สายการบินกำลังดำเนินการหารือกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดซื้อวัคซีน COVID-19 ให้กับพนักงานทุกคนของบริษัท และครอบครัวของพวกเขาโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นได้ ตามการรายงานของสำนักข่าวเวียดนาม

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้สิทธิ์เพียงรายเดียวในการบริหารจัดการวัคซีน COVID-19 ในประเทศ โดยประสานงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดซื้อ นำเข้า ได้รับ สนับสนุน และบริหารวัคซีนตามมติของรัฐบาล หากสายการบินเวียดนามต้องการวัคซีนก็จะต้องได้รับแจกจ่ายผ่านกระทรวงสาธารณสุข

ตัวแทนสายการบินแห่งชาติระบุว่า วัคซีนจะถูกจัดสรรให้กับพนักงานของกลุ่มบริษัทสายการบินเวียดนาม ที่ประกอบด้วย สายการบินเวียดนาม สายการบินแปซิฟิก และสายการบินวาสโก รวมถึงสมาชิกในครอบครัวของพนักงาน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

ด้วยพนักงานของสายการบินอยู่ในจุดที่มีโอกาสติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในระดับสูง การตัดสินใจของบริษัทครั้งนี้จะช่วยปกป้องพนักงานและลูกค้าของสายการบิน และทำให้เกิดความสบายใจในการทำงาน นอกจากนี้ การตัดสินใจของบริษัทที่ช่วยให้ครอบครัวของพนักงานได้รับการฉีดวัคซีนด้วยนั้น จะช่วยลดภาระด้านงบประมาณของประเทศ

สายการบินมีพนักงานมากกว่า 22,000 คน คาดว่าจะต้องใช้วัคซีน COVID-19 หลายแสนโดส

เวียดนามเริ่มฉีดวัคซีน COVID-19 ให้กับประชาชนตั้งแต่ต้นเดือน โดยเริ่มฉีดให้กับบุคลลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้าในการต่อสู้กับ COVID-19 และจนถึงวันพุธที่ 24 มีนาคม มีชาวเวียดนามได้รับการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้าแล้วกว่า 38,000 คน

Source

พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินอายุ 28 ปี อาจถูกตั้งข้อหา “แพร่กระจายโรคติดต่อร้ายแรงในคน” โดยข้อหาดังกล่าวมีโทษจำคุกสูงสุด 12 ปี

นับเป็นครั้งแรกที่การละเมิดกฎระเบียบการป้องกัน COVID-19 ถูกปฏิบัติในฐานะอาชญากรรม หลังจากที่ผ่านมา ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบจะถูกลงโทษเพียงแค่ปรับเงินเท่านั้น

พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรายนี้ เดินทางกลับจากญี่ปุ่นมาถึงเวียดนามในวันที่ 14 พ.ย. และถูกกักตัวเป็นเวลา 4 วัน ยังสถานที่ที่สายการบินจัดเตรียมไว้ในนครโฮจิมินห์

หลังผลตรวจเชื้อไวรัสเป็นลบถึง 2 ครั้ง พนักงานรายนี้ได้รับอนุญาตให้กลับไปกักตัวต่อที่บ้านพัก แต่เขากลับสัมผัสติดต่อกับแม่ และเพื่อนอีก 2 คน รวมถึงครูสอนภาษาอังกฤษ ที่พักอยู่ด้วยกันเป็นเวลา 2-3 วัน

ในวันที่ 29 พ.ย. (15 วันหลังเดินทางกลับจากญี่ปุ่น) พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรายนี้มีผลตรวจเชื้อ COVID-19 เป็นบวก และในวันถัดมา ครูสอนภาษาอังกฤษก็มีผลตรวจเชื้อเป็นบวกเช่นกัน ซึ่งในระหว่างนั้นก็ได้แพร่เชื้อไวรัสไปยังหลานชาย และนักเรียนของเขาด้วย

เธอได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาออกจากบ้านในวันที่ 21 พ.ย. ไปทานอาหารที่ร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่อีกเขตหนึ่งของนครโฮจิมินห์ และเดินทางไปมหาวิทยาลัย Hutech ในวันที่ 22 พ.ย.

ผลการตรวจเชื้อไวรัสของครูสอนภาษาอังกฤษในวันจันทร์ที่ 30 พ.ย. ทำให้สถิติการไม่มีเชื้อแพร่ระบาดในท้องถิ่นติดต่อกันเกือบ 3 เดือนต้องยุติลง

ภายใต้มาตรการป้องกัน COVID-19 ลูกเรือของเที่ยวบินต้องกักตัวเมื่อเดินทางถึงเวียดนาม แต่พนักงานต้อนรับรายนี้ได้รับเชื้อไวรัสจากลูกเรืออีกคนที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากโรมาเนีย และกำลังกักตัวอยู่ในสถานที่กักตัวของสายการบิน

สถานที่กักตัวของสายการบินเวียดนาม 2 แห่งในนครโฮจิมินห์ถูกปิดนับจากนั้น ทำให้พนักงาน 61 คนของสายการบินต้องย้ายไปกักตัวในโรงแรม 2 แห่ง

สายการบินได้ออกหนังสือขอโทษสาธารณชนถึงเหตุการณ์พนักงานต้อนรับของสายการบินละเมิดกฎระเบียบการกักตัวระหว่างการกักตัวที่บ้าน จนเป็นผลให้เกิดการระบาดระลอก 3 ในประเทศ

คำแถลงของสายการบิน ระบุว่า พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินละเมิดกฎระเบียบการกักตัวของรัฐบาลและของบริษัทอย่างร้ายแรง หลังเสร็จสิ้นกระบวนการการรักษาและกักตัว พนักงานคนดังกล่าวจะถูกลงโทษ

และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทางกระทรวงคมนาคม ระบุว่า สายการบินที่มีลูกเรือฝ่าฝืนกฎระเบียบการกักตัว COVID-19 และแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินระหว่างประเทศ

ทางการกรุงฮานอย และนครโฮจิมินห์ได้เสนอยกเลิกกฎการกักกันพิเศษสำหรับพนักงานการบิน ซึ่งหมายความว่าสมาชิกลูกเรือของเที่ยวบินที่เดินทางกลับจากต่างประเทศควรถูกส่งไปที่สถานกักตัวของรัฐเพื่อกักตัวเป็นเวลา 14 วันตามปกติ จากปัจจุบันที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้รับอนุญาตให้กักตัวระยะสั้นเพื่อให้แน่ใจว่ามีเจ้าหน้าที่พร้อมสำหรับเที่ยวบิน

เวียดนามมีผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 สะสม 1,358 คน และมีผู้เสียชีวิต 35 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาวาน หรือไตวาย

Source

ผลกระทบจากการระบาด “เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การบิน” เซวือง จิ แถ่ง CEO ของสายการบินกล่าว

เวียดนามแอร์ไลน์สคาดการณ์ว่า จำนวนผู้โดยสารจะลดลง 2.5 ล้านคนในปีนี้ และเป็นผลให้รายได้ของสายการบินลดลง 12 ล้านล้านด่ง (519 ล้านดอลลาร์) นอกจากนั้น จำนวนผู้โดยสารชาวจีนที่ลดลงอย่างหนัก ยังส่งผลให้สายการบินเผชิญต่อการลดลงของจำนวนผู้โดยสารในเส้นทางบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งสายการบินกำลังเสียรายได้ราว 200,000-250,000 ล้านด่ง (8.6-10.8 ล้านดอลลาร์) ต่อสัปดาห์

สายการบินได้ระงับเที่ยวบินไปจีน และลดเที่ยวบินไปยังกรุงโซลและปูซานของเกาหลีใต้ เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสในประเทศเลวร้ายลง ซึ่งการยกเลิกเที่ยวบินทำให้สายการบินต้องจอดเครื่องบินไว้ราว 40 ลำ หรือ 40% ของฝูงบิน

ด้านสำนักงานการบินพลเรือนเวียดนาม ประเมินว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะสร้างความเสียหายให้แก่อุตสาหกรรมการบินของประเทศราว 25 ล้านล้านด่ง (1,080 ล้านดอลลาร์)

เวียดนามได้ระงับการเดินทางเข้าประเทศจากทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อิตาลี และอิหร่าน

ขณะที่ในเวียดนามผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้ง 16 คน ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ และไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

Source