VIZ Coins – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 02 Aug 2022 11:38:58 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 สยามพิวรรธน์ ชวนลูกค้ารักษ์โลก เปลี่ยนขยะในมือคุณ แลกแต้มชอปปิ้ง VIZ Coins https://positioningmag.com/1394505 Tue, 02 Aug 2022 10:00:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1394505

ทุกวันนี้ การดําเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นเรื่องที่หลายองค์กรให้ความสำคัญมากพอๆ กับการเติบโตของธุรกิจ และทุกครั้งที่วางแผนกลยุทธ์การตลาด ก็มักจะบรรจุนโยบายและทิศทางความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กรไว้เสมอ เช่นเดียวกับ สยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกชั้นนำ

สยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหารโครงการระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมียม เอาท์เล็ต กรุงเทพ มีนโยบายและแนวปฏิบัติในเรื่องการดูแลรักษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในทุกๆ พื้นที่ที่ได้เข้าไปดำเนินธุรกิจ และยังตั้งเป้าสู่การเป็นองค์กรต้นแบบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกรายแรก ที่พร้อมเดินหน้าผลักดัน “องค์กรขยะเป็นศูนย์” กับการจัดการขยะได้แบบ 360 องศา เพื่อที่จะสร้างความสมดุลด้านสิ่งแวดล้อมและแก้ไขปัญหาการจัดการขยะพลาสติกในประเทศไทยอย่างยั่งยืน

ล่าสุด ได้ต่อยอดบริการ Recycle Collection Center หรือ จุดรับวัสดุบรรจุภัณฑ์สะอาดที่ไม่ใช้แล้วแบบไดร์ฟทรู (Drive-Thru) แห่งแรกในประเทศไทย มาสู่การต่อยอดการมีส่วนร่วมเป็นผลตอบแทน กลับคืนให้เป็นสิทธิประโยชน์ในรูปแบบ VIZ Coins สำหรับลูกค้า เพื่อต่อยอดความสำเร็จของนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของสยามพิวรรธน์ ภายใต้โครงการ “Siam Piwat 360° Waste Journey to Zero Waste” ที่คำนึงถึงการจัดการขยะแบบครบวงจรตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) แล้ว และยังถือเป็นการยกระดับการทำกิจกรรมเพื่อสังคมขององค์กร ในโอกาสที่ดำเนินโครงการ Recycle Collection Center มาครบ 1 ปี จากที่เปิดโอกาสให้ลูกค้ามีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรม

นางสาวนราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ ประธานบริหารสายงานปฎิบัติการ (Chief Operating Officer) บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า

“ตั้งแต่เปิดให้บริการ Recycle Collection Center หรือ จุดรับวัสดุบรรจุภัณฑ์สะอาดที่ไม่ใช้แล้ว แบบไดร์ฟทรู (Drive-Thru) แห่งแรกในประเทศไทย ได้รับความสนใจจากกลุ่มคนรักษ์โลกจำนวนมากซึ่งมีแนวคิดกับการจัดการขยะที่มีความสอดคล้องกับแนวทางของสยามพิวรรธน์ ที่เห็นถึงความสำคัญของกระบวนการคัดแยกขยะที่เป็นระบบและครบวงจรทั้งห่วงโซ่ ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่ทุกคนสามารถเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างสิ่งดีๆ ให้กับสังคมและโลกใบนี้”

โดยปีนี้สยามพิวรรธน์ ต่อยอดเพื่อกระตุ้นความสนใจในกระแสรักษ์โลกอย่างต่อเนื่องโดยลูกค้าที่นำขยะมาฝากไว้กับสยามพิวรรธน์ สามารถที่จะแลกเปลี่ยนเป็น VIZ coins ผ่าน ONESIAM Application เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ สยามพิวรรธน์ยังมุ่งหวังว่า เรื่องที่สำคัญที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วม คือ การลดปริมาณขยะ และการคัดแยกขยะ นำขยะมารีไซเคิลต่อเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า เห็นคุณค่าของขยะ และสร้างค่านิยมให้กับสังคมไทยในการคัดแยกขยะก่อนทิ้งกันมากขึ้นกว่าเดิม

บริการ Recycle Collection Center ไม่ใช่แค่เปิดพื้นที่ ตั้งจุดรับขยะเหมือนที่ทำกันทั่วไป แต่เป็นการเพิ่มมูลค่าขยะในมือของลูกค้ากลับคืนเป็น VIZ Coins ผ่าน ONESIAM Application นอกจากจะทำให้ลูกค้ารู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมคัดแยกขยะก่อนทิ้ง และช่วยลดปริมาณขยะด้วยตนเองแล้ว ยังเห็นมูลค่าของการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ที่สามารถนำคะแนนไปใช้ประโยชน์ต่อได้ ยิ่งตอกย้ำมิติของคำว่า “หมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่” อย่างมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น

สำหรับวิธีการคิดแต้ม VIZ Coins จะคิดตามมูลค่าน้ำหนักจริงของขยะที่ทำความสะอาด และคัดแยกแล้วจากที่บ้าน โดยลูกค้าจะได้รับ VIZ Coins หลังจากการสแกนคิวอาร์โค้ดที่บริเวณจุดรับขยะ บริเวณลานจอดรถทัวร์ (ด้านหลังสยามพารากอน) โดยเกณฑ์การให้ VIZ Coins จะแยกตามประเภทและน้ำหนัก ต่อ 1 กิโลกรัม เริ่มต้นที่ 1 VIZ Coin สำหรับกล่อง ซองพลาสติก และแก้ว โดยจะได้ 3 VIZ Coins สำหรับกระดาษ และ 5 VIZ Coins สำหรับขวดพลาสติก แต้มสูงสุดที่อลูมิเนียมรับ 30 VIZ Coins

นอกจากการเปลี่ยนขยะในมือลูกค้าให้กลายเป็นแต้มสะสมกลับคืนไปใช้แลกสิทธิประโยชน์แล้ว สิ่งที่ Recycle Collection Center ทำภายใต้โครงการ “Siam Piwat 360° Waste Journey to Zero Waste” นั้น ยังคำนึงถึงกระบวนการทั้งระบบและครบวงจรทั้งห่วงโซ่ โดยขยะที่ลูกค้าฝาก จะถูกส่งต่อไปรีไซเคิลเป็นวัตถุดิบ นำมาเข้าสู่กระบวนการอัพไซคลิ่งเพิ่มมูลค่า โดยส่วนหนึ่งยังกลับมาวางจำหน่ายบนพื้นที่สำหรับสินค้ารักษ์โลก “อีโค่โทเปีย” ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ด้วยนั่นเอง

แม้จะเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ แต่ก็เป็นหนึ่งกิจกรรมดีๆ ที่ช่วยส่งต่อความสุขให้กับโลก และเพิ่มความเพลิดเพลินในการชอปปิงของลูกค้าด้วยหัวใจที่พองโต

]]>
1394505
สยามพิวรรธน์ เปิดกลยุทธ์ดิจิทัล “โลกคู่ขนาน” สร้างไลฟ์สไตล์เชื่อมออฟไลน์ – ออนไลน์ ปฏิวัติประสบการณ์ค้าปลีกแห่งอนาคต https://positioningmag.com/1361485 Fri, 19 Nov 2021 10:00:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1361485
  •  สยามพิวรรธน์ ตอกย้ำจุดยืนผู้นำแห่งวิสัยทัศน์ “The Visionary Icon” เปิดยุทธศาสตร์ด้านดิจิทัล เชื่อมโลกคู่ขนานออฟไลน์ – ออนไลน์ที่ไร้พรมแดน นำธุรกิจร้านค้า คู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ เข้าสู่การสร้างประสบการณ์ที่เงินซื้อไม่ได้บนโลกดิจิทัล ตอบสนองความต้องการของ Global Citizen
  •  ผนึกศักยภาพร่วมกับพันธมิตรทุกกลุ่ม ผู้นำนวัตกรรมระดับแนวหน้าของธุรกิจดิจิทัล เพื่อสร้างระบบนิเวศค้าปลีกแห่งอนาคตร่วมกัน
  •  ครั้งแรกกับปรากฏการณ์การสร้างคอมมูนิตี้บนความสนใจของลูกค้าบนออนไลน์แพลตฟอร์มที่ผสานการสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าแบบบูรณาการ (Loyalty Program) เตรียมเริ่มใช้ VIZ Coins ที่ลูกค้าสามารถนำมาจับจ่ายใช้สอย เพื่อยกระดับประสบการณ์และสิทธิพิเศษที่เงินซื้อไม่ได้ พร้อมพัฒนาสู่ ฟินเทคในอนาคต
  •  เสริมทัพคนรุ่นใหม่ที่จะก้าวเข้ามาเป็นผู้นำทีม ให้ได้แสดงศักยภาพ และท้าทายความสามารถของตนเอง มีโอกาสทำงานร่วมกับพันธมิตรองค์กรใหญ่ แบรนด์ดังระดับโลก และร่วมสร้างผลงานที่จะเป็น Talk of the world

บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารศูนย์การค้า สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ตอกย้ำจุดยืนผู้นำแห่งวิสัยทัศน์ “The Visionary Icon” สร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการรีเทลอีกครั้ง เปิดกลยุทธ์ด้านดิจิทัลเตรียมรุกไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 พร้อมดึงพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ร่วมพัฒนานวัตกรรมเชื่อมประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟบนโลกออฟไลน์ที่เงินซื้อไม่ได้ สู่แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้คุณค่ามากกว่าแค่การจับจ่ายใช้สอย สร้างอีโคซิสเต็ม (Ecosystem) ออฟไลน์ – ออนไลน์ใหม่ ที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คน และเชื่อมธุรกิจ รีเทลบนโลกคู่ขนานแห่งอนาคต

สยามพิวรรธน์ ในฐานะผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างและเป็นครั้งแรก เป็นเจ้าแห่งการสร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้ทุกศูนย์การค้าในเครือเสมอมา ในวันนี้พร้อมแล้วที่จะสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้เกิดขึ้นบนโลกดิจิทัล โดยได้พัฒนานวัตกรรมแห่งโลกอนาคตที่จะเชื่อมโยงทุกความปรารถนาของลูกค้าเข้ากับการสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ สร้างรายได้ และส่งเสริมแบรนด์ของบรรดาคู่ค้า และพันธมิตรของสยามพิวรรธน์ ให้เป็นระบบนิเวศแห่งความสำเร็จที่ยั่งยืน (Sustainable Ecosystem) และสมบูรณ์แบบที่สุด ผ่านแพลตฟอร์มเชื่อมสองโลกคู่ขนานออฟไลน์ – ออนไลน์ รูปแบบใหม่ที่จะสร้างประโยชน์และคุณค่าให้แก่ทุกฝ่ายครอบคลุมในทุกมิติ ไม่ใช่เพียงแค่ในเชิงการขายสินค้า แต่เป็นการบริหารความพึงพอใจ ที่เชิญชวนให้ลูกค้าเข้าร่วมสร้าง Digital Community ที่หลากหลาย อันเต็มไปด้วยเรื่องราวที่เลือกได้ตามความสนใจ ตรงตามประสบการณ์เฉพาะตัว (Personalized Benefit & Experiences) อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

นายอริยะ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้ก่อตั้งบริษัท Transformational และทำหน้าที่ในฐานะประธานบริหารสายงานนวัตกรรม บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า

“ผมเชื่อว่าสยามพิวรรธน์จะเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกในประเทศไทยและไม่กี่รายในโลกที่ลงทุนพัฒนาแพลตฟอร์ม เพื่อรองรับคู่ค้าและมอบประสบการณ์ที่คัดสรรมาโดยเฉพาะให้แก่ลูกค้า เราต้องการออกแบบประสบการณ์ที่เป็นมากกว่าแค่การจับจ่ายออนไลน์ที่ขับเคลื่อนด้วยส่วนลด ความมุ่งมั่นของสยามพิวรรธน์คือการเนรมิตประสบการณ์ที่แปลกใหม่และไม่เหมือนใคร เพื่อสอดรับความต้องการของลูกค้าคนสำคัญรวมทั้งลูกค้าที่มีกำลังใช้จ่ายสูงและกำลังมองหาประสบการณ์ที่ตรงใจมากกว่าที่เคย ไปพร้อม ๆ กับการตอบรับความต้องการของคู่ค้าให้ดียิ่งขึ้น เรามุ่งหมายที่จะรังสรรค์แพลตฟอร์มใหม่ที่เน้นคอนเทนต์รายวันที่มีความน่าสนใจ ซึ่งเข้ากับความชื่นชอบของผู้บริโภค พาลูกค้าเปิดโลกไปกับเทรนด์ใหม่ แบรนด์ใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงกิจกรรมใหม่ตลอดทั้งปี รวมทั้งมอบสิทธิประโยชน์และประสบการณ์ที่คัดสรรมาเฉพาะเพื่อลูกค้าแต่ละราย”

“จากสถานการณ์โควิด-19 ผนวกกับความสะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ที่ตอบโจทย์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผลักดันให้กระแสอีคอมเมิร์ซทะยานถึงขีดสุด อย่างไรก็ตามหลังจากที่ไม่ได้ออกไปไหนและต้องทำงานที่บ้านมาเกือบสองปี ลูกค้าต่างให้การตอบรับกันเป็นอย่างดี เมื่อศูนย์การค้ากลับมาเปิดให้บริการในเดือนกันยายนที่ผ่านมา โควิด-19 ทำให้เราคิดถึงความสุขของการเลือกซื้อสินค้าในโลกออฟไลน์ ในฐานะลูกค้า เราต่างใช้ชีวิตอยู่ในโลกทั้งสองใบนี้ไปพร้อม ๆ กัน จึงเรียกได้ว่า การเชื่อมช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ที่เป็นดั่ง “โลกคู่ขนาน” ได้หยั่งรากลึกลงในกลยุทธ์และแนวคิดของสยามพิวรรธน์ในทุกวันนี้” นายอริยะ กล่าวเสริม

แพลตฟอร์มใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวภายใต้กลยุทธ์โลกคู่ขนาน มี 4 องค์ประกอบที่เป็นปัจจัยพื้นฐาน ดังนี้

1. ผนึกร้านค้า คู่ค้า พันธมิตรและแบรนด์ที่หลากหลาย : คือ ดีเอ็นเอและหัวใจความสำเร็จที่สามารถดึงดูดลูกค้าที่มีกำลังในการจับจ่ายใช้สอยและสร้างความแตกต่างให้กับสยามพิวรรธน์ ซึ่งนับตั้งแต่การเปิดตัว Ultimate Chat & Shop เมื่อเดือนเมษายน 2564 ซึ่งเป็นช่วงโควิด-19 ระลอก 4 ทำให้เราพบว่า ลูกค้ามียอดใช้จ่ายออนไลน์สูงกว่ายอดซื้อปกติในประเทศไทยโดยเฉลี่ยถึง 9-10 เท่า โดยในอนาคตอันใกล้ สยามพิวรรธน์มีแผนจะดึงแบรนด์และคู่ค้าระดับพรีเมียมและลักชัวรีอีกมากมายเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว

2. ชูธงสร้างคอมมูนิตี้ที่คัดสรรความพิเศษมาให้โดยเฉพาะ : สยามพิวรรธน์จะสร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกอีกครั้ง ผ่านการนำเสนอคอนเทนต์มากกว่า 3,000 คอนเทนต์ในแต่ละเดือน ในคอมมูนิตี้ออนไลน์แพลตฟอร์มที่สร้างบนความสนใจของลูกค้าให้ได้รู้ก่อนใคร ผสานการสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าแบบบูรณาการ (Loyalty Program) เชื่อมออฟไลน์ – ออนไลน์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด สยามพิวรรธน์เชื่อในการสร้างคอนเทนต์ สร้างความผูกพันกับลูกค้าเพื่อให้มาจับจ่ายกับแบรนด์ต่าง ๆ ในศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์ ไม่ใช่เพราะส่วนลด แต่เป็นเพราะแบรนด์เหล่านี้เป็นแบรนด์โปรด หรือแบรนด์ที่สร้างแรงบันดาลใจ เช่น ลูกค้าต้องการอะไร เทรนด์ มิกซ์แอนด์แมตช์ หรือการดูแลตัวเองอย่างไร ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เกี่ยวโยงและขึ้นอยู่กับคอมมูนิตี้เป็นสำคัญ

3. เชื่อมประสบการณ์โลกคู่ขนาน : ลูกค้าที่มีกำลังย่อมมองหาประสบการณ์ที่ถูกคัดสรรมาแล้วอย่างพิถีพิถัน ดังนั้น การเข้าไปอยู่ในใจลูกค้ากลุ่มนี้จึงไม่ใช่การมีสินค้านับหมื่นรายการ แต่ต้องมีสินค้าที่พวกเขาต้องการ ซึ่งอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ นั่นคือต้องอาศัยศิลปะในการสื่อสารและนำเสนอสินค้าที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ และอาศัยนวัตกรรมเทคโนโลยี เพื่อนำเสนอคอนเทนต์และสินค้าเฉพาะบุคคล แพลตฟอร์มที่กำลังจะเปิดตัวนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกค้าค้นพบแบรนด์ สินค้า และประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเชื่อมต่อโลกออฟไลน์สู่โลกออนไลน์ไว้ในมือคุณ ทำให้ทุกคนได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่แตกต่างและเงินซื้อไม่ได้ ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยสยามพิวรรธน์มีแผนเตรียมขยายศักยภาพของการเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนจริงด้วย Metaverse ในอนาคต

4. นำเสนอระบบรีวอร์ดที่ไร้ขีดจำกัด : สยามพิวรรธน์ยกระดับ Loyalty Program พร้อมเริ่มใช้ VIZ Coins เพื่อยกระดับประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้า ณ ร้านค้าที่เข้าร่วมรายการภายในศูนย์การค้า บนช่องทางออนไลน์ และเป็นทางเลือกให้ลูกค้าเปลี่ยนคะแนนในบัตรเครดิต เพื่อเพลิดเพลินไปกับสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม

แพลตฟอร์มใหม่นี้พัฒนาจากความร่วมมือกับพันธมิตรกลุ่มต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

• พัฒนาร่วมกับคู่ค้า เพื่อสร้างประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ตรงกับจุดยืนของแบรนด์

• พัฒนาร่วมกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยี เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของแพลตฟอร์ม ข้อมูล และโปรแกรมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

• พัฒนาร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังต่าง ๆ เพื่อสร้างคอนเทนต์สำหรับแต่ละคอมมูนิตี้

นายอักเซล วินเทอร์ ประธานบริหารสายงานดิจิทัล บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวเสริมว่า

“เป้าหมายหลักของสยามพิวรรธน์คือการเป็น ผู้นำตลาดในการบุกเบิกโมเดลธุรกิจใหม่ สร้าง “ระบบนิเวศดิจิทัล” เพื่อขยายตลาดให้เข้าถึงลูกค้าใหม่ที่มีความหลากหลาย เร่งการเติบโตแบบก้าวกระโดด และครองความเป็นหนึ่งในใจลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ สยามพิวรรธน์ ได้ผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ซึ่งล่าสุดได้จับมือ ZIPMEX ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล เปิดให้ลูกค้าสามารถใช้ ZIPMEX Token เป็นเครื่องมือในการแลกเป็นสินค้าหรือบริการที่จับต้องและสัมผัสได้จริง พร้อมเดินหน้าสร้างโปรแกรมเชื่อมสัมพันธ์กับลูกค้า ผ่านการมอบประสบการณ์ที่เสริมคุณค่าและอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต รวมทั้งได้ร่วมมือกับ KX ในการเปิดตัว Coral แพลตฟอร์ม NFT Marketplace ที่จะร่วมกันสร้างนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดการพัฒนาต่อยอด ทั้งในด้านศิลปะ วัฒนธรรม ไลฟ์สไตล์ และสร้างสุดยอดประสบการณ์ให้กับลูกค้าทั้งคนไทยและต่างประเทศ โดยใช้พื้นที่ของสยามพารากอน และไอคอนสยาม ในการจัดทำ NFT Innovation Digital Wall ให้ผู้ที่มาเยือนศูนย์การค้าได้เข้าชม NFT Art ได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนั้น สยามพิวรรธน์ ยังได้จับมือกับ Perx Technologies ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ เพื่อร่วมกันพัฒนาสร้างสรรค์ประสบการณ์แปลกใหม่บนโลกดิจิทัลที่จะขยายฐานลูกค้าของกลุ่มสยามพิวรรธน์ ซึ่งปัจจุบันเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศให้กว้างไกลยิ่งขึ้นทั่วโลก ผ่านกลุ่มพันธมิตรร้านค้าและคู่ค้า (Global Partners) ขณะเดียวกันกลุ่มลูกค้าจะได้รับประโยชน์เต็มอิ่ม กับสิทธิประโยชน์เหนือระดับภายใต้ Loyalty Program ที่ Personalized เป็นเสมือนเพื่อนที่รู้ใจ พร้อมเสริมความสนุกเร้าใจกับ การจับจ่ายใช้สอยผ่านเกมมิฟิเคชัน (Gamification) ที่จะทำให้ทุกคนได้โลดแล่นไปกับประสบการณ์ที่แตกต่างและเงินซื้อไม่ได้ เรายังเตรียมประกาศเปิดตัวพันธมิตรใหม่ พร้อมทัพคนดิจิทัลที่จะมาร่วมสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง และน่าตื่นตาตื่นใจให้กับลูกค้าอย่างแน่นอน”

“การขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ปัจจัยสำคัญ คือการสร้างทัพทีมงานที่แข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับคุณอริยะ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญระดับโลกหลายบริษัท ที่มาช่วยสยามพิวรรธน์ขับเคลื่อนแผนงานดิจิทัล และนวัตกรรม สยามพิวรรธน์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนและเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ก้าวเข้ามาเป็นผู้นำทีมในช่วงเปลี่ยนผ่านของธุรกิจ ได้แสดงศักยภาพ และท้าทายความสามารถของตนเองในแบบที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ผ่านการทำงานในรูปแบบโครงการธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ ที่ผู้ร่วมงานสามารถบริหารจัดการได้อย่างคล่องตัว และตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว (Self-Directed Team) พร้อมทั้งได้เรียนรู้และลงมือทำงานที่แปลกใหม่ในทุก ๆ วัน ได้ใกล้ชิดกับพันธมิตรองค์กรใหญ่ แบรนด์ดังระดับโลก และผู้เชี่ยวชาญจากทุกสาขา เพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ และมอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลก การได้เข้าร่วมงานกับสยามพิวรรธน์จะเป็นเวทีให้คนรุ่นใหม่ที่อยากเติบโตแบบก้าวกระโดด ได้ทำในสิ่งที่พิเศษแบบครั้งหนึ่งในชีวิต และร่วมสร้างผลงานที่จะเป็น Talk of the World พร้อมเปิดรับประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างไปจากที่อื่น”  นายอักเซล กล่าวปิดท้าย

ในช่วงเวลาคาบเกี่ยวของโลกที่ผู้คนกำลังปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ สยามพิวรรธน์เชื่อมั่นว่าคุณค่าและประสบการณ์บนโลกออฟไลน์ยังคงเป็นสิ่งที่ทุกคนมองหาและขาดไม่ได้ การนำเสนอนวัตกรรมใหม่ในรูปแบบ สยามพิวรรธน์ จึงเป็นการเชื่อมโลกออฟไลน์สู่ออนไลน์อย่างไร้รอยต่อ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนอย่างครบวงจร ทั้งในเรื่องความสะดวกสบายและการสร้างคุณค่า ซึ่งจะช่วยเติมเต็มชีวิตยุคใหม่แห่งโลกอนาคตได้อย่างแท้จริง เตรียมพบกับการเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ต้นเดือนธันวาคมนี้ ที่ชูธงด้านการสร้างคอมมูนิตี้ผสานการสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าแบบบูรณาการ (Loyalty Program) ด้านโซเชียลและอีคอมเมิร์ซ (Social and E-Commerce) และต่อยอดสู่ฟินเทคในอนาคต

]]>
1361485