็เคยใช้เรา เช่น บ้านคาร์เดเชียน หรือจะเป็นวง Blackpink”

 

‘พงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล’ รองกรรมการฯ สายงานสื่อสารการตลาด และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) เล่าถึงการส่ง CATHY DOLL ไปบุกประเทศเกาหลีเป็นครั้งแรก พร้อมอธิบายเหตุผลที่คาร์ทมาร์ทอยากเป็นแบรนด์ระดับโลกว่า

 

1.เนื่องจากบริษัทฯ จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ จึงจำเป็นต้องสร้างและขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อสร้างให้เกิดการเติบโตตลอดเวลา และการไปตลาดโลกถือเป็นตลาดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะหลังช่วงโควิดระบาด  ที่ T-Beauty ได้รับความนิยมและเติบโตเป็นอย่างมาก

 

2.การไปสู่ตลาดโลกเป็นความฝันของแบรนด์ไทยหลาย ๆ แบรนด์ รวมถึงคาร์มาร์ทที่ ต้องการสร้าง Legacy เป็นก้าวแรกของ T-Beauty แบรนด์ไทยที่สามารถบุกตลาดระดับสากลได้สำเร็จ  

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะมี ‘สินค้าดี’ แต่การจะไปตลาดโลกแบบ ‘ฉายเดี่ยว’ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคู่แข่งเยอะ และแต่ละแบรนด์มีจุดแข็งของตัวเอง ดังนั้นกลยุทธ์ในเรื่องนี้ของคาร์มาร์ท จึงให้ความสำคัญกับการมี ‘พาร์ทเนอร์’ ที่ดีมีชื่อเสียงระดับโลก เพื่อช่วยสร้างการรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว และทำให้แบรนด์มีความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้น

 

“ใคร ๆ ก็ทำแบรน์แล้วออกไปขายต่างประเทศได้ แต่จะสำเร็จได้ต้องมีปัจจัยอื่น ไปแบบมีความแข็งแรง ไปแบบมีเรื่องราว หรือ history ถึงจะเข้าไปในตลาดที่ยาก ๆ ได้ ถามว่า ท้าทายหรือไม่ ยอมรับท้าทาย แต่เราอยากไปให้ถึง”

 

นั่นจึงเป็นที่มาของ CATHY DOLL X  MAENG คอลเลกชั่นที่คาร์ทมาร์ทสร้างสรรค์ร่วมกับ MAENG หรือ Lee Myun Sun เมคอัพอาร์ทิสต์ระดับโลก ผู้อยู่เบื้องหลังความงามของซูเปอร์สตาร์ K-Pop และคนดังหลายต่อหลายคน หนึ่งในนั้น ก็คือ ‘โรเซ่ และลิซ่า แห่ง Blackpink’

 

“MAENG เคยสร้างไวรัลให้เราด้วยการใช้สินค้าแบรนด์ Baby Bright ของเราแต่งหน้าให้โรเซ่ Blackpink จนเกิดเป็นกระแสไวรัลในโซเชียล มีเดีย สินค้าในสต็อกกว่า 30,000 ชิ้นสามารถขายหมดใน 2-3 อาทิตย์ เราเสนอโปรเจกต์นี้กับ MAENG ไป 2 ปี และพัฒนาสินค้าอีกเกือบ 2 ปี จากประสบการณ์ในการทำงานของเขา 20 ปีผ่านมุมมองมืออาชีพระดับโลกที่ใช้งานจริง ใช้แล้วใช้อีก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยให้เราประสบความสำเร็จในตลาดสากลได้ดี”

 

โดยคอลเลกชั่นนี้พัฒนาขึ้นมาภายใต้หลัก ‘less but pro’ น้อยชิ้นแต่ได้ฟินิชระดับโปร เพื่อให้ผิวเป็นผิว ผู้ใช้รู้สึกมั่นใจและใช้งานได้จริงในทุกวันแบบไม่ ‘ตายกล้อง’ เบื้องต้นมีด้วยกัน 8 ไอเทม อาทิ Skin-Like Waterfall Cushion, Fix & Fill Setting Spray, Artist Eyebrow Powder เป็นต้น

 

‘ออนไลน์’ ประตูแห่งโอกาสสู่ตลาดโลก

 

สำหรับช่องทางขายในประเทศ จะเน้นวางจำหน่ายที่ Beauty Stroe เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสได้ลอง และเลือกตามความเหมาะสม เช่น Beautrium, EVEANDBOY และ CATHY DOLL Shop ควบคู่ไปกับการเน้นช่องทางออนไลน์ ทั้งผ่านเว็บไซต์ของคาร์มาร์ท, Shopee, Lazada, TikTok, Konvy

 

ขณะที่ตลาดต่างประเทศ จะเริ่มจากช่องทางออนไลน์ และจะดูผลตอบรับก่อนจะขยายสู่ช่างทางอื่น โดยคอลเลกชั่น CATHY DOLL X  MAENG จะวางขายในเกาหลีเป็นประเทศแรกช่วงเดือน พ.ย. 2568 และจะวางขายใน ‘ญี่ปุ่น’ ไม่เกินเดือน มี.ค. 2569

 

จากนั้นจะขยายไปประเทศอื่นไม่ต่ำกว่า 13 ประเทศ หลัก ๆ จะอยู่ในเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม ลาว ไต้หวัน จีน และประเทศในตะวันออกกลาง

สหรัฐฯ เป้าหมายต่อไป

 

‘วงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นอกจากเกาหลีแล้ว ทาง บริษัทฯ มีแผนจะบุกตลาดสหรัฐฯ อย่างจริงจังในปี 2569 หลังจากเมื่อต้นไตรมาส 4 ของปีนี้ได้มีการวางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ และได้รับการตอบรับที่ดี

 

โดยการบุกตลาดสหรัฐฯ จะได้เห็นความร่วมมือกับเมคอัพอาร์ทิสต์ระดับโลก รวมถึงการเปิดแบรนด์ใหม่สำหรับจับตลาดนี้โดยเฉพาะ

 

“ปัจจุบันสินค้าของเราวางจำหน่ายใน 33 ประเทศ ซึ่งตลาดสหรัฐฯ หินไม่แพ้จีนและเกาหลี เพราะแบรนด์ของสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งและมีให้เลือกมากมาย ทั้งแบรนด์ระดับโลกและ Celebrity Brand แต่เราก็มีกลยุทธ์ของเราที่จะบุกตลาดนี้ เพื่อให้ก้าวสู่การเป็น  Global Brand อย่างแท้จริง จึงอยากให้รอติดตาม”

 

ตั้งเป้ารายได้ 10,000 ล้านบาทในอีก 5 ปี

 

สำหรับเป้าหมายของบริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) ต้องการมียอดขายรวม 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2573 ซึ่งการก้าวสู่การเป็น Global Brand จะมีส่วนสำคัญให้การทำให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้

 

โดยนอกจาก CATHY DOLL อีกแบรนด์ที่ต้องการผลักดันสู่ตลาดต่างประเทศ ก็คือ แบรนด์สปา ‘รื่นรมย์’ (REUNROM) ซึ่งเติบโตมากกว่า 100% ในปีนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ศักยภาพของสินค้าแบรนด์ไทยที่ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก

 

“ปีนี้เราตั้งเป้ารายได้แบรนด์รื่นรมย์อย่างน้อย 130 ล้านบาท ส่วนปีถัดไปจะมีการเพิ่มไลน์โปรดักต์ และจะพาไปต่างประเทศ ด้วยเป้าหมายต้องการให้เป็น top 5 ของแบรนด์สปาของไทย โดยมีการขายในตะวันออกกลาง และมีแผนเปิด Pop-up store หลายแห่งในเอเชีย”

 

สุดท้ายแล้ว Positioning ถามกรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) มั่นใจรึไม่ว่า จะพาคาร์มาร์ทที่เป็น T-Beauty โลดแล่นสู่เวทีแบรนด์ระดับโลกได้ คำตอบ คือ ‘มั่นใจ’

 

และระยะเวลาความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้เร็วขึ้น หากได้แรงหนุนจากภาครัฐ แทนที่ผู้ประกอบการจะลงทุนลงแรงด้วยตัวเองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เหมือนกับที่รัฐบาลเกาหลีสนับสนุนจน K -Beauty ได้รับความนิยมบนเวทีโลกไปเรียบร้อยแล้ว

]]>
1545335
“สัมมา ศรีปรัชญาอนันต์” ทายาทพรเกษมคลินิก ปั้น Skinpro Rx สกินแคร์ร้อยล้านภายใน 2 ปี https://positioningmag.com/1528626 Wed, 02 Jul 2025 09:44:12 +0000 https://positioningmag.com/?p=1528626 ตลาดความสวยความงามในไทยยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะไม่ค่อยสู้ดี แต่ผู้บริโภคยังคงต้องดูแลตัวเอง แต่หันมาเลือกแบรนด์ที่มีความคุ้มค่ามากขึ้น รวมไปถึงเลือกถึงส่วนผสม ทำให้ตลาด T-Beauty หรือแบรนด์สกินแคร์ เครื่องสำอางสัญชาติไทยได้รับความนิยมมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ Skinpro Rx แบรนด์ที่อยู่ภายใต้ “พรเกษมคลินิก” ที่สามารถสร้างรายได้หลักร้อยล้านภายในระยะเวลา 2 ปีเท่านั้น

ต่อยอดจากพรเกษมคลินิก

เมืองไทยขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองร้อน มีอากาศร้อนชื้นอยู่ตลอดทั้งปี ประกอบกับมลภาวะที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้คนไทยมีปัญหาเรื่องผิวได้ง่าย ทั้งผิวมัน เป็นสิวง่าย บางคนผิวแพ้ง่ายต้องเข้าคลินิกที่รักษาผิวเฉพาะทาง ซึ่งหนึ่งในคลินิกที่หลายคนน่าจะรู้จักเป็นอย่างดีก็คือ “พรเกษมคลินิก” ที่ทำตลาดมากว่า 40 ปีแล้ว

พรเกษมคลินิกก่อตั้งโดย “หมอสุนทร ศรีปรัชญาอนันต์” ผู้ก่อตั้งพรเกษมคลินิก ในตอนแรกใช้ชื่อว่า “สุนทรการแพทย์” ภายหลังมีพี่ชายที่เป็นหมอผิวหนังมาร่วมทำธุรกิจด้วย จึงเปลี่ยนชื่อเป็นพรเกษมคลินิก มาจากชื่อพ่อและแม่ “พรอำไพ” และ “เกษม” เป็นคลินิกสำหรับผู้มีปัญหาผิวหนัง

Skinpro Rx

ด้วยความที่เป็นคลินิกรักษาผิวหนัง รวมถึงคนมีปัญหาสิว ผิวแพ้ง่าย ก็จะมีสินค้ากลุ่มครีม ยาทาสิวต่างๆ ที่จ่ายให้คนไข้ โดยที่ไม่ได้จำหน่ายข้างนอก เป็นเบสิกสกินแคร์หลอดขาว แปะสติ๊กเกอร์สำหรับคนมีปัญหาสิว ผิวแพ้ง่าย ผิวขาดน้ำ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ทายาทเจน 2 (ลูกสาวคนโต) เริ่มนำสกินแคร์สูตรคลินิกมาพัฒนาเป็นแบรนด์ขายนอกคลินิกแล้วหยุดไป จนมาถึง “หั่ง – สัมมา ศรีปรัชญาอนันต์” (ลูกชายคนรอง) เข้ามาสานต่อ พร้อมพัฒนาเป็นแบรนด์ Skinpro Rx

สัมมาเริ่มเล่าว่า “จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Skinpro Rx มาจากการเห็นพี่สาวทำสกินแคร์สูตรพรเกษมคลินิก จึงอยากจำหน่ายข้างนอกบ้าง ให้ลูกค้าคนอื่นที่ไม่ใช่คนไข้ของคลินิกได้ซื้อ อยากทำแบรนด์เวชสำอางในราคาที่เข้าถึงได้ มองเห็นช่องว่างในตลาดที่ไม่มีเวชสำอางในราคาที่เข้าถึงได้เลย มีแต่แบรนด์จากต่างประเทศ”

โปรเจกต์ Skinpro Rx จึงเริ่มต้นเมื่อปี 2564 จัดตั้งบริษัท พรเกษมคอสเมติก จำกัด เป็นบริษัทลูกที่ดูแลธุรกิจสกินแคร์โดยเฉพาะ หลังจากนั้นได้เริ่มจำหน่ายจริงเมื่อปี 2565 แรกเริ่มได้วางจุดยืนเป็นสกินแคร์สำหรับคนผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ ลูกค้าที่ได้ใช้ส่งข้อความมาบอกว่าใช้ดี ผิวดีขึ้นจริงๆ จากนั้นก็เริ่มคิดค้นสินค้าตัวอื่นๆ เพิ่ม

Skinpro Rx

“กว่าจะคลอดโปรเจกต์นี้ใช้เวลาเกือบปีเหมือนกัน จริงๆ พรเกษมมีสินค้าอยู่แล้ว 10 กว่าตัว แต่เลือกมาจัดกลุ่มสินค้าให้ง่ายขึ้น แล้วดูเรื่องแบรนด์ดิ้งให้ชัดเจน”

ส่วนชื่อ Skinpro Rx มีความหมายว่ามีความ Professional ด้านสกินแคร์ ใส่ Rx สื่อถึงใบสั่งยา มีความหมายว่าเป็นสกินแคร์ที่แพทย์เป็นคนจ่ายให้ มีความน่าเชื่อถือ

สัมมาเป็นทายาทพรเกษมคลินิก จบการศึกษาด้าน MBA ก่อนหน้าที่จะทำธุรกิจครอบครัวมีประสบการณ์ในการเป็นที่ปรึกษาบริหารธุรกิจ เคยทำงานที่ Shopee และ Pomelo จริงๆ แล้วสัมมาไม่ได้สนใจธุรกิจสกินแคร์ แต่เป็นคนชอบเรื่องการเงิน และการลงทุน

เวชสำอางที่เข้าใจคนไทย 

Skinpro Rx วาง Positioning เป็นเวชสำอางที่เข้าใจผิวคนไทยจริงๆ ใช้ประสบการณ์การแพทย์จากพรเกษมที่รู้เรื่องผิวคนไทย จากนั้นเอามาพัฒนาสินค้าเพิ่ม ปัจจุบันมีสินค้ารวม 30-40 รายการ แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสิว, ผิวแพ้ง่าย, เพิ่มความชุ่มชื้น, กระจ่างใส และริ้วรอย

“Skinpro Rx เกิดจาก Pain Point ที่พบว่าคนไข้ไม่มีสกินแคร์ที่ใช้แล้วผิวดีขึ้นเลย คนไทยมีปัญหาเรื่องสิว และผิวแพ้ง่ายเป็นส่วนใหญ่ จึงจับ 2 กลุ่มนี้เป็นจุดแข็งที่พรเกษมคลินิกเก่งที่สุด กลุ่มสินค้าขายดีตลอดกาลก็คือ เจลล้างหน้าไม่มีฟอง คนไข้ทุกคนต้องได้ใช้ 20-30 ปี ราคา 169 บาท และมอยเจอร์ไรส์เซอร์สำหรับผิวแพ้ง่าย”

Skinpro Rx

ตอนนี้ตลาดสกินแคร์เป็นตลาดทะเลแดงเดือด มีผู้เล่นเก่า ผู้เล่นใหม่มากมาย อีกทั้งกระแสของ T-Beauty ก็เป็นที่นิยมขึ้นมาก แต่จุดยืนที่สำคัญของแบรนด์คือมีจุดขาย มีความน่าเชื่อถือ และมีประสบการณ์จริง ทำราคาได้ถูกกว่าแบรนด์จากต่างประเทศ ทำให้เข้าถึงคนไทยได้ง่าย

อีกทั้งยุคนี้เป็นยุคที่ผู้บริโภคมีความรู้มากขึ้น มองหาสกินแคร์จากส่วนผสม รู้ข้อมูลส่วนผสมที่เหมาะกับผิวมากขึ้น เป็นโอกาสสำหรับแบรนด์ใหม่ๆ เช่นกัน

ปั้นรายได้ร้อยล้านภายใน 2 ปี

Skinpro Rx เปรียบเหมือนสตาร์ทอัพที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีทีมงานราว 20 คน ในปี 2567 สามารถทำรายได้ 117 ล้านบาทได้ภายใน 2 ปีที่วางตลาด เติบโตจาก 31 ล้านในปี 2566 ในปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโต 2 เท่า และขยายไลน์สินค้ามากขึ้น

ปัจจุบัน Skinpro Rx เน้นช่องทางการขายผ่านออนไลน์เป็นหลักมีสัดส่วนถึง 90% มีหน้าร้านของแบรนด์ 1 สาขาที่ฟิวเจอร์ รังสิต ร้านติดกับพรเกษมคลินิก ในอนาคตอยากเข้าจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดด้วยเช่นกัน

ส่วนเป้าหมายในระยะยาว สัมมามองว่าอยากเป็นแบรนด์เวชอันดับหนึ่งที่คนไทยไว้วางใจ และอนาคตข้างหน้าอยากนำสินค้าไปจำหน่ายที่ต่างประเทศ

]]>
1528626