THG – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 02 Dec 2024 12:08:39 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 รู้จัก “อาณาจักรเวลเนสสูงวัย” ของ “หมอบุญ” จุดเริ่มต้นสู่การฉ้อโกงครั้งใหญ่ 7.5 พันล้าน https://positioningmag.com/1501474 Mon, 02 Dec 2024 08:34:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1501474 สัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวคราวของ “หมอบุญ วนาสิน” นักธุรกิจและผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี เป็นที่พูดถึง จากกรณีฉ้อโกงอาณาจักรเฮลท์แคร์ทิพย์ขนาดใหญ่ 5 โครงการ มูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท แต่คิดเป็นความเสียหายจริงจากการระดมทุนราว ๆ 7,500 ล้านบาท

หนึ่งในโครงการเมกะโปรเจ็กต์ที่ฉ้อโกงครั้งนี้ คือ การวาดฝันโครงการเวลเนสเซ็นเตอร์สำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นโครงการที่ถูกกล่าวถึงแผนการสร้างมาหลายปี ตั้งอยู่ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มูลค่า 5,000 ล้านบาท ประกอบด้วย

  • ที่อยู่อาศัย รูปแบบอาคารสูง 52 ชั้น จำนวน 400 ห้อง มูลค่าราว ๆ 5,000 ล้านบาท
  • Medical Wellness Center เป็นศูนย์การแพทย์ จำนวน 4 ชั้น

แล้วทำไมโครงการเฮลท์แคร์หมอบุญนี้ถึงตุ๋นนักลงทุนได้เป็นจำนวนมาก ?

ที่ผ่านมาหมอบุญ ได้เคยทำเวลเนสเซ็นเตอร์ จับกลุ่มผู้สูงวัยมาแล้วหลายโครงการ ภายใต้บริษัทลูกอย่าง บริษัท ไทยเมดิคอลโกลฟ จํากัด (TMG) จำนวน 4 โครงการ ได้แก่

  • ธนบุรี เวลบีอิ้ง จ.เชียงใหม่ 2 แห่ง เจาะกลุ่มสูงวัยต่างชาติ
  • จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เจาะกลุ่มสูงวัยทั้งคนไทยและต่างชาติ
  • ธนบุรี เฮลท์ วิลเลจ ประชาอุทิศ เจาะกลุ่มสูงวัยคนไทยชนชั้นกลาง

ประกอบกับไทยเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคมเข้าสู่สังคมสูงวัย โดยปี 2567 มีประชากรอายุ 60 ปี มากถึง 14 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 20%

ขณะที่ข้อมูลการสำรวจปี 2567 ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) รายงานว่า โครงการ Nursing Home และ Residence ที่เปิดให้บริการทั่วประเทศ มีจำนวน 916 โครงการ คิดเป็น 31,851 หน่วยหรือเตียง

“หากเทียบจำนวนหน่วยของเนิร์สซิ่งโฮม รวมกับที่อยู่อาศัยทั้งรูปแบบเช่าและขายขาด ที่เจาะกลุ่มซีเนียร์ จะเห็นว่ามีน้อยกว่าจำนวนผู้สูงอายุถึง 43,854% ตลาดนี้จึงมีช่องว่างพัฒนาได้อีกมาก”

ผลตอบแทนหอมหวาน โบรกเกอร์ออกหน้าชวนลงทุน

ประกอบกับ การชักชวนคนมาลงทุนโครงการเฮลท์แคร์ 5 โครงการนี้ อ้างว่า ผู้ร่วมลงทุนจะได้กำไร 700 ล้านบาทในปี 2566 และ 1,000 ล้านบาทในปี 2567 ซึ่งมีตัวกลางเป็นบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) รูปแบบการชักชวนผ่านการทำสัญญากู้ยืม มีชื่อหมอบุญ เซ็นเช็คชำระดอกเบี้ย และมีชื่อภรรยากับลูกสาวหมอบุญเป็นผู้ค้ำประกัน

ตลอดจนชื่อเสียง และเครดิตของ รพ.ธนบุรี (THG) ที่หมอบุญร่วมก่อตั้ง มีมาร์เก็ตแคประดับหมื่นล้านบาท และผลประกอบการสามารถทำกำไรสุทธิได้ทุกปี (ยกเว้นปี 2567) ดังนี้

  • ปี 2565 รายได้รวม 11,983 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,601 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้รวม 9,987 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 295 ล้านบาท
  • ช่วง 9 เดือนแรก ปี 2567 รายได้รวม 7,324 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 302 ล้านบาท

รวมไปถึงคนในครอบครัวหมอบุญ ยังถือหุ้นใหญ่ใน รพ.ธนบุรี อาทิ นางจารุวรรณ วนาสิน ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 จำนวน 120 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 14.22%, นางณวรา วนาสิน ถือหุ้นใหญ่อันดับ 6 จำนวน 25 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.03% และหมอบุญ วนาสิน ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 17 จำนวน 5.8 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.68%

“จึงทำให้ดีลนี้มีความน่าเชื่อสำหรับนักลงทุน จนปัจจุบันมียอดการแจ้งความรวม 520 คดี มีผู้เสียหาย 247 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 7,564 ล้านบาท โดยผู้เสียหายมากที่สุดเป็นนักธุรกิจที่ร่วมลงทุนมากที่สุดถึง 600-700 ล้านบาท”

]]>
1501474
รพ.ธนบุรี ผุดไอเดีย “อู่ฮั่นโมเดล” รับมือ COVID-19 ที่อาจเข้าเฟส 3  https://positioningmag.com/1268292 Sat, 14 Mar 2020 08:07:37 +0000 https://positioningmag.com/?p=1268292 บมจ. ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป เตรียมความพร้อมเปิด คลินิกธนบุรี บางซื่อ รับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID – 19 นำแนวคิดสร้างสถานพยาบาลฉุกเฉินตามอู่ฮั่นโมเดล 

นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์ แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG พูดถึงแนวคิดคลินิกคัดกรอง COVID-19 แห่งใหม่ว่า แนวคิดการสร้างสถานพยาบาลฉุกเฉินหรือคลินิกพิเศษถือเป็นการเตรียมการล่วงหน้าสอดรับกับแนวทางของรัฐบาล โดยใช้ตัวอย่างโรงพยาบาลฉุกเฉินอู่ฮั่นโมเดลจากประเทศจีน เพื่อเตรียมรับกับสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ในระยะเวลา 3 – 6 เดือนข้างหน้า 

มีข้อบ่งชี้ว่าเชื้อไวรัส COVID-19 อาจจะมีการแพร่ระบาดเข้าสู่ขั้นที่ 3 คือ ติดต่อกันเองในประเทศหรือในผู้ป่วยที่ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ หรือสัมผัสกับบุคคลที่มีเชื้ออยู่ ซึ่งอาจมาจากสาเหตุหลายประการ เช่น ผู้ป่วยหลายคนเป็นพาหะโดยไม่มีอาการ โรงพยาบาลหลายแห่งไม่สามารถรองรับผู้ป่วยโรค COVID-19 จากข้อจำกัดเรื่องสถานที่ บุคลากร ห้องปฏิบัติการ (Lab) กอปรกับการวินิจฉัยโรคในปัจจุบันยังมีจุดอ่อนหลายประการและเสี่ยงต่อการที่จะตรวจไม่พบเชื้อ หรือ ผลลบปลอม (False Negative) ซึ่งอาจเกิดจากการเก็บสารตัวอย่างในลำคอ จมูก ที่ไม่ได้มาตรฐาน การเก็บสารตัวอย่างไม่ถูกวิธี หรือ ผู้ป่วยมีเชื้อในปริมาณน้อยเพราะมีระยะฟักตัว หรือผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันสูง รวมทั้งการกลายพันธุ์ที่รวดเร็วของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่จำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการตรวจ”

ในปัจจุบันการตรวจเชื้อไวรัส COVID-19 มีหลายวิธี ในประเทศสิงคโปร์ ประเทศจีน และประเทศในแถบตะวันตก นอกจากจะใช้การตรวจด้วย PCR หรือ Polymerase Chain Reaction Test เพื่อตรวจภูมิคุ้มกัน หรือแอนติบอดี้ของร่างกายแล้ว ยังใช้วิธีการตรวจทางพันธุกรรม (DNA) Next Generation Sequencing ด้วย เพื่อให้ได้ผลตรวจที่แม่นยำยิ่งขึ้น

ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) ได้จัดเตรียมแผนสำหรับการรับมือสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ไว้ เฟส ดังต่อไปนี้

เฟสที่ 1 

เปิดบริการคลินิกคัดแยกผู้ป่วย (Triage Building) และห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย (Laboratory) สำหรับทำ CT Scan Chest Tomography ที่บางซื่อ ซึ่งจะเปิดให้ดำเนินการทันทีที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 3 ไร่ ใกล้ทางด่วน สถานีรถไฟ และสถานีขนส่งผู้โดยสาร โดยจะมีห้องแยกผู้ป่วย 50 ห้อง ห้องพักดูอาการความจุ 20 เตียง ซึ่งจะมีการแยกห้องตรวจระหว่างผู้ป่วยที่มีไข้หวัดธรรมดาและผู้ป่วยที่สงสัยจะติดเชื้อออกจากกัน

สามารถรองรับการให้บริการแบบบุคคลหรือองค์กร ที่ต้องการดูแลผู้ป่วยหรือพนักงานที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างใกล้ชิด อาทิ บริษัท สายการบิน สถานทูต หน่วยงานข้าราชการ และองค์กรต่าง ๆ ที่จะต้องเดินทางไปต่างประเทศ และต้องการผลการตรวจที่เร็วกว่า 14 วัน ก็จะมีการตรวจด้วย Next Generation Sequencing (NGS) เพื่อวิเคราะห์ลักษณะทางพันธุกรรมของไวรัส COVID-19 เนื่องจากเทคโนโลยีนี้สามารถอ่านรหัสพันธุกรรม จำแนกลักษณะจีโนมของไวรัสได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ และมีบทบาทสำคัญในการจำกัดการระบาดของไวรัส ซึ่งใช้ได้ผลมาแล้วในประเทศจีน

เฟสที่ 2 

โรงพยาบาลสนาม กรณีที่มีการแพร่ระบาดเข้าสู่ขั้นที่ 3 จะพัฒนาพื้นที่สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อแต่ไม่วิกฤติจำนวน 200 เตียง และห้องผู้ป่วยวิกฤติ (ICU) อีก 50 เตียง โดยโรงพยาบาลสนามแห่งนี้จะตั้งอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า บนพื้นที่ 4 ไร่ โดยใช้ระยะเวลาในการเตรียมการ 6-8 เดือน

เฟสที่ 3 

โรงพยาบาลพักฟื้น สำหรับรองรับผู้ป่วยจำนวนมาก ที่จำเป็นต้องรักษาตัวและฟื้นฟูร่างกายในโรงพยาบาลระยะเวลานานๆ โดยสามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 1,000-1,500 เตียง ซึ่งปัจจุบันมีความพร้อมในการให้บริการที่โรงพยาบาลในเครือธนบุรีหลายแห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

แต่แนวคิดดังกล่าวอยู่ในระหว่างการให้คณะผู้บริหาร THG เร่งศึกษาและวางแผนการดำเนินงาน เพื่อการรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที โดยจะได้เข้าหารือกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอรับคำแนะนำต่อไป ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเเพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในประเทศด้วย

]]>
1268292