VALA Hua Hin – Nu Chapter Hotels – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 13 Jun 2024 09:16:33 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “วาลา หัวหิน” เฟส 2 เติมแม็กเน็ตด้วยสปา-คิดส์คลับ สยายปีกสู่ธุรกิจอาหาร   https://positioningmag.com/1477916 Thu, 13 Jun 2024 03:52:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1477916
  • วาลา หัวหิน เปิดครบ 3 ปี เพิ่มบริการซีสปา และคิดส์คลับ เติมอีโคซิสเท็มให้เต็มระบบ
  • สยายปีกสู่ธุรกิจอาหารครั้งแรก เปิดตัวแบรนด์คาซ่ามาเร่ ร้านอาหารสแตนด์อโลนแห่งแรกของ นู แชปเตอร์ โฮเทล
  • หวังเป็นบีช เดสติเนชั่นที่ทุกคนนึกถึงเมื่อมาหัวหิน
  • เติมสปา-คิดส์คลับ ให้ลูกค้าใช้ชีวิตได้ทุกกลุ่ม

    เมื่อ 3 ปีก่อน “วาลา หัวหิน” ได้แจ้งเกิดเป็นโรงแรมบูทีคสุดหรูแห่งใหม่ในโซนชะอำ-หัวหิน เรียกได้ว่าเป็นการเปิดตัวพร้อมกับการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ซึ่งวาลา หัวหินได้สะกดใจนักท่องเที่ยวได้ด้วยดีไซน์ และความมินิมัลแบบสุดๆ

    วาลา หัวหินเป็นโรงแรมน้องใหม่ในเครือ “รีเจ้นท์ กรุ๊ป” เจ้าของโรงแรม “รีเจ้นท์ ชะอำ หัวหิน” ที่เรียกได้ว่าครองโลเคชั่นที่เมืองชะอำมายาวนานกว่า 30 ปี หนึ่งในธุรกิจของตระกูล “เตชะไพบูลย์”  

    VALA Huahin

    รีเจ้นท์ กรุ๊ป ได้ใช้งบลงทุนกว่า 1,200 ล้านบาท เปิดตัวโครงการ วาลา หัวหิน – นู แชปเตอร์ โฮเทล (VALA Hua Hin – Nu Chapter Hotels) เมื่อช่วงปลายปี 2563 วางจุดยืนเป็นบูทีค บีชรีสอร์ต ระดับ 5 ดาว พร้อมกับได้ “นูนู่ – วศุมา คณาธนะวนิชย์” กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท รีเจ้นท์ กรุ๊ป ทายาทเจนเนอเรชั่นที่ 3 เข้ามาดูแลอย่างเต็มระบบตั้งแต่เดย์วัน

    วาลา หัวหินได้เปิดตัวในช่วงที่สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะเป็นช่วงของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 พอดี แต่ในวิกฤตยังมีโอกาส เพราะในโซนชะอำ หัวหินยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทยอยู่ โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ เมื่อมีการล็อกดาวน์ ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็ยังมีลูกค้าคนไทยอยู่ 

    VALA Huahin

    หลังจากที่เปิดให้บริการได้ 3 ปี กลุ่มผู้เข้าพักส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคู่รัก และครอบครัวคนรุ่นใหม่ (Young Family) มีสัดส่วนถึง 70% ประกอบกับเทรนด์ด้าน Health & Wellness กำลังมาแรง วาลา หัวหิน จึงได้เริ่มเฟส 2 ได้ใช้งบลงทุน 80 ล้านบาท เปิดตัวเซลา ซีแซงชัวรี่ สปา (Sela Sea Sanctuary Spa) ซีสปา แห่งแรกที่ชะอำหัวหิน และคิดส์คลับ สำหรับเด็กวัย 2 – 12 ปี สอนการเรียนรู้จากธรรมชาติ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกลุ่ม 

    วศุมา คณาธนะวนิชย์ กรรมการบริหาร นู แชปเตอร์ โฮเทล เปิดเผยว่า 

    “เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดบริการใหม่ เซลา ซีแซงชัวรี่ สปา ชูคอนเซ็ปต์ ซีฮีลลิ่ง หรือ ทะเลบำบัด ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องทะเล ไม่ว่าจะเป็นทรีตเมนต์ การคัดสรรค์ผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการตกแต่ง และบรรยากาศโดยรอบ เพื่อสร้างความแตกต่าง และทำให้ผู้มารับบริการได้สามารถผ่อนคลายอย่างแท้จริง ตั้งอยู่บริเวณโซนด้านหน้าโรงแรม เพื่อให้สามารถรองรับลูกค้าจากภายนอกได้ด้วย ราคาทรีตเมนต์เดี่ยวเริ่มต้น 3,000 บาท และแพ็กเกจ ราคา 8,000 บาทขึ้นไป เปิดบริการ 10 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม 

    เพื่อเน้นย้ำความเป็น วาลา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Nature’s Touch with a Modern Design” เราจึงเพิ่มกิจกรรมต่างๆ ให้เด็กๆ และเปิดตัว คิดส์คลับ Wonder Woods สำหรับเด็กอายุ  2-12 ปี ในพื้นที่ 160 ตารางเมตร ที่ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากป่า พร้อมส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมที่เด็ก สนุกไปกับการใกล้ชิดธรรมชาติ และทะเล มีพื้นที่กิจกรรมในร่ม เช่น โซนบ่อบอล และมินิสไลเดอร์ และกิจกรรมกลางแจ้ง พร้อม Organic Farm ให้เด็กได้เรียนรู้วิถีธรรมชาติ การปลูกผัก เก็บไข่ไก่ เป็นต้น

    สยายปีกสู่ธุรกิจอาหารครั้งแรก

    นอกจากบริการสปา และคิดส์คับแล้ว นู แชปเตอร์ โฮเทล ยังสยายปีกสู่ธุรกิจอาหารเต็มรูปแบบกับ คาซ่ามาเร่ (Casa Mare) บีชฟร้อนต์ เรสเตอรอง & เลาจน์ (Beachfront Restaurant & Lounge) บนหาดชะอำหัวหิน เป็นร้านอาหารสแตนด์อโลนแห่งแรกของ นู แชปเตอร์ โฮเทล ซึ่งได้เปิดให้บริการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาเช่นกัน คาดว่าจะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนชะอำหัวหิน

    สำหรับที่มาที่ไปของการบุกธุรกิจร้านอาหาร วศุมาเล่าว่า “ตอนที่เปิดให้บริการช่วง COVID-19 ได้มีการมอนิเตอร์ลูกค้าอยู่ตลอด ซึ่งดูแล้วว่าตลาดมีความต้องการร้านอาหารอยู่ เลยดีไซน์เป็นร้านอาหารที่รองรับได้ทุกกลุ่ม ทั้งครอบครัวใหญ่ เพื่อน คู่รัก ร้านเน้นความสะดวกสบาย ใช้เวลาได้ทั้งวัน มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีวิวสวย และห่างจากโรงแรมไปแค่ 3 นาทีเท่านั้น”

    คาซ่ามาเร่ เป็นบีชฟร้อนต์เรสเตอรองต์ ร้านอาหารสแตนด์อโลนร้านแรกภายใต้ นู แชปเตอร์ โฮเทล บนชายหาดชะอำมีความยาวกว่า 200 เมตร ขนาด 2 ชั้น บนพื้นที่ 800 ตารางเมตร รองรับลูกค้ามากกว่า 250 ที่นั่ง ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบ ร่มรื่น เห็นวิวทะเลในมุมกว้างสุดสายตา มีทั้งแบบอินดอร์ และเอาต์ดอร์ รับแสงส่องจากธรรมชาติ  

    นอกจากนี้ยังเป็น event venue ติดทะเลแห่งใหม่ ประกอบด้วย ห้องไพรเวทรูมที่สามารถจัดงานแบบเอ็กซ์คูลซีฟ และพื้นที่สนามหญ้าเอาต์ดอร์ขนาดใหญ่กว้างขวาง รองรับการจัดงานสังสรรค์ งานอีเวนต์ หรืองานวิวาห์ ตั้งแต่ 30 – 300 คน 

    คาซ่ามาเร่ เสิร์ฟอาหารหลากหลายในสไตล์สนุกสนาน ผสมผสานทั้งเมนูอาหารไทย ซีฟู้ด รวมถึงอาหารสไตล์เอเชียและยุโรปสมัยใหม่ (Vibrant mix of Thai, Seafood, Modern Asian with European flare) มีให้เลือกกว่า 80 เมนู ราคาต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 600 -800 บาท เปิดให้บริการตั้งแต่ 11 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม 

    ในอนาคต ภายในพื้นที่คาซ่ามาเร่มีแพลนจะจัดงาน “Art & Craft Weekend Club” โดยเชิญโลคอล อาร์ตทิสต์ มาโชว์และขายผลงานของตัวเอง เป็นการสนับสนุนและมีส่วนร่วมให้กับคอมมูนิตี้ที่บริษัทได้เข้าไปดำเนินธุรกิจด้วย

    หลังจากที่เปิดบริการมา 3 ปี แถมยังผ่านช่วงที่ยากที่สุดอย่างตอนมีโรคระบาด วศุมาบอกว่าความยากของการทำธุรกิจตอนนั้นก็คือ ต้องพัฒนาอยู่เสมอ ต้องหาประสบการณ์ใหม่ๆ นำเสนอให้ลูกค้าตลอดในทุกกลุ่ม อัปเกรดบริการต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าใด้ประสบการณ์ใหม่ๆ เสมอ 

    ชะอำ-หัวหิน ยังเป็นบีช เดสติเนชั่น

    ด้วยโลเคชั่นชะอำ และหัวหิน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทย เนื่องการเดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ทำให้หลังจากช่วงวิกฤต COVID-19 ก็สามารถฟื้นตัวได้เร็ว มีกลุ่มทัวร์เพิ่มมากขึ้น นักท่องเที่ยวอยู่นานมากขึ้น โดยรวมแล้วภาพรวมตลาดเติบโตเพิ่ม 15% โดยที่ในปี 2565-2566 มีนักท่องเที่ยวมาชะอำ หัวหินราว 9.5 ล้านคน ส่วนจังหวัดประจวบฯ และเพชรบุรีเติบโต 10% 

    VALA Huahin

    หลังจากเปิดประเทศ ตลาดท่องเที่ยวที่หัวหินชะอำ เริ่มมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นมาก เรามีสัดส่วนลูกค้าที่เป็นตลาดระยะใกล้ อาทิ จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน มากกว่า 50% จากที่แต่เดิมฐานลูกค้าเป็นคนไทยกว่า 90% อย่างไรก็ตาม อีกตลาดหนึ่งที่ทางโรงแรมจะเน้นมากขึ้นในอนาคต คือตลาดยุโรปที่เป็นตลาดท่องเที่ยวพำนักระยะยาว ซึ่งเห็นการฟื้นตัวตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้การบริการที่เพิ่มขึ้น จะช่วยให้ลูกค้าใช้เวลาที่โรงแรมมากขึ้น และบางกิจกรรมสามารถดึงดูดคนภายนอกเข้ามาใช้บริการ ทำให้รายได้โรงแรมเติบโตต่อเนื่องได้ในระยะยาว

    วศุมามีความมั่นใจว่า ชะอำ หัวหินยังคงเป็นบีช เดสติเนชั่นอันดับต้นๆ ของคนไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนไทยเป็นครั้งที่ 2 อาจจะมาหัวหินต่อจากกรุงเทพฯ 

    ]]>
    1477916
    เปิดความท้าทายทายาทเจน 3 “รีเจ้นท์ กรุ๊ป” ปั้น “วาลา หัวหิน” บูทีค รีสอร์ตหรู 5 ดาว https://positioningmag.com/1307282 Mon, 23 Nov 2020 15:15:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1307282 พูดคุยกับ “วศุมา คณาธนะวนิชย์” ทายาทเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของ “รีเจ้นท์ กรุ๊ป” ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเจ้าของโรงแรมขนาดใหญ่ในชะอำ หัวหิน ความท้าทายครั้งใหญ่ในการเปิดโครงการใหม่ช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19  

    รู้จัก “วาลา หัวหิน” บูทีค รีสอร์ตในเครือรีเจ้นท์ กรุ๊ป

    เรียกได้ว่าเป็นเวลากว่า 30 ปี ที่โรงแรม “รีเจ้นท์ ชะอำ หัวหิน” ได้ทำตลาดโลดแล่นในเมืองชะอำ เป็นโครงการของ “รีเจ้นท์ กรุ๊ป” ธุรกิจของตระกูล “เตชะไพบูลย์” กลายเป็นโครงการที่ไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอน

    ในปีนี้ถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของรีเจ้นท์ กรุ๊ป ในการเปิดตัวโครงการใหม่ที่มาพร้อมกับการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ยิ่งเพิ่มความยาก และความท้าทายมากขึ้นไปอีก

    วศุมา รีเจ้นท์ กรุ๊ป vala huahin

    รีเจ้นท์ กรุ๊ปได้เพิ่งเปิดโครงการ วาลา หัวหิน – นู แชปเตอร์ โฮเทล (VALA Hua Hin – Nu Chapter Hotels) บูทีค บีชรีสอร์ต ระดับ 5 ดาว ได้เปิดให้บริการ Soft Opening เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เป็นโครงการใหม่ในรอบหลายปี อีกทั้งยังเป็นโครงการที่ “วศุมา คณาธนะวนิชย์” กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท รีเจ้นท์ กรุ๊ป ทายาทเจนเนอเรชั่นที่ 3 เข้ามาดูแลอย่างเต็มระบบตั้งแต่ Day One

    วาลา หัวหิน ใช้งบลงทุนกว่า 1,200 ล้านบาท บนพื้นที่ทั้งหมด 20 ไร่ ชูจุดเด่นด้วยพื้นที่กว้างขวาง มีความเป็นส่วนตัว ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบ ร่มรื่น อุดมด้วยแมกไม้ใหญ่นานาชนิด ติดชายหาดทอดยาวถึง 260 เมตร มีส่วนผสม 3 อย่างด้วยกัน ได้แก่ 1. โลเคชั่นที่ตั้งติดชายหาด มีความเป็นส่วนตัว 2. ดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ และ 3. มีความใกล้ชิดธรรมชาติอย่างเต็มที่

    วาลา หัวหิน ได้รับการคัดเลือกเข้าเป็นสมาชิก Small Luxury Hotels of the World (SLH) ตอกย้ำความมีเอกลักษณ์ โดดเด่น หรูหราทันสมัย คำว่า VALA หมายถึงพลังของธรรมชาติ ถือเป็นทางเลือกใหม่ของหัวหิน-ชะอำ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ต้องการโรงแรมในรูปแบบบูทีค รีสอร์ต

    วศุมา เริ่มเล่าว่า วาลา หัวหิน ใช้เวลาในการพัฒนากว่า 2 ปี เป็นการเอาพื้นที่ที่เป็นที่ดินดั้งเดิมของครอบครัวที่มีกว่า 500 ไร่ มาพัฒนา ซึ่งตรงนี้เป็นที่ดินสวย ติดหาด มีต้นไม้สูงใหญ่จำนวนมาก จึงมีการออกแบบพื้นที่โครงการให้ยังคงรักษาต้นไม้เดิมเอาไว้ทั้งหมด หรือบางต้นย้ายไปปลูกในจุดใหม่แทน 

    vala huahin

    โครงการนี้ให้บริการห้องพักทั้งหมดเพียง 97 ห้อง แบ่งเป็นโซนห้องพักบนอาคาร 3 ชั้น จำนวน 84 ห้อง สามารถเห็นวิวทะเลทุกห้อง และโซนพูลวิลล่า โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 4,000 – 18,000 บาท 

    ในตอนแรกโครงการนี้จะเปิดให้บริการช่วงเดือนเมษายน แต่ติดเรื่องการแรพ่ระบาดของไวรัส COVID-19 และเรื่องการก่อสร้างที่ล่าช้า จึงเลื่อนมาเปิดช่วงกันยายน แต่ในช่วงที่ผ่านมาก็ได้รับผลตอบรับดี มีอัตราการเข้าพัก 40-50% แต่ก็เริ่มทยอยเปิดในส่วนพูลวิลล่าเพิ่มขึ้น จากเดิมที่เปิดให้บริการแค่บนตึก

    ปั้น Nu Chapter Hotels ลุยตระกูลบูทีค

    จะเห็นได้ว่าวาลา หัวหิน จะมีคำว่า Nu Chapter Hotels หรือนู แชปเตอร์ โฮเทล ต่อท้าย นั่นคือแบรนด์ใหม่ที่รีเจ้นท์ กรุ๊ปปั้นขึ้นมา เพื่อเป็นกลุ่มแมเนจเมนต์ของผู้บริหารนิวเจนรุ่นใหม่ และเป็นแบรนด์ที่จับกลุ่มตลาดบูทีค รีสอร์ตหรูด้วย เป็นการเสริมพอร์ตให้แข็งแรงขึ้น

    แต่เดิมรีเจ้นท์ กรุ๊ปมีโครงการในเครือ ได้แก่ โรงแรมเดอะ รีเจ้นท์ ชะอำ บีช รีสอร์ต, รีเจ้นท์ชาเล่ย์ และโรงเรียนการโรงแรมและท่องเที่ยว รีเจ้นท์ ชะอำ โดยที่โรงแรมเดอะ รีเจ้นท์ ชะอำ เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว วางจุดยืนเป็นโรงแรมที่จับกลุ่มสัมมนา และครอบครัวเป็นหลัก

    vala huahin

    แต่ยูนิตนู แชปเตอร์ โฮเทลจะขยายฐานสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ เป็นนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ มีคาแร็กเตอร์เป็นเอกลักษณ์ ใส่ใจเรื่องสุขภาพ สิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มครอบครัว เพื่อน หรือคู่รักก็ได้ แต่เป็นไลฟ์สไตล์การท่องเทีย่วของคนรุ่นใหม่นั่นเอง

    วศุมาเสริมอีกว่า ชื่อ Nu Chapter มาจากชื่อของคุณตา และคุณยายมาผสมกัน คุณยายชื่อโนรี หรือตัว N คุณตาชื่ออุทรณ์ หรือตัว U ทั้งสองคนเป็นคนสำคัญ เป็นคนก่อตั้งบริษัท อีกทั้งยังสามารถพ้องเสียงเป็น “นิว” แปลว่าสิ่งใหม่ๆ ได้ด้วย รวมถึง “นู่” เป็นชื่อเล่นของวศุมาเองที่ชื่อว่านูนู่

    ขอมีคาแร็กเตอร์ ไม่ต้องพึ่งเชนใหญ่บริหาร

    วศุมาได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาวาลา หัวหินตั้งแต่วันแรก มีส่วนร่วมในการออกแบบ เลือกวัสดุก่อสร้าง กำหนดคอนเซ็ปต์ คาแร็กเตอร์ ซึ่งสิ่งต่างๆ สะท้อนมาจาก Passion ส่วนตัวของวศุมาเองทั้งสิ้น

    “วาลา หัวหิน มีคาแร็กเตอร์ชัดเจน จะเป็นสถานที่ที่แต่ละคนสามารถเอ็นจอยได้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มครอบครัว คนทำงาน วัยรุ่น แต่มีไลฟ์สไตล์ชัดเจน เป็นคนพิถีพิถัน โปรดักต์จะมีความ Feminine มีความนิ่ง สงบ มีลายเส้นชัดเจน ถ้าเปรียบเป็นคน จะเป็นสาวอายุประมาณ 30 ปี เป็นคนที่ไม่ได้รักแค่ตัวเอง แต่รักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย”

    vala huahin

    อีกหนึ่งเรื่องสำคัญก็คือ การปั้นนู เชปเตอร์ โฮเทล เป็นเหมือนหน่วยการบริหารใหม่ จะแตกต่างจากโรงแรมสมัยใหม่ยุคนี้ที่บางโครงการจะใช้ “เชนโรงแรม” รายใหญ่เข้ามาบริหาร เพื่อต้องการสร้างแบรนด์อย่างรวดเร็ว ใช้เชนใหญ่ช่วยบริหารสร้างความเชื่อมั่น

    แต่วศุมากลับคิดตรงข้าม ต้องการพัฒนาโครงการที่เป็น Independent ไม่ต้องพึ่งพาเชนโรงแรมขนาดใหญ่ เพราะสามารถเข้าใจลูกค้าท้องถิ่นได้ดีกว่า แนวคิดนี้มาจากไลฟ์สไตล์ของวศุมาเองที่เป็นคนชอบท่องเที่ยว ในการเลือกแต่ละที่ก็จะเลือกโรงแรมที่มีคาแร็กเตอร์ ชอบโรงแรมขนาดเล็ก เพราะต้องการดูความหลากหลาย การบริหาร ความพิเศษ การบริการ และกิมมิกต่างๆ เป็นสิ่งที่เชนโรงแรมขนาดใหญ่ทำไม่ได้

    “การเลือกใช้เชนโรงแรมใหญ่ๆ หรือไม่ใช้เชน ขึ้นอยู่กันศักยภาพของที่นั้นๆ การบริหารเองจะทำให้เรารู้จักในพื้นที่ดี ถ้าทำเองทำได้มากกว่า ทำได้สอดคล้องมากกว่า ชูดคาแร็กเตอร์ได้มากกว่า ก็เลือกที่จะบริหารเอง”

    ต้องเป็นกรีนโฮเทล

    นอกจากเรื่องดีไซน์ที่ชูแนวคิด Nature’s Touch with a Modern Design นั่นคือการใช้ดีไซน์แบบโมเดิร์น ท่ามกลางธรรมชาติรายล้อมได้อย่างลงตัว ที่นี่จะมีพื้นที่สีเขียวถึง 48% รวมไปถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม หรือ Sustainability ก็เป็นคอนเซ็ปต์สำคัญของโครงการเช่นกัน

    vala huahin

    วศุมาเป็นคนอินกับเรื่องสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมองว่าเทรนด์การท่องเที่ยวในยุคนี้เปลี่ยนไป คนจะมองหาอะไรที่เป็นคุณค่าต่อจิตใจมากขึ้น การท่องเที่ยวไม่ใช่แค่จุดนอน แต่เป็นเดสติเนชั่น

    วาลา หัวหินจึงมีคอนเซ็ปต์ Green Hotel ด้วย ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม เริ่มงดใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง อุปกรณ์ที่ใช้สิ้นเปลือง อุปกรณ์ในห้องน้ำก็เป็นแบบรีฟิว เลือกวัสดุที่ย่อยสลายได้ และลดปริมาณอาหารเหลือทิ้ง (Food Waste) การทำฟาร์มเกษตรอินทรีย์ และการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ รวมไปถึงการใช้วัตถุดิบในประเทศ และผักผลไม้ตามฤดูกาล

    ความยากของทายาทเจน 3

    วศุมาเป็นบุตรสาวคนโตของ ปิยะมาน เตชะไพบูลย์ กับวิศิษฐ  คณาธนะวนิชย์ มีน้องชาย 1 คน นีโน่-กุลนาถ คณาธนะวนิชย์ นักธุรกิจสาวในวัย 30 ปี ได้ช่วยกิจการครอบครัวของรีเจ้นท์ กรุ๊ปมา 5 ปีแล้ว แรกเริ่มอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจดูในเรื่องการตลาด ระบบปฏิบัติการต่างๆ และปรับปรุงรีโนเวตเล็กๆ น้อยๆ

    vala huahin

    โปรเจกต์นี้จึงเป็นก้าวสำคัญของวศุมาที่ได้รับผิดชอบโครงการใหญ่เป็นครั้งแรก จึงมีการทุ่มเทมาก และได้รวบรวมสิ่งที่ชอบ เทรนด์ต่างๆ ไว้ในโครงการนี้

    “วาลา หัวหินเป็นก้าวใหญ่ของทายาทเจน 3 เป็นเหมือนลูกคนแรก ที่ได้เห็นการเติบโตตั้งแต่วันแรก อาจจะตะกุกตะกักไปบ้าง แต่ที่ออกมาก็พอใจ ดีที่ว่าตั้งแต่เด็กๆ ได้เห็นภาพการทำงานของครอบครัวมาตลอด ที่บ้านไม่ได้กดดันอะไรมาก ส่วนใหญ่เกิดจากเรากดดันตัวเอง คุณพ่อคุณแม่ก็ให้คำปรึกษาอยู่ เพียงแต่ตัวเราอยากให้อะไรออกมาดีมากๆ อยากให้ทุกคนมาแล้วประทับใจ”

    วศุมา เสริมอีกว่า ความยากของการบริหารคือ การเรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยเจอ ต้องตัดสินใจด้วยความเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้าง การออกแบบ ต้องเป็นคนหลักในการตัดสินใจ ยิ่งเป็นโปรเจกต์แรกก็ยิ่งยาก แต่ก็ต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ

    “ถ้ามี 100 อย่างให้ตัดสินใจ ตัดสินถูก 80 ก็โอเคแล้ว อีก 20 เป็นบทเรียน”

    สำหรับแผนการพัฒนาโครงการวาลา หัวหินในเฟสที่ 2 ต้องรอดูผลตอบรับต่อไปในอนาคต แต่ได้มีการปรับเข้ากับเทรนด์การท่องเที่ยวของคนยุคใหม่มากขึ้น มีกิจกรรมให้ใช้เวลาที่โรงแรมมากขึ้น อีกทั้งชะอำ-หัวหินก็ยังเป็นเดสติเนชั่นหลักสำหรับคนไทยที่ต้องการอยากไปทะเล ยังเป็นตัวเลือกที่สำคัญอยู่ไม่น้อย

    ]]>
    1307282