TrueVisons NOW – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 01 Aug 2025 14:14:36 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เสียพรีเมียร์ลีกแล้วไง! ‘ทรู’ ฉก ‘BeIN’ สู้กลับ ‘เอไอเอส’ ดูบอล 9 ลีก 15 ถ้วย ราคา 199 บาท https://positioningmag.com/1532042 Fri, 01 Aug 2025 09:36:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1532042 อย่างที่หลายคนรู้กัน ว่าตลอดช่วง 20 ปี ที่ผ่านมา ผู้ที่ได้ลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกมากที่สุดก็คือ True Visions โดยได้ลิขสิทธิ์ตั้งแต่ฤดูกาล 2007-2008 มาจนถึง 2012-2013 มีเพียงฤดูกาล 2013-2016 ที่เสียลิขสิทธิ์ให้กับ บริษัท เคเบิลไทยโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) จำกัด หรือ CTH และฤดูกาล 2016-2019 ให้กับ beIN Sports แต่สุดท้าย ทรูก็ร่วมเป็นพันธมิตรในการถ่ายทอดสด 

นับจากนั้น True Visions ก็กลับมาได้ลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกลากยาวต่อเนื่องตั้งแต่ฤดูกาล 2019-2022 จนถึงฤดูกาลปี 2022-2025 จนมาฤดูกาล 2025-2026 ไปจนถึง 2030-2031 เป็นอีกครั้งที่ True Visions เสียลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกไป เพราะมองว่า ไม่คุ้ม ที่จะลงทุนในราคา 19,000 ล้านบาท โดยบริษัทที่ได้ลิขสิทธิ์ไปในครั้งนี้ก็คือ JAS หรือ บมจ. จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ที่มีแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง MonoMax

แต่การเสียลิขสิทธิ์ไปครั้งนี้ ไม่เหมือนกับ 2 ครั้งก่อน เพราะผู้ที่ได้ไปคือ JAS ซึ่ง AIS เพิ่งเข้าซื้อหุ้นใน บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ 3BB ในเครือ JAS ดังนั้น ในเมื่อ JAS ได้ลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกไป AIS (เอไอเอส) จึงถูกมองว่าต้องได้ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกแบบนอน และก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ 

ซึ่งหลายคนจะเห็นแล้วว่า หลังจากที่ AIS มีพรีเมียร์ลีกในมือ ก็รุกหนักเพื่อโกยลูกค้าใหม่เข้าค่าย โดยให้ดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในราคา 199 บาทต่อเดือน และ 1,999 บาทต่อปี หากเป็นลูกค้า AIS จากราคาเต็ม 299 บาทต่อเดือน และ 2,999 บาทต่อปี

นอกจากนี้ เอไอเอสยังใช้พรีเมียร์ลีกในการจับลูกค้าที่ไม่เคยเข้าถึงมาก่อนอย่าง กลุ่มร้านอาหารและสถานบันเทิง ที่มีกว่า 50,000 ร้านทั่วไทย ด้วยแพ็กเกจพรีเมียร์ลีกสำหรับผู้ประกอบการในราคา 2,800 บาท/เดือน พร้อมสิทธิ์รับชมพรีเมียร์ลีก และเอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ ครบทุกแมตช์ 

ในขณะที่ดูเหมือนทรูจะเพลี่ยงพล้ำที่เสียพรีเมียร์ลีกไปให้คู่แข่งอย่าง AIS แถมยังอัดโปรฯ หวังดึงลูกค้าย้ายค่ายรัว ๆ โดยอันดับแรกที่ทำเลยก็คือ จัดโปรโมชันให้ลูกค้าทรูที่สมัครดูพรีเมียร์ลีกได้ผ่าน Monomax ได้ในราคา 199 บาท โดยไม่ต้องย้ายค่าย เพราะทรูลดราคาให้เองเลย 

แน่นอนว่าโปรฯ ดังกล่าวจัดได้ไม่นานก็ต้องยกเลิกไป เพราะ JAS ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีดังกล่าวทันที พร้อมกัส่งหนังสือแจ้งไปยังทรู เพื่อให้ยุติการเผยแพร่โปรโมชันดังกล่าวในทันที

แต่ล่าสุด ทางทรูก็แก้เกมโดยการฉก BeIN Sports มาเป็น Exclusive Partner พร้อมออกแพ็กเกจใหม่ NOW FOOTBALL ดูฟุตบอลสด 9 ลีก 15 ถ้วย อาทิ UEFA Champions League, UEFA Europa League, UEFA Conference League, La Liga และ Calcio Serie A เป็นต้น ในราคา 199 สำหรับลูกค้าทรู และราคา 259 บาท สำหรับลูกค้าทั่วไป

ซึ่งนั่นทำให้ AIS ต้องยกเลิกแพ็กเกจดูบอลราคา 299 บาทต่อเดือน ที่รวมเอา BeIN Sports Connect ออกไป แปลว่า AIS จากเดิมที่เก็บลิขสิทธิ์ฟุตบอลครบทุกถ้วย ทุกลีก ตอนนี้เลยเหลือเพียงพรีเมียร์ลีก และฟุตบอลถ้วยในอังกฤษอย่าง FA cup, Carabao Cup (แต่ก็เป็นลีกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในไทย)

นอกจากนี้ ทางทรูยังปรับแพ็กเกจใหม่ของทรูวิชั่นส์ จากเดิมที่แบ่งตามแวร์ลู่ของคอนเทนต์ ให้เข้าใจง่ายขึ้น โดยเป็นการแบ่งชัดระหว่างแพ็กเกจบันเทิงกับกีฬา แถมทำราคา ถูกลง ได้แก่

  • NOW ENT : ดูได้เฉพาะคอนเทนต์บันเทิงทั้งหมด (ละคร ซีรีส์ ภาพยนตร์ วิดีโอสั้น สารคดี) โดยมี 3 ราคา ได้แก่ 99 บาท (ดูได้เฉพาะบนมือถือ 1 จอ) 199 บาท (1 จอบนทุกอุปกรณ์ พร้อมแอป IQIYI) และ 299 บาท (ดูพร้อมกัน 2 จอบนทุกอุปกรณ์พร้อมแอปเอเซียสุดฮิต IQIYI, WeTV และ VIU) 
  • NOW FOOTBALL : ดูเฉพาะฟุตบอลสด 9 ลีก 15 ถ้วย มากที่สุดในไทย พร้อมพากย์สดด้วยนักพากย์ระดับแถวหน้าของประเทศ ราคา 199 สำหรับลูกค้าทรู และราคา 259 บาท สำหรับลูกค้าทั่วไป (ดูได้ 1 จอบนทุกอุปกรณ์) 
  • NOW SPORTS : ดูได้ทครบทุกกีฬา สด ครบ กีฬามันส์มากกว่า 11,000 แมตช์ ราคา 699 บาท (ดูได้ 1 จอบนทุกอุปกรณ์)
  • NOW MAX : มัดรวมทุกแพ็กราคา 1,599 บาท (ดูพร้อมกันสูงสุด 4 จอบนทุกอุปกรณ์)

องอาจ ประภากมล หัวหน้าสายงานทรูวิชั่นส์ และมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ยอมรับว่า แม้จะไม่ได้คว้าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก แต่ทางทรูวิชั่นส์ได้ใช้งบลงทุนด้านคอนเทนต์ เพิ่มขึ้น 20% และมองว่าการแข่งขันในปัจจุบันเน้นที่ความ Exclusive ของคอนเทนต์ ซึ่งในฝั่งของกีฬา ทรูมั่นใจว่ามีความ กว้าง ที่สุดครบทุกหมวดหมู่

ในส่วนของคอนเทนต์บันเทิง ก็จะมีภาพยนตร์ใหม่ ๆ ที่เป็น Exclusive อย่างน้อยเดือนละ 1 เรื่อง หรือในกลุ่มอนิเมชั่นก็จะมีบางเรื่องที่ ฉายพร้อมญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมีการลงทุน 200 ล้านบาทในการผลิต ออริจินอลคอนเทนต์ ของตัวเอง รวมแล้ว ในฝั่งคอนเทนต์บันเทิงของทรูวิชั่นส์นาวมีกว่า 2,000 รายการ รวมเวลากว่า 30,000 ชั่วโมง

จากการปรับทัพใหม่ในครั้งนี้ ทาง องอาจ วางเป้าหมายไว้ว่าจะสร้างการเติบโตของจำนวนผู้ใช้ 50% ภายในปีนี้ จากปัจจุบันมีฐานลูกค้า 1.2 ล้านราย โดยเชื่อมั่นว่า จุดแข็งของทรูวิชั่นส์นาวคือ ความหลากหลาย และ ความคุ้นเคยของผู้ใช้ ที่ทำให้ลูกค้าจะไม่ ย้ายค่ายง่าย ๆ

เรียกได้ว่ารอบนี้ ทรูแก้เกมมาดีเลยทีเดียว ทั้งการฉกเอา BeIN Sports มาอยู่ในมือ ทั้งการจัดแพ็กเกจใหม่ให้เข้าใจง่ายขึ้น คงต้องรอดูว่า AIS จะมีอะไรออกมาอีกหรือไม่ หรือสงครามสตรีมมิ่งของทั้ง 2 ค่ายจะยุติลงแต่เพียงเท่านี้ ต้องติดตาม

]]>
1532042
ค่ายไหนดี? ‘AIS Play’ หรือ ‘TrueVisions Now’ เทียบกันชัด ๆ ใครเสิร์ฟคอนเทนต์โดนใจที่สุด https://positioningmag.com/1522902 Thu, 22 May 2025 09:05:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1522902 นับตั้งแต่ที่ JAS หรือ บมจ. จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล คว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025-2028 ด้วยการลงทุนกว่า 19,000 ล้านบาท หลายคนก็น่าจะเดาได้ว่า บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส (AIS) น่าจะเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ในการถ่าย ทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก แล้ว TRUE ที่ไม่มีพรีเมียร์ลีก ยังน่าเป็นสมัครสมาชิกอยู่ไหม หากเทียบกับเอไอเอส?

King of Sports ที่ไม่มี พรีเมียร์ลีก

ตำแหน่ง King of Sports ที่ TrueVisions มักจะย้ำอยู่เสมอ ไม่ได้หมายถึงแค่การมี พรีเมียร์ลีก แต่หมายถึง ความหลากหลายของกีฬาด้วย ไม่ว่าจะเป็นลีกลาลีกา, บุนเดสลีกา, ลีกซาอุฯ, ลีกสหรัฐฯ, รวมถึงรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, ยูโรป้าลีก ส่วนกีฬาอื่น ๆ ก็มีครบ ทั้ง NFL, NBA,F1, มอเตอร์สปอร์ต, เทนนิส, กอล์ฟ, UFC, MLB ฯลฯ เป็นต้น และมีความเป็นไปได้ที่ True Visons จะคว้าสิทธิ์ ไทยลีก ในปีนี้

ดังนั้น แม้ว่า True Visons ในวันที่เสียพรีเมียร์ลีกไป จึงยังคงมองว่าตัวเองเป็น King of Sports อยู่ แต่ก็ต้องยอมรับว่า แม้ว่าจะมีรายการกีฬาแทบจะทั้งโลกมัดรวมไว้แล้ว แต่รายการที่มีผู้ชมมากที่สุด และถูกพูดถึงมากที่สุดในไทย อย่างไรก็ยังเป็นพรีเมียร์ลีก ดังนั้น เอไอเอส ถือว่ายังชิงความได้เปรียบอยู่

TrueVisions เน้นลงทุนผลิตและซื้อคอนเทนต์เอง

แน่นอนว่าการเสียพรีเมียร์ลีกไป ย่อมส่งผลกับ จำนวนสมาชิก โดยเฉพาะแฟนพรีเมียร์ลีกที่ไหลออกไป แต่จะมากน้อยแค่ไหนคงต้องรอดดูกัน อย่างไรก็ตาม เราปฏิเสธไม่ได้ว่า แม้หมวดหมู่กีฬาจะได้รับความนิยมแค่ไหน แต่ก็ยัง น้อยกว่าบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ ละคร การ์ตูน รวมถึงรายการวาไรตี้ ที่คนดูมากกว่ากีฬาอยู่แล้ว

ซึ่ง TrueVisons ก็นำงบที่เคยใช้กับพรีเมียร์ลีกมาลงทุนกับคอนเทนต์บันเทิง ทำให้คอนเทนต์ที่เป็น เอ็กซ์คลูซีฟ หรือ ออริจินอล ดูเหมือนจะเปรียบกว่า โดยมีภาพยนตร์ และซีรีส์ที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟ รวมถึงมีรูปแบบคอนเทนต์ที่หลากหลายกว่า เช่น ซีรีส์ในรูปแบบวิดีโอสั้นแนวตั้ง

AIS Play เน้นจับมือพาร์ทเนอร์

ในฝั่งของ AIS Play แม้จะเคยทำออริจินอลของตัวเองบ้าง แต่ปัจจุบันทางแพลตฟอร์มไม่ได้เน้นอีกต่อไป แต่จะกลยุทธ์ จับมือพาร์ทเนอร์ แทนที่จะผลิตคอนเทนต์เอง เพราะมองว่าตัวเองไม่ได้ถนัด ดังนั้น AIS Play จึงมี แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งแทบทุกรายเป็นพาร์ทเนอร์ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งไทย เอเชีย และตะวันตก ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Max, Prime Video, Disney+ Hotstar, iQiYi, Viu, WeTV, Mono Max เป็นต้น

ส่วนฝั่ง TrueVisions เองก็มีพาร์ทเนอร์แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ได้แก่ Max, iQiYi, Viu, WeTV ซึ่งมีมากไม่เท่า AIS Play แต่ก็มีเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์ และออริจินอลคอนเทนต์ของตัวเอง ดังนั้น จะเห็นว่าทั้ง TrueVisions และ AIS Play ต่างก็มีกลยุทธ์ที่ต่างกัน

ราคา อีกปัจจัยสำคัญในการเลือก

สำหรับ TrueVision จะมีให้เลือก 4 แพ็กเกจหลัก ได้แก่

  • TrueVisions NOW POP: ราคา 119 บาทต่อเดือน แพ็กเกจเน้นคอนเทนต์ไทย เช่น ซีรีส์ ภาพยนตร์ และกีฬาไทย
  • TrueVisions NOW PLUS: ราคา 249 บาทต่อเดือน แพ็กเกจสำหรับคอซีรีส์ไทย จีน, เกาหลี, ญี่ปุ่น,    อนิเมะ และกีฬาดัง เช่น F1, ฟุตบอลลีก และถ้วยยุโรปชั้นนำ และชมฟรีซีรีส์ดังจากแอปฯ IQIYI
  • TrueVisions NOW PRIME: ราคา 449 บาทต่อเดือน รับชมภาพยนตร์ วาไรตี้ สารคดี กีฬาดังระดับโลก MOTO GP, NBA, NFL สามารถดูซีรีส์จีน และอนิเมะจากแอปฯ IQIYI และ We TV
  • TrueVisions NOW MAX: ราคา 2,155 บาทต่อเดือน ดูฟรีแพลตฟอร์มพาร์ทเนอร์ดัง ได้แก่ IQIYI, We TV, MAX, VIU

ส่วนฝั่ง AIS Play มีให้เลือก 5 แพ็กเกจหลัก ได้แก่

  • Play Family: ราคา 119 บาทต่อเดือน ชมช่องพรีเมียมคุณภาพ เช่น Mono29 Plus, Warner TV, Cartoon Network เป็นต้น
  • Play Asian: ราคา 159 บาทต่อเดือน สามารถรับชม 3 แพลตฟอร์มดังฝั่งเอเชีย ได้แก่ IQIYI, We TV และ VIU นอกเหนือจากช่องพรีเมียม
  • Play Premium: ราคา 199 บาทต่อเดือน แพ็กเกจสำหรับคอกีฬา โดยนอกจากช่องกีฬาพรีเมียม ยังรับชมกีฬาจาก beIN Sports ด้วย
  • Play Premium Plus: ราคา 299 บาทต่อเดือน แพ็กเกจสำหรับคอภาพยนตร์และซีรีส์ มัดรวม 5 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Prime Video, MAX, IQIYI, We TV, และ VIU
  • Play Ultimate: ราคา 999 บาทต่อเดือน ดูหนัง และ ซีรีส์ จาก 6 แพลตฟอร์ม ได้แก่ NETFLIX, Max, Disney+ Hotstar, iQIYI, Viu และ WeTV

อย่างไรก็ตาม AIS ยังไม่มีการเปิดเผยถึงแพ็กเกจ พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2025-2026 แต่มีการคาดการณ์ว่าราคาอยู่ที่ 329 บาท โดยสามารถดูได้ครบ 380 แมตช์ และได้ดูเอฟเอคัพอีกด้วย

สรุปฝั่ง AIS Play จะมีแพ็กเกจให้เลือกระหว่าง บันเทิง กับ กีฬา ไปเลย และไม่ได้เน้นการซื้อคอนเทนต์มาป้อนลงแพลตฟอร์ม แต่ใช้การ จับมือกับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ส่วนฝั่ง TrueVisions จะเป็นการ มัดรวมความบันเทิงและกีฬา และหา คอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟ มาป้อนลงในแพลตฟอร์มของตัวเอง ก็ลองพิจารณาดูกัน ว่าแพ็กเกจไหน คุ้มค่ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากที่สุด

]]>
1522902
‘True’ รับอาจ ‘เสียลูกค้า’ เมื่อไม่มี ‘พรีเมียร์ลีก’ เตรียมโยกงบไปเน้น ‘บันเทิง’ ชดเชย ใช้ความหลากหลายยื้อลูกค้า https://positioningmag.com/1520765 Thu, 08 May 2025 07:18:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1520765 หลังจากที่ JAS หรือ บมจ. จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล คว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025-2028 ด้วยการลงทุนกว่า 19,000 ล้านบาท ล่าสุด บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ก็เคลื่อนไหว พร้อมเปิดตัว TrueVisions NOW ที่ยังคงความเป็น King of sports และเพิ่มความบันเทิงเพื่อชดเชย พรีเมียร์ลีก ที่หายไป

รู้ว่าจ่ายเท่าไหร่ถึงขายได้ เลยต้องยอม

องอาจ ประภากมล หัวหน้าสายงานทรูวิชั่นส์ และมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เปิดใจถึงกรณีที่ทรูชวดลิขสิทธิ์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025-2028 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นรายการฟุตบอล ยอดนิยม ของคนไทย โดยยอมรับว่า เสียดาย และอาจจะส่งผลกระทบให้ จำนวนผู้ใช้ และรายได้ลดลง จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.3 ล้านราย มีรายได้รวม 6,000 ล้านบาท และ ARPU (Average Revenue Per User) เฉลี่ย 290 บาท/เดือน แต่ในวิกฤตอาจมีโอกาส เพราะต้นทุนการลงทุนคอนเทนต์ก็ลดลง ดังนั้น ต้องรอดูที่ กำไร ว่าดีขึ้นหรือลดลง

“จะเห็นว่าทีวีแทบไม่มีใครซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลมาถ่ายทอด เพราะรายได้จากโฆษณามันไม่พอ และตอนนี้พรีเมียร์ลีกกำลังเป็นแบบนั้น เพราะดีที่สุด แต่ก็แพงสุด ซึ่งเราจ่ายมา 20 ปี เรารู้ว่ามันขายได้เท่าไหร่ เราจ่ายได้เท่าไหร่ แพงกว่านี้มันขายไม่ได้ ซึ่งคู่แข่งเขาชนะเราด้วยราคามากกว่าเรา 2 เท่าครึ่ง ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าใครได้ แต่คิดว่าขอให้โชคดี” 

ไม่ได้พรีเมียร์ลีก ก็มีเงินมาทุ่มบันเทิง

กลยุทธ์ของทรูวิชั่นส์ในวันที่ไม่มีพรีเมียร์ลีก ก็คือนำงบลงทุนไปเน้นที่คอนเทนต์ บันเทิง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ ที่เป็น Top-Tier รวมถึงการผลิต ออริจินัลคอนเทนต์ ซึ่ง องอาจ มองว่าเป็น ตลาดที่ใหญ่กว่า และทรูก็มี พาร์ทเนอร์ ที่พร้อมขายคอนเทนต์ดี ๆ ให้

“เงินที่จ่ายซื้อพรีเมียร์ลีกอาจจะเสิร์ฟลูกค้าได้แค่กลุ่มเดียว แน่นอนว่าเป็นกลุ่มใหญ่ แต่ในกลุ่มบันเทิงมันใหญ่กว่า โดยเมื่อดูจากจำนวนชั่วโมง ลูกค้าเราส่วนใหญ่ก็ดูบันเทิงมากกว่ากีฬา ดังนั้น การมาเน้นบันเทิงอาจทำให้เราได้กลุ่มลูกค้าที่ใหญ่กว่า อาจทำรายได้มากกว่าที่ได้”

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ กีฬา ทางทรูมั่นใจว่ายังคงเป็น King of Sports โดยยังมีกีฬาระดับโลกอื่น ๆ เช่น F1, MotoGP, NFL, NBA, ฟุตบอลลาลีกา, บุนเดสลีกา, ซาอุดิลีก, ยูฟ่าแชมเปียนส์ ลีก, ยูโรปา ลีก, คอนเฟอเรนซ์ ลีก, ฟุตซอลไทยลีก และกำลังเจรจาถึงลิขสิทธิ์ ไทยลีก 

เราไม่ทิ้งคำว่า King of Sports เราอาจไม่มีพรีเมียร์ลีก แต่ยังมีกีฬาอื่น ๆ ที่กว้างและลึก ซึ่งลูกค้าระดับท็อปเขายอมจ่าย และใช้ความหลากหลายของคอนเทนต์ฮุกเขา ให้เขารู้สึกว่าคุ้มค่า ไม่ได้จ่ายแล้วดูได้แค่อย่างเดียว”

ไม่ได้ปิดโอกาสร่วมกับ JAS

แม้ว่าล่าสุด JAS จะได้ AIS หรือ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส เป็น พาร์ทเนอร์ ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ฤดูกาล 2025-26 ไปแล้ว แต่ทางทรูก็ พร้อมเปิดกว้าง หาก JAS หาพาร์ทเนอร์ใหม่ในอนาคต 

“เราเข้าใจว่า AIS น่าจะเป็นเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ทเนอร์กับ JAS แต่เราก็เปิดกว้าง เรายินดีที่จะมีส่วนร่วม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับทาง JAS ไม่ใช่เรา ดังนั้น ต้องดูกันยาว ๆ”

สำหรับแพ็กเกจ ทรูวิชั่นส์ นาว (TrueVisons NOW) มีทั้งหมด 4 แพ็กเกจ ได้แก่

  • TrueVisions NOW POP ราคา 119 บาทต่อเดือน แพ็กเกจที่คนไทยต้องดู เพลิดเพลินไปกับซีรีส์ หนังสุดฮิตจากไทย และเชียร์ทัพนักกีฬาไทยไปด้วยกัน
  • TrueVisions NOW PLUS ราคา 249 บาทต่อเดือน แพ็กเกจสำหรับคอซีรีส์ไทย จีน, เกาหลี, ญี่ปุ่น      อนิเมะ และกีฬาดัง เช่น F1, ฟุตบอลลีก และถ้วยยุโรปชั้นนำ และชมฟรีซีรีส์ดังจากแอปฯ IQIYI
  • TrueVisions NOW PRIME ราคา 449 บาทต่อเดือน รับชมภาพยนตร์ วาไรตี้ สารคดี กีฬาดังระดับโลก MOTO GP, NBA, NFL สามารถดูซีรีส์จีน และอนิเมะจากแอปฯ IQIYI และ We TV
  • TrueVisions NOW MAX ราคา 2,155 บาทต่อเดือน ดูฟรีแพลตฟอร์มพาร์ทเนอร์ดัง ได้แก่ IQIYI, We TV, MAX, VIU และ NETFLIX

]]>
1520765