unisex – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sun, 27 Jun 2021 01:23:35 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘แฟชั่นไร้เพศ’ เทรนด์ที่แบรนด์ต้องรีบจับหากอยากได้ใจ ‘Gen Z’ https://positioningmag.com/1339177 Sat, 26 Jun 2021 16:27:37 +0000 https://positioningmag.com/?p=1339177 ในปัจจุบัน ความหลากหลายทางเพศ กลายเป็นสิ่งที่คนเริ่มเปิดกว้างรับมากขึ้น สถานะทางเพศไม่ได้มีแค่ ชาย หรือ หญิง อีกต่อไป แต่มีนิยมที่หลากหลายมากขึ้นหรือที่เรียกว่า LGBTQ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่คนทั่วโลกที่เปิดรับแต่รวมไปถึงวงการ แฟชั่น ที่เริ่มผลิตเสื้อผ้าในสไตล์ที่เรียกว่า ‘Gender neutral’ หรือ ‘Unisex’ ซึ่งเป็นเสื้อผ้าที่เป็นกลางทางเพศ หรือ ไม่ระบุเพศ

ปกติเมื่อเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าหรือจะดูหมวดหมู่เสื้อผ้าบนโลกออนไลน์ แน่นอนว่าจะเจอกับหมวดหมู่ เสื้อผ้าผู้หญิง และ เสื้อผ้าผู้ชาย แต่ในอนาคต หมวดหมู่เหล่านี้อาจจะหายไป เพราะเหล่าผู้บริโภคที่ชื่นชอบแฟชั่นบางส่วนชื่นชอบกับคอลเลกชั่นแฟชั่นแบบไม่ระบุเพศ โดยเฉพาะผู้บริโภค Gen Z ที่กำลังมีความต้องการแฟชั่นที่ เป็นกลาง และครอบคลุมมากขึ้น นั่นเป็นการกระตุ้นร้านค้าที่ต้องการดึงดูดลูกค้าเหล่านี้ต้องเริ่มให้ความสนใจ

การสำรวจเดือนธันวาคม 2020 โดยบริษัทการตลาดและที่ปรึกษา Wunderman Thompson จากผู้บริโภคชาวอเมริกันจำนวน 1,000 คนที่มีอายุระหว่าง 16-24 ปี 70% ของผู้ตอบแบบสำรวจเห็นด้วยหรือเห็นด้วยอย่างยิ่งว่า เพศไม่ได้กำหนดคุณค่าของผู้คน อย่างเคยเป็น

Shawn Grain Carter ศาสตราจารย์ด้านการจัดการธุรกิจแฟชั่นจาก Fashion Institute of Technology กล่าวว่า “แฟชั่นสะท้อนวัฒนธรรมและความเชื่อทางการเมืองของคนรุ่นหนึ่ง ซึ่งมักถูกนำโดยคนหนุ่มสาว หากแบรนด์แฟชั่นอยากอยู่รอด พวกเขาจะต้องสะท้อนให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของแบรนด์เพื่อนำไปสู่ความจงรักภักดีของแบรนด์ตลอดชีวิต”

จะเห็นว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีแบรนด์ดังหลากหลายได้ออกคอลเลกชั่นที่มีความเป็น Gender neutral อย่างเช่น ZARA ที่ออก Ungendered collection  ส่วน H&M ก็มี H&M’s unisex collection ตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญและความต้องการของกลุ่มวัยรุ่นยุคนี้มากขึ้น ซึ่งพวกเขามองว่า Gender Neutral เป็นเรื่องสามัญทั่วไปเหมือนกับเสื้อผ้าที่มีอยู่ในท้องตลาด

ขณะที่ห้างสรรพสินค้าในอเมริกาเริ่มทำ The Phluid Project ซึ่งเป็นฉลากเสื้อผ้าที่เป็น Unisex โดยจะมีวางจำหน่ายในร้านค้ามากกว่า 5,000 แห่ง ผ่านการเป็นพันธมิตรกับร้านค้าปลีก เช่น Nordstrom (JWN), Target (TGT), Sephora และล่าสุด Saks Fifth Avenue ซึ่งเป็นร้านเอาท์เล็ตสุดหรูของ Saks Fifth Avenue

ผลิตภัณฑ์จากไลน์เสื้อผ้าและเครื่องประดับที่เป็นกลางทางเพศชุดแรกของ Saks Off Fifth

ตัวอย่างเช่น แคมเปญการตลาดช่วงฤดูร้อนปี 2021 ของแบรนด์ PacSun ได้นำเสนอมาร์เก็ตติ้งแคมเปญชื่อว่า ‘gender-free’ ซึ่งเป็นหมวดหมู่ที่เปิดตัวในเดือนกันยายน 2020 ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์แฟชั่นที่เรียกว่า Color Range ซึ่งเสื้อผ้าในคอลเลกชั่นที่แบรนด์กำลังเปิดตัวนั้นไม่ได้จำกัดเฉพาะสีบางสีและแยกเป็นชุดสำหรับเด็กหญิง เด็กชาย ชาย และหญิง แต่ ‘ไร้เพศ’ เนื่องจากแฟชั่นมีความลื่นไหล ไม่ใช่ผู้ชายหรือผู้หญิง และสไตล์สามารถเข้ากับร่างกายได้ทุกประเภท

“เราอาศัยอยู่ในสังคมไบนารีหรือการแบ่งแยกเพศเฉพาะชาย-หญิงมานาน โดยสิ่งที่ผู้บริโภค Gen Z ที่อายุยังน้อยกำลังท้าทายโครงสร้างนี้รวมถึงในด้านแฟชั่น” Rob Smith ซีอีโอและผู้ก่อตั้งโครงการ Phluid กล่าว

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน Saks Off Fifth ได้เปิดตัวเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่เป็นกลางทางเพศชุดแรก โดยรายได้ 100% จะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิ Phluid ซึ่งเป็นหน่วยงานสนับสนุนของ Smith’s label คอลเลกชั่นนี้มีการออกแบบสีรุ้งบนเสื้อยืด หมวก รองเท้าผ้าใบ และกระเป๋า ในราคาต่ำกว่า 50 ดอลลาร์

Sara Griffin รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดของ Saks Off Fifth กล่าวว่า คอลเลกชั่นกับโครงการ Phluid เป็นก้าวแรก เพื่อรองรับนักช็อปรุ่นใหม่ที่ไม่ค่อยสนใจเสื้อผ้าตามเพศแบบดั้งเดิม

“เรากำลังรับฟังลูกค้าของเราและจะทำการปรับเปลี่ยนต่อไป”

Source

]]>
1339177
บทสรุปเทรนด์แฟชั่นในรอบ 10 ปี “unisex-สี Millennial Pink-รองเท้าประหลาด” https://positioningmag.com/1259396 Sun, 05 Jan 2020 12:01:34 +0000 https://positioningmag.com/?p=1259396 ตลาดแฟชั่นมีพัฒนาการหลายด้านตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาในยุคปี 2010s ทั้งผู้ซื้อผู้ขายผู้ผลิตต้องปรับตัวตามตลาดรวมที่เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของทศวรรษซึ่งการช้อปปิ้งออนไลน์มีบทบาทแซงร้านค้าปลีกดั้งเดิม

ผลคือตลาดแฟชั่นกลายเป็นสมรภูมิที่ทุกคนสามารถแข่งขันได้อย่างเสรีกว่าเดิม แถมยังทำให้แฟชั่นแหวกแนวติดตลาดง่ายขึ้นเพราะ influencer ที่หยิบสไตล์เก๋ไก๋มาถ่ายทอดผ่านโซเชียลมีเดียทั้ง Instagram และ Facebook แบบให้ดูได้ทุกวัน

สไตล์จากคนดังเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจให้แบรนด์แฟชันต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ส่งผลให้เกิดการร่วมมือหรือการ collaboration ในรูปโครงการที่แบรนด์ต้องไป “x” กับกลุ่มหรือศิลปินอื่นแบบที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งคาดว่าเทรนด์ collaboration นี้จะยังมีอิทธิพลในตลาดแฟชั่นช่วงปี 2020 ต่อไป

นอกจาก collaboration เทรนด์ที่น่าสนใจในตลาดแฟชั่นช่วงทศวรรษยังมีประเด็น logomania สินค้าพิมพ์ลายโลโก้ที่เคยล้าสมัยไปแต่ก็กลับมาฮอตฮิตในช่วงปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันสินค้าที่สวมใส่ได้ทุกเพศอย่าง unisex ก็ได้รับความนิยมร้อนแรงตามกระแสเปิดเสรีเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ รวมถึงสี Millennial Pink ชมพูอมพีชที่ถูกมองว่าเป็นสีแห่งทศวรรษซึ่งหลายแบรนด์แฟชั่นต้องออกสินค้าสีนี้เพื่อตอบโจทย์ตลาดให้หลากหลาย

รองเท้าประหลาดฮอตแรง

ต้องบันทึกว่ายุคปี 2010s เป็นช่วงปีที่รองเท้าประหลาดรูปทรงพิเศษได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ส่งให้แบรนด์อย่าง Crocs จนถึง FILA รวมถึงรุ่นใหญ่อย่าง Balenciaga และ Jimmy Choo ต้องพยายามสร้างสรรค์รองเท้าดีไซน์แรงเพื่อดึงดูดความสนใจจากตลาดแฟชั่น ซึ่งจะสามารถแย่งพื้นที่โชว์ตัวในโลกโซเชียลได้

ไม่เพียงรองเท้าดีไซน์แรง กระเป๋าหรือแฟชั่นแหวกแนวที่สร้างความต่างก็กลายเป็นดาวเด่นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ยังมีกระแสแฟชั่นย้อนยุคหลุดโลกหรือที่เรียกว่า Post-Modernist Fashion ซึ่งสร้างชื่อให้ดีไซเนอร์และอีกหลายแบรนด์

สินค้ากลุ่ม Athleisure สำหรับนักกีฬายังกลายเป็นแฟชั่นที่ชาวโลกใส่ได้ทุกวัน กระแสรักสุขภาพที่ปลุกให้ผู้คนลุกขึ้นมาออกกำลังกายทั้งการวิ่งหรือโยคะ ทำให้แฟชั่นกีฬาสามารถแจ้งเกิดนอกห้องยิมได้มากกว่าทศวรรษอื่น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแบรนด์กีฬาหันไปทำ collaboration กับผู้มีอิทธิพลหลายวงการ โดยเฉพาะกลุ่่ม beauty ซึ่งทำให้สินค้ากีฬาโดนใจสาวน้อยสาวใหญ่ได้มากขึ้น

แบรนด์ดังต้อง x กัน

อย่านับให้เสียเวลาว่ายุคปี 2010s มีความร่วมมือหรือ collaboration ระหว่างแบรนด์และผู้มีอิทธิพลจำนวนกี่ครั้ง เพราะโครงการ collaboration เหล่ามีจำนวนนับไม่ถ้วนทั้งการร่วมมือกับดีไซเนอร์และศิลปิน ท่ามกลางการยกให้แบรนด์ Supreme เป็นสุดยอดแบรนด์ที่เชี่ยวชาญโมเดลธุรกิจ collaborative มาก่อนจนสามารถยกระดับสินค้าได้ชัดเจน ผ่านการร่วมมือกับ Louis Vuitton ในปี 2017

อีกสิ่งที่ชัดเจนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา คือทั้งรองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้า คาเฟ่ หรือแม้แต่ร้านค้าทั่วไป ล้วนมีปรากฏตัวในสีพีชพาสเทล Millennial Pink นี้ทั้งสิ้น โดย Pantone ยกสี “Rose Quartz” ให้เป็นสีแห่งปี 2016 แต่ก็ยังได้รับความนิยมเรื่อยมาจนถูกมองว่าเป็นสีที่ควรค่าแก่การโพสต์บน Instagram”

Air Jordan

แบรนด์ที่หนุนสี Millennial Pink มีตั้งแต่ Air Jordan ที่คลอด Air Jordan 6 สี Millenial Pink โดยร่วมมือกับ Aleali May ยังมีแบรนด์อย่าง Jacquemus, Dior และ Loewe ที่หยิบสีนี้ไปแต่งแต้มในคอลเลกชั่นตัวเอง

ยุคปี 2010s ยังเป็นช่วงเวลาทองของแบรนด์อิสระ ช่องทาง e-commerce ทั้ง Amazon และ eBay รวมถึง Instagram ที่มีฟีเจอร์ in-app shopping ล้วนกลายเป็นถนนสู่การปฏิวัติโลกค้าปลีกแฟชันยุคใหม่ที่จะต้องเน้นประสบการณ์มากขึ้นกว่าเดิม แจ้งเกิดยุค experiential retail ที่ร้านค้าทุกรายจะต้องทำการบ้านให้หนักกว่าเดิม

บทสรุปเทรนด์ตลาดแฟชั่นในรอบ 10 ปีเหล่านี้ว่าสนุกแล้ว โลกแฟชั่นในช่วงทศวรรษใหม่ต้องสนุกกว่านี้แน่นอน.

]]>
1259396