Video – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 19 Nov 2021 13:53:43 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ส่องอินไซต์การรับชม ‘วิดีโอ’ บน ‘Facebook’ คลิปแบบไหน ยาวเท่าไหร่ คนไทยนิยมสุด https://positioningmag.com/1362928 Fri, 19 Nov 2021 12:33:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1362928 ต้องยอมรับว่าคอนเทนต์วิดีโอเป็นอะไรที่มาแรงมาก เนื่องจากโครงข่ายอินเทอร์เน็ตที่ดีขึ้น บวกกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปเพราะการระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ 99% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตไทยชมวิดีโอออนไลน์อย่างน้อย 1 ครั้งในแต่ละเดือน แล้วสำหรับ Facebook เองผู้ใช้งานมีพฤติกรรมในการดูวิดีโออย่างไรทาง ‘Meta’ ก็ได้ออกมาเปิดเผยอินไซต์ให้ดูกัน

97% ของคนไทยชม Facebook Watch

ปรีชา คุณธรรมสถิต หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรเพื่อความบันเทิง ประจำประเทศไทย เวียดนาม และบังกลาเทศ จาก Meta เปิดเผยว่า ผู้คนจำนวน 2 พันล้านคนทั่วโลกรับชมวิดีโอบนช่องทางออนไลน์ในแต่ละวัน และคนกว่า  720 ล้านคนทั่วโลกใช้เวลาในการรับชมวิดีโอผ่าน Facebook Watch อย่างน้อย 1 นาทีในแต่ละเดือน สำหรับประเทศไทยพบว่า

  • กว่า 97% ของคนไทยรับชมวิดีโอผ่านฟีเจอร์ Facebook Watch เป็นประจำ
  • กว่า 67% เลือกดูวิดีโอบน Facebook Watch เพราะใช้งานอยู่แล้ว และ 56% รับชมเพราะเนื้อหาทันสมัย
  • ผู้ชายคิดเป็นสัดส่วน 49% หญิง 51%
  • ช่วงวัยที่ใช้งานมากที่สุดคือ Gen Z (28%), มิลเลนเนียล (23%), Gen X รวมกับเบบี้บูมเมอร์ (49%)
  • 98% ชมผ่านสมาร์ทโฟน ตามด้วย คอมพิวเตอร์/โน้ตบุ๊ก 79% และ สมาร์ททีวี 42%

วิดีโอ สั้น-กลาง นิยมสูงสุด

วิดีโอแบบสั้น (0-3 นาที) และวิดีโอความยาวปานกลาง (3-10 นาที) นิยมมากที่สุด

  • วิดีโอที่มีความยาว 0-3 นาที ถูกรับชมโดยเฉลี่ย 13 ครั้ง/สัปดาห์
  • วิดีโอที่มีความยาว 3-10 นาที ถูกรับชมโดยเฉลี่ย 11 ครั้ง/สัปดาห์
  • วิดีโอที่มีความยาว 10 นาทีหรือมากกว่า ถูกรับชมโดยเฉลี่ย 9 ครั้ง/สัปดาห์
  • คนนิยมรับชมวิดีโอที่มาจากเพจทางการ (official pages) แพลตฟอร์มสื่อ (ช่องทีวีต่าง ๆ) หรือผู้เผยแพร่เนื้อหาดิจิทัลต่าง ๆ (ครีเอเตอร์)
  • 9 ใน 10 รับชมวิดีโอเพื่อพักผ่อนจากการใช้ชีวิตประจำวัน
  • 8 ใน 10 รับชมวิดีโอเพื่อเชื่อมต่อกับผู้คนที่มีความสนใจแบบเดียวกัน

รูปแบบวิดีโอที่ชอบ

ไลฟ์สตรีมมิ่ง ก็เป็นอีกรูปแบบของวิดีโอที่คนสนใจชม เนื่องจาก รู้สึกได้เชื่อมต่อกันแบบเรียลไทม์ อีกส่วนก็คือ การช้อปปิ้ง นอกจากนี้ยัง แชร์ ไปยังกลุ่มคอมมูนิตี้ หรือเพื่อน ๆ และครอบครัวได้ง่าย ในส่วนของรูปแบบวิดีโอทั่วไปแบ่งที่ได้รับความนิยมแบ่งเป็น 3 ส่วน

  • วิดีโอสั้น : ชอบดูไฮไลต์ละคร, คลิปขข่าวสั้น ๆ และตัวอย่างหนัง
  • วิดีโอกลาง : คลิปข่าว และรีวิวสินค้าต่าง ๆ
  • วิดีโอยาว : ละคร, สารคดี และคลิปท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ในส่วนของโฆษณาพบว่า คนไทยจำนวนกว่าครึ่งคลิกเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าหลังเห็นโฆษณา

  • 49% ค้นหารีวิวและข้อมูลสินค้าเพิ่มเติม
  • 28% ตัดสินใจซื้อท้นที
  • 22% ติดต่อผู้ขายในทันที
  • 64% พิจารณาก่อน
]]>
1362928
‘ShopBack’ มองตลาดอีคอมเมิร์ซครึ่งปีหลังยังเดือด และ ‘วิดีโอ’ จะยิ่งมีอิทธิพลในการช้อป https://positioningmag.com/1342388 Wed, 14 Jul 2021 12:52:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1342388 หากพูดถึง ‘ShopBack’ แพลตฟอร์มสะสมรางวัล และ เงินคืนบนอีคอมเมิร์ซ ซึ่งขาช้อปหลายคนอาจผ่านหูผ่านตามาบ้าง เพราะ ShopBack ให้บริการมา 4 ปีแล้ว โดย กวิน ประชานุกูล ผู้ก่อตั้งและผู้จัดการ ShopBack ประจำประเทศไทย ก็ได้มาคาดการณ์ถึงตลาดอีคอมเมิร์ซในครึ่งปีหลัง รวมถึงเทรนด์ที่จะได้เห็นในอนาคต

โดย กวิน มองว่าในช่วงครึ่งปีหลังตลาดอีคอมเมิร์ซยังคงเติบโต เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ยังคงเป็นตัวกระตุ้นเพราะการเดินทางไปจับจ่ายยังจำกัด ซึ่งเป็นภาพชัดเจนมาตั้งแต่ช่วงล็อกดาวน์ครั้งแรกในเดือนเมษายน-พฤษภาคมปี 63 ขณะที่โปรโมชันสำคัญของเหล่าอีมาร์เก็ตเพลสยังคงเป็นแคมเปญดับเบิลเดย์ อาทิ 11.11, 12.12 ที่น่าจะทำโปรโมชันแรงมาก ๆ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค

ในส่วนของเทรนด์ที่จะเริ่มเห็นจากนี้และในระยะยาวคือ แบรนด์หันมาขายออนไลน์เองโดยไม่พึ่งอีมาร์เก็ตเพลส เนื่องจากแบรนด์ต้องการ ข้อมูล เพื่อนำไปต่อยอดทางการตลาดทั้งการทำแบรนดิ้งต่าง ๆ ดังนั้น งบการตลาดจากนี้จะลงน้ำหนักไปกับส่วนนี้ โดยกลุ่มแรกที่จะเห็นคือ กลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม, แฟชั่น ดังนั้น ShopBack ก็มีแผนจะเพิ่มพันธมิตรรายใหม่แบบโดยตรงมากขึ้น

นอกจากนี้ ที่น่าจับตามองคือ วิดีโอ เพราะเป็นสื่อที่เข้าถึงได้ง่าย ดังนั้น คอนเทนต์วิดีโอน่าจะเป็นเทรนด์ของอนาคตและจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อ ดังนั้น ในช่วงครึ่งปีหลัง ShopBack จึงร่วมมือกับครีเอเตอร์จาก TikTok กว่า 100 ราย นำคลิปวิดีโอรีวิวสินค้ามานำเสนอบนแพลตฟอร์มเพื่อให้รายละเอียดสินค้า โดยครีเอเตอร์จะได้ส่วนแบ่งรายได้ ซึ่งจากการทดลองพบว่า ผู้รับชมวิดีโอกว่าครึ่งมีการคลิกต่อเพื่อเข้าไปเลือกชมสินค้าและบริการ

กวิน ประชานุกูล ผู้ก่อตั้งและผู้จัดการ ShopBack ประจำประเทศไทย

จากปัจจัยจากการระบาดของ COVID-19 กลยุทธ์การนำเสนอคอนเทนต์วิดีโอ รวมถึงการทำโปรโมชันที่จูงใจ เชื่อว่าจะทำให้ ผู้ใช้งานและรายได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน ShopBack มียอดดาน์โหลดมากกว่า 18 ล้านครั้ง มีผู้ใช้งานกว่า 4.7 ล้านคน เป็นผู้หญิง 60% และชาย 40%

โดยกลุ่มอายุ 18-24 ปี มีสัดส่วน 11%, 24-34 ปี 42%, 34-44 ปี 29% และอายุ 45 ปีขึ้นไป 18 ผู้ใช้งานที่แอคทีฟราว 4.5 แสนราย/วัน มีอัตราการใช้ซ้ำ 50% มีการเข้าใช้งานผ่านแอนดรอยด์ 63% IOS 36% PC 1% และสำหรับกลุ่มสินค้าที่มียอดการสั่งซื้อสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มความงาม, เสื้อผ้าและรองเท้าผู้หญิง, อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน, ของชำ และโมบายและแท็บเล็ต

]]>
1342388
‘HOOQ’ โบกมือลาศึก Streaming ประกาศเลิกกิจการเหตุสู้ ‘ต้นทุน’ ไม่ไหว https://positioningmag.com/1271688 Fri, 03 Apr 2020 13:32:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1271688 HOOQ Digital บริษัท ร่วมทุนระหว่าง Singtel (เจ้าของหุ้นใหญ่), Sony Pictures และ Warner Bros Entertainment ที่โลกแล่นอยู่ในตลาดสตรีมมิ่งมากว่า 5 ปี ประกาศ เลิกกิจการ พร้อมกับขายทรัพย์เพื่อใช้หนี้ หลังจากที่ไม่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วและทำกำไรครอบคลุมต้นทุนการดำเนินงาน

โฆษกของ HOOQ กล่าวในแถลงการณ์ว่า “บริษัทได้แล่นผ่านการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่สำคัญ โดยเรากำลังดิ้นรนเพื่อให้ผลตอบแทนที่ยั่งยืนแก่นักลงทุน ขณะที่ผู้ให้บริการเนื้อหาทั่วโลกและในประเทศมีราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ผู้บริโภคเองมีตัวเลือกที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ รูปแบบธุรกิจ OTT จึงกลายเป็นความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้น เป็นผลให้ HOOQ ไม่สามารถเติบโตได้อย่างเพียงพอที่จะให้ผลตอบแทนที่ยั่งยืนหรือครอบคลุมต้นทุนเนื้อหา”

ปัจจุบัน HOOQ มีผู้ใช้งาน 80 ล้านคน ในประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย ไทย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และยังสร้างการเติบโตได้ต่อเนื่อง เพียงแต่รายได้ยังไม่เพียงพอต่อต้นทุนที่ต้องจ่าย

จากนี้คงต้องจับตาดู HOOQ ในประเทศไทยว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปจากนี้ รวมถึงผู้เล่นรายอื่นๆ อีกด้วย เพราะตั้งเเต่เจ้าพ่อคอนเทนต์ใหญ่อย่าง Disney ทำ Disney + แถมยังให้บริการไม่ถึงฝั่งเอเชีย แต่ก็สร้างความปั่นป่วนให้ตลาดนี้อย่างเห็นได้ชัด

Source

]]>
1271688