ช่วงต้นปีนี้ “ธนวัฒน์” ขอแก้มืออีกครั้งด้วยการประกาศคว้าลิขสิทธิ์ เป็นผู้จัดการประกวด Miss World 2019 ครั้งที่ 69 รอบสุดท้าย ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการประกวดมิสเวิลด์ ที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพ นับตั้งแต่เริ่มประกวดในปี 1951 (พ.ศ. 2494)

แต่ท้ายที่สุดปีนี้ TW Investment Group ก็ยังไม่ได้จัดประกวด Miss World 2019 อยู่ดี เพราะมีคำชี้แจงเรื่องการจัดการประกวดมิสเวิลด์ 2019 และมิสเวิลด์ 2020 ประเทศไทย ออกมาจาก จูเลีย มอร์ลีย์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิสเวิลด์ออร์แกไนเซชั่น ที่ได้ประกาศในประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า การจัดประกวด Miss World 2019 จะมีขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการเอ็กเซล (ExCeL Exhibition Center) กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร รอบสุดท้ายในวันเสาร์ที่ 14 ธ.ค. 2019 เป็นการเปลี่ยนแปลงสถานที่จัดการประกวดจากประเทศไทย

“ทีดับเบิลยู เพเจ้นส์” ในเครือ TW Investment Group ที่ได้รับสิทธิ์จัด Miss World 2019 ชี้แจ้งว่า การเปลี่ยนสถานที่จัดงานประกวด Miss World 2019 เป็นการการตัดสินใจร่วมกันของ มิสเวิลด์ ออร์แกไนเซชั่น และทีดับเบิลยู เพเจ้นส์

ธนวัฒน์ วันสม ประธานกรรมการ บริษัท ทีดับเบิลยู เพเจ้นส์ จำกัด ย้ำว่าประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัด Miss World 2020 ในปีหน้าแทน ซึ่งเป็นโอกาสครบรอบ 70 ปี ของการประกวดมิสเวิลด์อีกด้วย.

ข่าวเกี่ยวเนื่อง

• “ธนวัฒน์ วันสม” ติดใจ ประกวดนางงาม ทุ่ม 1,000 ล้าน เจ้าภาพ “มิสเวิลด์” 2019

ครั้งนั้น “ธนวัฒน์” ประกาศในงานแถลงข่าวจัดประกวด “มิสยูนิเวิร์ส 2018” ว่าจะใช้งบลงทุนราว 1,000 ล้านบาทในการเป็นเจ้าภาพ แต่ในที่สุดก็ไม่ได้ใช้งบประมาณก้อนดังกล่าว ซึ่งก็รอไม่นานสำหรับการจัดงานประกวดระดับโลกที่ใหญ่ไม่แพ้กัน  

โดยเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา “จูเลีย มอร์ลีย์” ประธานและซีอีโอ มิสเวิลด์ออร์แกไนเซชั่น ประกาศให้ลิขสิทธิ์ บริษัท ทีดับเบิลยู เพเจ้นส์ จำกัด ในเครือ TW Investment Group เป็นผู้จัดการประกวด Miss World 2019 ครั้งที่ 69 รอบสุดท้าย ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศไทยและนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการประกวดมิสเวิลด์ ที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพ   โดยเวที “มิสเวิลด์” เป็นการประกวดนางงามระดับนานาชาติ ที่จัดมาต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลกนับตั้งแต่ ปี 1951 (พ.ศ.2494) 

ทุ่มพันล้านจัดมิสเวิลด์

ธนวัฒน์ วันสม ประธานกรรมการผู้บริหาร บริษัท ทีดับเบิลยู เพเจ้นส์ จำกัด กล่าวว่าบริษัทได้ติดต่อขอลิขสิทธิ์จัดประกวดมิสเวิลด์กับ “มิสเวิลด์ออร์แกไนเซชั่น” มาเป็นเวลา 3 ปี และได้รับลิขสิทธิ์เป็นผู้จัดประกวด มิสเวิลด์ 2019 รอบชิงชนะเลิศ ในประเทศไทยปีนี้  คาดว่าจะใช้งบประมาณจัดประกวดราว 1,000 ล้านบาท ใช้ทีมออร์แกไนเซอร์ระดับประเทศร่วมจัดงานหลายทีม 

ในการประกวดครั้งนี้ จะมีตัวแทนผู้เข้าประกวดมิสเวิลด์ 2019 จาก 130 ประเทศ เดินทางมาร่วมประกวดช่วงเดือนพฤศจิกายนปีนี้ เพื่อเก็บตัวก่อนเข้าประกวดรอบสุดท้ายในกลางเดือนธันวาคม ช่วง 1 เดือนของการเก็บตัว ผู้เข้าร่วมประกวดจะร่วมกิจกรรมในสถานที่ท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรองของเมืองไทย รวมถึงเข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ Beauty With A Purpose เพื่อบริจาคช่วยเหลือองค์กรการกุศล

ดึงรัฐ–เอกชนร่วมสปอนเซอร์

ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประกวดมิสเวิลด์ในครั้งนี้  ธนวัฒน์ บอกว่าจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านศักยภาพของประเทศไทย รวมทั้งช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักสร้างรายได้เข้าประเทศ ในการจัดประกวดมิสเวิลด์ครั้งแรกในประเทศไทย และในรอบ 69 ปี ของเวที มิสเวิลด์ เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากหน่วยงานรัฐและเอกชน ร่วมเป็นสปอนเซอร์สนับสนุนการประกวดครั้งนี้ 

โดยได้ติดต่อไปยังหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อย่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ร่วมเป็นสปอนเซอร์  มีภาคเอกชนในธุรกิจความงามให้ความสนใจเช่นกัน  และเนื่องจาก มิสเวิลด์ ได้จัดทำโครงการ Beauty With A Purpose ในการประกวดครั้งนี้จึงมีองค์กรการกุศลต่างๆ ให้ความสนใจเป็นสปอนเซอร์ในครั้งนี้ด้วย  

“โอกาสการหารายได้จากการจัดประกวดมิสเวิลด์ นอกจากสปอนเซอร์แล้ว ยังมาจากอีกหลายช่องทาง เช่น การขายบัตรเข้าชมการประกวด การทำเมอร์เชนไดส์  คาดว่าจะทำรายได้จากการจัดประกวดมิสเวิลด์กว่า 1,000 ล้านบาท และมีกำไรแน่นอน” 

ในการถ่ายทอดสดการประกวดรอบชิงชนะเลิศ มิสเวิลด์ ทุกปี ช่อง 3 เป็นผู้ถ่ายทอดสด รวมทั้งการประกวดมิสเวิลด์ 2019 ปีนี้ ช่อง 3 จะเป็นสถานีทีวีที่ถ่ายทอดสดด้วยเช่นกัน  โดยการประกวดมิสเวิลด์รอบสุดท้ายจะถ่ายทอดสดไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

การประกวดมิสเวิลด์ครั้งล่าสุดในปีที่ผ่านมาจัดขึ้นที่ประเทศจีน “วาเนซา ปอนเซ เด เลออน” จากเม็กซิโก เป็นผู้ครองตำแหน่งมิสเวิลด์คนปัจจุบัน และ “นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์”ตัวแทนของประเทศไทยคว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 และครองตำแหน่งมิสเวิลด์เอเชีย

ที่ผ่านมา จีน ได้รับสิทธิเป็นเจ้าภาพจัดประกวดมิสเวิลด์ เป็นครั้งที่ 9 โดยมีสาวงามจากประเทศจีนครองมงกุฏมิสเวิลด์แล้ว 2 คน ได้แก่จางจื่อหลิน ในปี 2007 และ หยูเหวินเซียะ ในปี2012  หลังจากประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดมิสเวิลด์ในปีนี้ มีโอกาสที่จะได้รับการพิจารณาเป็นเจ้าภาพจัดอีกในอนาคตเช่นกัน 

สำหรับเวทีการจัดประกวด “มิสไทยแลนด์เวิลด์”  ซึ่งเป็นเวทีที่จัดคัดเลือกสาวงามเพื่อเข้าร่วมประกวดในเวทีมิสเวิลด์ ดำเนินการจัดประกวดโดย “บีอีซี–เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์”

แต่ที่สุดมีข่าวออกมาว่า “ตี๋ แม็ทชิ่ง” หรือ สมชาย ชีวสุทธานนท์ ได้เข้าเสียบคว้าลิขสิทธิ์จัดงาน Miss Universe 2018 ในนามบริษัท TPN 2018 ที่เพิ่งตั้งเมื่อต้นเดือนตุลาคมนี้เอง

ทำเอา “ธนวัฒน์” ต้องร่อนหนังสือถึงสื่อมวลชนว่า โดนยกเลิกจริง เพราะผู้ถือหุ้นคิดไม่ซื่อ ดอดตั้งบริษัทเสียบแทน ยังนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ ทำนองเพื่อรักหักเหลี่ยมโหด และอยู่ระหว่างดำเนินคดีทางกฎหมาย

จัดที่เก่า เวลาเดิม ยังไม่สรุปช่องถ่ายทอดสด

วันนี้ (29 ตุลาคม 2018) “ตี๋ แม็ทชิ่ง” ได้ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการ ณ ห้องนภาลัย บอลรูม โรงแรมดุสิตธานี โดยมีประธานองค์กร มิสยูนิเวิร์ส เหล่าสาวงาม มิสยูนิเวิร์ส 2017, มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2018, 2017 และ 2016 มากันพร้อมหน้า

ที่จะขาดไปไม่ได้เลยคือ ปิยาภรณ์ แสนโกศิก และ ณรงค์ เลิศกิตศิริ แห่ง Pasaya นั่งตำแหน่งกรรมการบริหารโดยให้ “ตี๋ แม็ทชิ่ง” เป็นประธานกรรมการบริหาร “บริษัท ทีพีเอ็น 2018 จำกัด” ซึ่งได้รับสิทธิ์อย่างเป็นทางการ โดยชื่อของบริษัทมาจากชื่อย่อของทั้ง 3 คนนี้เอง

ตี๋ ตอบถึงที่มาของการได้จัดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ในครั้งนี้ ที่หลายคนบอกว่าเป็นส้มหล่น “มีคนเคยบอกว่า คนโง่ฉวยโอกาส แต่ผมเป็นคนฉลาดที่สร้างโอกาสให้ฉวย ซึ่งโอกาสไม่มีขาย แต่ผมสร้างโอกาสด้วยตนเองมาตลอด ถ้าจะถามถึงที่มาที่ไปของการได้รับสิทธิ์ ผมตอบได้เพียงว่า ที่มาไม่รู้ รู้แต่ที่ไป ซึ่งตอนนี้ผมเป็นคนจัด Miss Universe 2018”

ต้องเดอะโชว์มัสโกออน

“ตี๋ แม็ทชิ่ง” ให้เหตุผลที่ตัวเองได้รับเลือกให้จัดต่อ มาจากนำเสนอความจริง ความถูกต้อง และจริงใจให้กับทางองค์กรมิสยูนิเวิร์สได้เห็น อีกอย่างเราไม่อยากให้การจัดงาน Miss Universe 2018 หลุดไปจากประเทศไทย จึงต้องแสดงให้เห็นว่าเราตั้งใจจริง

ขณะนี้การดำเนินงานคืบหน้าไปแล้ว 70-80% ใช้ช่วง 3 อาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งแผนนี้วางขึ้นมาใหม่ ไม่ได้เกี่ยวกับแผนก่อนหน้านี้ ที่ “ตี๋ แม็ทชิ่ง” ได้เป็นหัวหอกในการจัดการ

ด้านงบประมาณที่ใช้จัด ซึ่งต้องใช้เม็ดเงินหลายร้อยล้านยังไม่ได้ระบุว่าต้องใช้ทั้งหมดเท่าไหร่ ตอนนี้ต้องเดอะโชว์มัสโกออนแต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ทางรัฐบาลก็ยินดีที่ให้ความร่วมมือ หากจะมากเท่าไหร่คงไม่สามารถตอบได้

ขณะนี้ได้มีสปอนเซอร์หลักๆ แล้ว ได้แก่ การบินไทย, วุฒิศักดิ์ คลินิก, Pasaya, แพลนบี และโรงแรมดุสิตธานี เป็นต้น

ส่วนกำหนดการประกวด Miss Universe 2018 ยังคงเป็นวันที่ 17 ธันวาคม 2018 เวลา 7.00 น. ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี การเปิดขายบัตรจะผ่านไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ราคาจะแจ้งให้ทราบอาทิตย์หน้า รวมไปถึงช่องที่จะถ่ายทอดสดในเมืองไทย ที่ยังไม่คอนเฟิมร์มว่าจะเป็นทีวีช่องใด

“ทีมงานทุ่มเทแบบอดหลับอดนอน เนื่องจากจะไม่ยอมให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียงเป็นอันขาด” ตี๋ แม็ทชิ่ง ย้ำบนเวทีแถลงที่มีทั้งหุ้นส่วนและประธานองค์กร มิสยูนิเวิร์สอยู่ด้วย

“เมืองไทย” เกือบเป็นประเทศแรกในรอบ 20 ปีที่หลุดสิทธิ์

ในขณะที่ พอลล่า เอ็ม ชูการ์ต ประธานองค์กรมิสยูนิเวิร์สประเทศไทย เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ที่ประเทศที่ได้สิทธิ์เจ้าภาพในครั้งแรก เกือบถูกถอนสิทธิ์ แต่ภายใน 3 อาทิตย์ที่ผ่านมา ก็สามารถดำเนินต่อไปได้

“จริงๆ แล้วข่าวการเปลี่ยนผู้จัดการประกวด ควรเป็นความลับภายในที่ไม่น่าจะรั่วไหล ส่วนตัวเสียใจตรงนี้จริงๆ”

ส่วนการที่ผู้ได้รับสิทธิ์เดิมร่อนจดหมายหาสื่อมวลชนนั้น พอลล่าบอกว่า รู้สึกไม่ดีและไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งทางทีมไม่ได้อยากให้เรื่องการเปลี่ยนผู้จัดเงียบๆ แต่ตอนนี้ไม่อยากให้โฟกัสเรื่องราวในอดีต แต่อยากให้พูดถึงเรื่องอนาคตมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้กำหนดการแข่งขันทุกอย่างได้ออกมาเป็นทางการแล้ว โดยเมื่อ 3 อาทิตย์ที่ผ่านมาทีมงาน Miss Universe 2018 ได้ลงพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเก็บภาพบรรยากาศของเมืองไทย สำหรับเปิดในวันประกวดจริง

โดยสาวงามทั้ง 95 ประเทศจะนอนที่โรงแรมดุสิตธานี ด้านการประกวดชุดว่ายน้ำ จะมาจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI พร้อมกันในวันที่ประกวดรอบไฟนอล ปุ๋ย – ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก นางงามจักรวาล คนที่ 2 ของไทยจะมาร่วมงานด้วย แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นแค่แขกหรือร่วมเป็นกรรมด้วยด้วย

กำหนดการ มีดังนี้ 2 ธันวาคม นางงามทั้ง 95 คนเริ่มเดินทางมาสู่เมืองไทย, 3 ธันวาคม งานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์ต้อนรับ, 4 ธันวาคม ชมความงามรอบเกาะรัตนโกสินทร์, 5 ธันวาคม งาน Thai night โชว์ศิลปะ วัฒนธรรม อาหาร และเดินแฟชั่นโชว์จากชุดที่ตัดด้วยศูนย์ศิลปาชีพบางไทร

6-7 ธันวาคม ปล่อยแบ่งนางงามออกเป็นกลุ่ม เพื่อเดินทางไปยังภาคเหนือ ใต้ กลาง ตะวันออก ตะวันตก ในเมืองรองต่างๆ เพื่อเก็บภาพใช้ในงานวันจริง, 11 ธันวาคม ประกวดรอบชุดประจำชาติ, 13 ธันวาคม ประกวดรอบเก็บคะแนน หรือ Preliminary และรอบการตัดสิน Final Round วันที่ 17 ธันวาคม เวลา 7.00 น. ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

โดยบริษัท TNP เพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 61 โดยมีสมชาย ชีวสุทธานนท์ หรือ ตี๋ แม็ทชิ่ง (ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุน TW Investment Group), ณรงค์ เลิศกิตศิริ เจ้าของแบรนด์ Pasaya และ ปิยาภรณ์ แสนโกศิก ซึ่งเป็นนักธุรกิจหญิงจากอสังหาริมทรัพย์

อ่านประกอบ >> “ตี๋ แมทชิ่ง” ควง Pasaya รับงาน Miss Universe 2018 ในไทยแทน TW แล้ว

ล่าสุด ทีดับบลิว อินเวสเมนท์ กรุ๊ป (TW investment Group) โดย ธนวัฒน์ วันสม ประธานกรรมการ TW Investment Group ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงสื่อมวลชน ระบุว่า บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากบริษัท มิสยูนิเวิร์ส สหรัฐอเมริกา ถึงการยกเลิกสิทธิดังกล่าว ในนามของคณะผู้บริหารและหุ้นส่วนของบริษัท จึงขอเรียนชี้แจงแก่สื่อมวลชนว่าบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นอย่างจริงใจที่จะจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สในประเทศไทยให้ประสบความสำเร็จ โดยผู้บริหารของบริษัทฯ ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่และดีที่สุดเพื่อที่จะรักษาสิทธิของการเป็นผู้จัดงานครั้งนี้

แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการจัดประกวดได้ เกิดจากผู้ร่วมลงทุนบางรายไม่ปฏิบัติตามสัญญาในการดำเนินการหาผู้สนับสนุนรายการจัดประกวด และไม่ส่งมอบเงินจากผู้สนับสนุนเพื่อให้นำไปจ่ายค่ารักษาสิทธิของการเป็นผู้จัดงานตามเงื่อนไขที่บริษัท มิสยูนิเวิร์ส ระบุไว้

นอกจากนี้ ผู้ร่วมลงทุนของบริษัทฯ รายดังกล่าวกลับเข้าไปเจรจาลับหลังกับบริษัท มิสยูนิเวิร์ส เพื่อขอรับสิทธิในการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 แทนบริษัทฯ รวมถึงตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมารองรับในทันทีโดยมีหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนเดิมเป็นผู้บริหารพร้อมกับใช้แหล่งเงินทุนและได้อาศัยข้อมูลการเตรียมการของบริษัท ทีดับบลิว อินเวสเมนท์ กรุ๊ป จำกัด ไปใช้ในการดำเนินการของบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่

พฤติกรรมของหุ้นส่วนรายดังกล่าว ได้สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อองค์กรและผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และยังเป็นพฤติกรรมทางธุรกิจที่ปราศจากธรรมาภิบาลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์ส และอาจสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงชื่อเสียงของประเทศไทยอีกด้วย

ท้ายที่สุด บริษัทฯ ขอย้ำว่า ปัจจุบันบริษัทฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานในการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ในประเทศไทย และบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการดำเนินการดังกล่าว นอกจากนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการทางกฎหมายเพื่อให้เกิดความยุติธรรมและเป็นบรรทัดฐานของความถูกต้องของการทำธุรกิจที่โปร่งใสต่อไป.

ส่งผลให้การถ่ายทอดสดการประกวด Miss Unviverse 2018 จึงเดินหน้าต่อไป  จากเดิมที่คาดว่าอาจต้องเลื่อน หรือเปลี่ยนไปจัดที่สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นวันที่ 16 ธันวาคม ตอนกลางคืนตามเวลาของสหรัฐอเมริกา ซึ่งตรงกับเวลาประมาณ 07.00-10.00 น.ของประเทศไทย โดยมี สตีฟ ฮาร์วี่ เป็นพิธีกรในงาน และถ่ายทอดสดไปทั่วโลก โดยเครือข่าย FOX

สำหรับบริษัท ทีพีเอ็น 2018 ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า เพิ่งจดทะเบียนบริษัท เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2561 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 305/5 ถ.สุโขทัย แขวงดุสิต กรุงเทพมหานคร ประกอบกิจการรับจัดประกวดนางงาม นางแบบ นายแบบ ประกวดร้องเพลง โดยระบุชื่อกรรมการ ประกอบด้วย สมชาย ชีวสุทธานนท์, ณรงค์ เลิศกิตศิริ และ ปิยาภรณ์ แสนโกศิก

สมชาย ชีวสุทธานนท์ หรือ ตี๋ แม็ทชิ่ง ได้ชื่อว่าคร่ำหวดในสายงานโปรดักชั่น และเคยผ่านประสบการณ์ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2005 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพมาแล้ว ในขณะที่ ณรงค์ เลิศกิตศิริ คือ เจ้าของแบรนด์ธุรกิจสิ่งทอชื่อดังของไทย Pasaya

ส่วนนางปิยาภรณ์ แสนโกศิก นักธุรกิจหญิงจากอสังหาริมทรัพย์ เคยเป็นอดีตเลขานุการ หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในการแถลงข่าวเพื่อประกาศว่าประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการประกวด Miss Universe 2018 นั้น เป็นการแถลงโดยกลุ่ม TW Investment Group ของ ธนวัฒน์ วันสม ที่แถลงร่วมกับ วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา, พอลล่า แมร์รี่ ชูการ์ต ประธานองค์กรมิสยูนิเวิร์ส บริษัท William Morris Endeavor หรือ WME โดยธนวัฒน์ประกาศว่า ลิขสิทธิ์ครั้งนี้มีมูลค่าประมาณ 400 ล้านบาท

นอกจากนี้มีรายงานว่า ก่อนที่ประเทศไทยจะได้รับสิทธิ์การจัดงานในครั้งนี้นั้น ต้องแข่งขันกับหลายประเทศ โดยเฉพาะมาเก๊า ที่อยู่ในรายชื่อประเทศที่สนใจในการจัดงานนี้มาก แต่ทางเจ้าของลิขสิทธิ์ตัดสินใจให้กับกลุ่มนักธุรกิจของประเทศไทย

แต่หลังจากการแถลงข่าว ก็ปรากฏว่าไม่มีข่าวความคืบหน้าการจัดงานนี้แต่อย่างใด จนมีข่าวว่า พอลล่า แมร์รี่ ชูการ์ต ประธานองค์กรมิสยูนิเวิร์ส บินมาตามงานถึงประเทศไทย แต่ก็ไม่มีการแถลงข่าวร่วมกัน จนบินกลับไปเงียบๆ พร้อมกับข่าวที่มีการเปลี่ยนมือ โดยมีกลุ่มของตี๋ แม็ทชิ่ง เป็นผู้ประสานงานทั้งหมดแทนที่เจ้าของสิทธิ์เดิม

ทั้งนี้ยังไม่มีการชี้แจงถึงสาเหตุที่ลิขสิทธิ์ต้องเปลี่ยนมือ ซึ่งจากการสอบถามไปยังผู้ประสานงาน ระบุเพียงว่าจะมีการแถลงข่าวการจัดงานนี้อีกครั้งในปลายเดือนตุลาคมนี้แน่นอน เนื่องจากได้เริ่มมีการจัดทำกำหนดการต่างๆ รวมถึงสถานที่จัดงานทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว

โดยมีรายงานว่า การจัดงานจะจัดขึ้นที่อิมแพค เมืองทองธานี ส่วนโรงแรมที่ต้องรองรับบรรดาผู้ประกวดนางงามจากทั่วโลก คือโรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ โดยบรรดานางงามจากทุกประเทศ จะเริ่มเดินทางมาถึงประเทศไทยในวันที่ 29-30 พฤศจิกายนนี้

ทั้งนี้ประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรก เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2535 (ค.ศ. 1992) จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยที่บริษัทไทยสกาย ของ “คีรี กาญจนพาสน์” ประธานบริษัทสยามบรอดแคสติ้ง คอมมิวนิเคชั่น ในขณะนั้น ได้รับลิขสิทธิ์จัดงานประกวด

ครั้งที่ 2 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2548 (ค.ศ. 2005) ที่อิมแพค เมืองทองธานี ผู้ถือลิขสิทธิ์คือกลุ่มของคุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ออกอากาศทางช่อง 7 โดยที่บริษัทแม็ทชิ่ง ของตี๋ แม็ทชิ่ง รับหน้าที่ในงานโปรดักชั่น เวทีการประกวด โดยในครั้งนี้นางงามเชื้อสายรัสเซีย จากประเทศแคนาดา “นาตาลี เกลโบวา” คว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส