ศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป หรือ ECJ (The European Court of Justice) ตัดสินว่า ผู้ให้บริการแท็กซีอูเบอร์ (Uber) หรือ ผู้บริการแอปพลิเคชั่นร่วมเดินทางจากสหรัฐอเมริการายนี้ป็นผู้ให้บริการแท็กซีเหมือนบริษัทแท็กซีอื่น ๆ ทั่วไป ไม่ได้เป็นบริษัทให้บริการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เหมือนที่ทางอูเบอร์พยายามชี้แจง

ถือเป็นคำตัดสินที่สร้างความกระจ่างให้กับทุกฝ่ายหลังจากรอความชัดเจนมานาน และคาดการณ์ว่า ทุกประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป จะนำไปปรับใช้กันทั้งหมดด้วย

ECJ กล่าวว่า บริการของอูเบอร์นั้น เป็นการเชื่อมต่อบุคคลทั่วไปให้ได้พบกับผู้ขับรถที่ไม่ได้ผ่านการรับรองอย่างที่ควรจะเป็น

นอกจากนี้ การตัดสินว่า อูเบอร์เป็นบริษัทขนส่งยังทำให้ข้ออ้างที่บริษัทใช้ตลอดมาว่าตนเองนั้น เป็นบริษัทเทคโนโลยีใช้ไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งจะมีผลทำให้หน่วยงานด้านกฎหมายของแต่ละประเทศสามารถเข้าไปจัดระเบียบและควบคุมอูเบอร์ได้แล้วนับแต่นี้เป็นต้นไปด้วย

ที่ผ่านมา รัฐบาลของหลายประเทศในสหภาพยุโรปต่างเห็นพ้องกันว่า อูเบอร์นั้นเป็นบริษัทแท็กซี่ และจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้านคมนาคมของสหภาพยุโรป ไม่ใช่นิยามตัวเองว่าเป็นบริษัทเทคโนโลยีแล้วหลุดรอดมาโดยตลอด แต่คำตัดสินของ ECJ คือตัวที่ทำให้สถานการณ์มีความชัดเจนมากที่สุด

เท่ากับว่า อนาคตของอูเบอร์ต่อจากนี้ไปจะเผชิญหน้ากับความยากลำบากแล้ว เพราะจะมีชาติต่าง ๆ ในสหภาพยุโรปถึง 28 ชาติรอที่จะจัดระเบียบอูเบอร์ให้เข้ากับกฎหมายจราจรของประเทศตัวเอง ซึ่งอาจหมายถึงการมีกฎหมายต่าง ๆ ออกมาควบคุม และการที่คนขับต้องมีไลเซนส์ในการขับรถเป็นการเฉพาะ 

รวมไปถึงต้องมีการจ่ายค่าใบอนุญาตการให้บริการแท็กซีที่มีราคาแพงเหมือนแท็กซีอื่น ๆ ทั่วไป รวมไปถึงจ่ายภาษีและค่าธรรมเนียมตามแบบการให้บริการรถแท็กซี ซึ่งเดิมอูเบอร์ทำตามกฎหมายควบคุมผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลทำให้สามารถเสนอการให้บริการที่ต่ำกว่ารถแท็กซี่ตามปกติทั่วไป

ทาง CNBC ได้มีการเปรียบเทียบเอาไว้ว่า ทุกวันนี้ หากธุรกิจใดจะนิยามตัวเองเป็นร้านค้าออนไลน์ ก็ต้องมีเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่นเพื่อเป็นหน้าร้าน และมีการจัดส่งสิ่งของให้กับลูกค้า ขณะที่ในเคสของอูเบอร์ บริษัทก็มีการจัดหาคนขับรถให้ตามที่ลูกค้าร้องขอเช่นกัน จึงควรจะจัดอูเบอร์เป็นบริษัทแท็กซี่ได้ แม้อูเบอร์จะไม่มีการว่าจ้างคนขับเหล่านั้นเป็นพนักงานเลยสักคนก็ตาม

มีการคาดการณ์ว่า อาจมีการขยายผลไปสู่รูปแบบธุรกิจอื่น ๆ ที่มีลักษณะการแชร์ให้บริการที่คล้ายกันในอนาคต เช่น Airbnb ซึ่งเป็นบริษัทตัวกลางที่อนุญาตให้เจ้าของที่พักสามารถเปิดให้บ้านพักตัวเองถูกแขกแปลกหน้าเช่าเพื่อสร้างรายได้ในระหว่างที่เจ้าของบ้านเดินทางไปต่างประเทศ หรือเมืองอื่น

สำหรับในประเทศไทย อูเบอร์ ต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน อูเบอร์เองก็ยังไม่ถูกกฎหมายเนื่องจากการขนส่งระบุว่ารถให้บริการแท็กซี่ได้จะต้องจดทะเบียนเป็นรถรับจ้างสาธารณะทั้งคนขับก็ต้องได้ใบอนุญาตขับขี่สาธารณะและอัตราค่าโดยสารก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายกำหนด ในขณะที่อูเบอร์ให้บริการโดยรถบ้านหรือรถป้ายดำกำหนดค่าโดยสาร ทำให้อูเบอร์ท้งโดนล่อจับและแรงต้านจากแท็กซี่เพราะมองว่าถูกเอาเปรียบ

ล่าสุด อูเบอร์ ต้องลดแรงกดดัน หันไปจับมือกับ บริษัท โฮวา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของสหกรณ์ แท็กซี่สุวรรณ เปิด uberTaxi แต่ก็ยังเจอกรณีเรื่องราคาค่าโดยสารคิดแพงกว่าแท็กซี่มิเตอร์ทั่วไป เพราะอูเบอร์กำหนดราคาเอง

ดังนั้นเมื่อศาลสูงสหภาพยุโรปตัดสินออกมาแบบนี้แล้วจะเป็นบรรทัดฐานให้กับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียอย่างไทยด้วยหรือไม่ ก็ต้องรอดูว่าหน่วยงานรัฐของไทยจะเดินหน้าเรื่องนี้ต่ออย่างไร.

แต่อูเบอร์ในไทยก็ต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน เพราะถึงแม้จะถูกใจผู้ใช้ที่อยากมีทางเลือกใหม่ ๆ แต่ไม่ถูกต้อง เพราะยังไม่ถูกกฎหมายของไทย รวมถึงต้องเจอแรงต้านจากแท็กซี่ เพราะมองว่าถูกเอาเปรียบ

ล่าสุด อูเบอร์ ได้แก้เกมด้วยการเปิดให้บริการ uberTAXI ในไทย เป็นประเทศที่ 7 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ต่อจาก มาเลเซีย อินโดนีเซีย พม่า ไต้หวัน กัมพูชา สิงคโปร์ ที่ให้บริการ uber TAXI มาแล้ว

อูเบอร์ นำร่องจับมือ บริษัท โฮวา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของสหกรณ์ แท็กซี่สุวรรณภูมิเป็นรายแรก กำหนดเปิดให้บริการ ในวันที่ 19 ธันวาคม 2560 นี้ เริ่มในพื้น กทม. และปริมณฑลเขียงใหม่เชียงรายชลบุรี พัทยา และขอนแก่น

บรู๊คส์ เอนทวิสเซิล หัวหน้าผู้บริหารฝ่ายธุรกิจ เอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมอินเดีย), UBER

อธิบายถึงโอกาสในการเปิดให้บริการครั้งนี้ว่า ภาพรวมของจำนวนแท็กซี่ในประเทศไทยมีอยู่ในระบบประมาณ 8.6 หมื่นคัน แต่การกระจายตัวมีเพียง 50% ทำให้แท็กซี่ต้องขับรถวนหาลูกค้า หรือบางพื้นที่ก็กระจุกตัวอยู่ในพื้นที่เดียวกันทำให้เสียโอกาสในการหาลูกค้า

อูเบอร์ ได้ศึกษาแล้ว บริการ uberTAXI จะเกิดประโยชน์ต่อสังคม คน และเศรษฐกิจโดยรวม เนื่องจากคนไทยคุ้นเคยกับบริการรถแท็กซี่อยูแล้ว และอาชีพขับแท็กซี่ ก็เป็นอาชีพที่คนไทยให้บริการมายาวนาน อูเบอร์ในฐานะเป็นบริษัทเทคโนโลยีร่วมเดินทางระดับโลก จะมาช่วยให้คนไทยรู้สึกถึงการเดินทางที่ปลอดภัย สะดวกสบาย ที่สำคัญมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น

อูเบอร์เปิดให้บริการมา 3 ปี ใน 600 เมืองของ 78 ประเทศทั่วโลก มีผู้ที่ร่วมธุรกิจกว่า 2 ล้านคน ให้บริการกว่า 5 พันล้านเที่ยว ดังนั้นคาดว่าการเปิดให้บริการ uberTAXI นี้ จะมีคนใจร่วมธุรกิจกับอูเบอร์มากขึ้น

ศิริภา จึงสวัสดิ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย Uber กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่อูเบอร์เปิดให้บริการในเมืองไทย มีความเข้าใจตลาดและพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะขยายเครือข่าย Ride sharing รวมถึงพยายามร่วมมือกับภาครัฐ จึงตัดสินใจเปิดบริการ uberTAXI ขึ้นในประเทศไทย เพราะเชื่อว่าบริการใหม่นี้จะส่งผลดีต่อเมือง พาร์ตเนอร์ร่วมขับ และผู้ร่วมนั่ง ในเรื่องความปลอดภัย สะดวกสบาย โดยจะเปิดรับแท็กซี่ส่วนบุคคล และภายใต้เครือข่ายสหกรณ์ทุกคน 

ทางด้าน หัสดินทร์ เอี่ยมชีรางกูร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮวา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มีสมาชิกสหกรณ์อยู่ประมาณ 4,000 คัน มีคนขับแท็กซี่ จำนวน 5,000 คน ส่วนใหญ่ให้บริการตามโรงแรมต่าง ๆ ถือเป็นท็อป 5 ในตลาด การร่วมเป็นพันธมิตรกับอูเบอร์ จะมาเสริมเรื่องการนำเทคโนโลยีมามาให้บริการ ช่วยเรื่องภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสมาชิกแท็กซี่ คาดว่าสมาชิกของบริษัทจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอูเบอร์จำนวนมาก 

ค่าโดยสารจะคำนวณจากระยะทางและเวลาที่ใช้เดินทางจริง และปรับราคาตามปริมาณความต้องการของผู้ใช้ในเวลานั้น ๆ โดยผู้โดยสารจะเห็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางโดยประมาณได้ตั้งแต่ก่อนเรียกรถ และตรวจสอบค่าโดยสารจริงหลังการเดินทางได้จากเมนูในแอป และเลือกการชำระเงินได้ทั้งเงินสดหรือบัตรเครดิต

การเปิดให้บริการครั้งนี้ นับเป็นการพลิกเกม เพื่อลดกระแสกดดัน และรับมือกับการแข่งขันกับคู่แข่ง บริการเรียกแท็กซี่ผ่านแอปอย่าง Grab Taxi และ Line Taxi ซึ่งที่ผ่านมา อูเบอร์ก็พยายามเปิดตัว uberFLASH โดยเปิดให้ รถอีโคคาร์ รถกระบะ รวมถึงรถแท็กซี่ เข้ามาร่วม จนกระทั่งขยับมาเปิด uberTaxi ในที่สุด.