Warner Bros – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 21 Dec 2023 13:00:18 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ลือ! ซีอีโอของ ‘Warner Bros. Discovery’ ซุ่มคุยกับซีอีโอ ‘Paramount’ เกี่ยวกับการ ‘ควบรวมกิจการ’ https://positioningmag.com/1456705 Thu, 21 Dec 2023 07:31:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1456705 ต้องยอมรับว่านับตั้งแต่การมาของแพลตฟอร์ม วิดีโอสตรีมมิ่ง ที่ทำให้วงการสื่อเปลี่ยนเเปลงไป ค่ายผู้ผลิตสื่อรายใหญ่ก็ต้องลงสู่ตลาดสตรีมมิ่ง ท่ามการการแข่งขันที่ดุเดือด โดยล่าสุด สื่อได้ออกข่าวว่าผู้บริหารระดับสูงของของค่าย ‘Warner Bros. Discovery’ ได้ไปเจรจากับค่าย ‘Paramount’ เกี่ยวกับการ ‘ควบรวมกิจการ’

CNN ได้รายงานว่า David Zaslav ซีอีโอของ Warner Bros. Discovery ได้พบกับ Bob Bakish ซีอีโอของ Paramount Global เมื่อวันอังคารที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ สำนักงานใหญ่ของ Paramount ในไทม์สแควร์ นิวยอร์กซิตี้ เพื่อพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการควบรวมกิจการระหว่างทั้งสองบริษัท อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 บริษัทปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวดังกล่าว

แม้จะยังไม่มีการยืนยันว่าทั้งสองบริษัทจะตกลงควบรวมกิจการกัน แต่หลายคนมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหากทั้งสองบริษัทจะควบรวมกัน เพราะการควบรวมนี้อาจอาจทำให้อุตสาหกรรมสื่อพลิกผันได้อีกครั้ง ขณะที่ Paramount ก็ต้องการพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอดในปัจจุบัน

เพราะต้องยอมรับว่า การแข่งขันในอุตสาหกรรมคอนเทนต์ในยุคสตรีมมิ่งนั้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ และยังต้องใช้เงินมหาศาล เพราะต้องแข่งทั้งผู้เล่นที่แข็งแกร่งมาก ๆ อย่าง Netflix และ Disney ขณะที่ปัจจุบันทั้งสองบริษัทเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญในสภาพแวดล้อมของสื่อที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เรตติ้งทีวีลดลงเนื่องจากลูกค้ายกเลิกบริการเคเบิลทีวีมากขึ้น ส่วนตลาดโฆษณากำลังเปลี่ยนไปสู่การสตรีม นอกจากนี้ ต้นทุนการสร้างคอนเทนต์ก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ 

ดังนั้น หากทั้งสองบริษัทควบรวมกัน Warner Bros. Discovery ก็จะได้แพลตฟอร์มของ Paramount+ มาเสริมแกร่งให้กับบริการสตรีมมิ่งอย่าง HBO ขณะเดียวกัน Paramount ก็จะได้ช่องทางการขายในต่างประเทศเพื่อส่งเสริมแฟรนไชส์ต่าง ๆ ของค่าย

“ฉันคิดว่ามันบ่งบอกถึงความตื่นตระหนก เพราะอุตสาหกรรมนี้กำลังเผชิญกับอนาคตที่ท้าทายอย่างยิ่ง พวกเขาจะพยายามทำให้ตัวเองใหญ่ขึ้นเพื่อแข่งขันในตลาดสตรีมมิ่ง” Rich Greenfield นักวิเคราะห์อุตสาหกรรม ผู้ร่วมก่อตั้ง LightShed Partners กล่าว

อย่างไรก็ตาม Warner Bros. Discovery จะไม่สามารถทำธุรกรรมกับ Paramount หรือหน่วยงานอื่นใดได้ในขณะนี้ จนกว่ากฎหมายภาษีอากรที่ห้ามไม่ให้บริษัทเข้าซื้อกิจการหรือการควบรวมกิจการเพิ่มเติมจนกว่าจะหลังเดือนเมษายน 2024 เนื่องจาก WarnerMedia เพิ่งซื้อ Discovery ไปเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมาในมูลค่า 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปัจจุบัน Warner Bros. Discovery มีมูลค่าอยู่ที่ราว 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วน Paramount มีมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ทางบริษัทกำลังเผชิญกับภาระหนี้ ทำให้อยู่ภายใต้ความกดดันที่จะหาพาร์ตเนอร์ด้านกลยุทธ์หรือผู้ซื้อกิจการต่อ ดังนั้น อาจต้องรอดูว่าทั้งสองบริษัทจะตกลงควบรวมกิจการกันได้หรือไม่

]]>
1456705
HBO Max และ Discovery+ เตรียมรวมบริการเข้าด้วยกัน ทวีปเอเชียได้ใช้บริการปี 2024 https://positioningmag.com/1395272 Fri, 05 Aug 2022 10:07:24 +0000 https://positioningmag.com/?p=1395272 Warner Bros. Discovery ได้ประกาศข่าวสำคัญของวงการสตรีมมิ่งวิดีโอ นั่นก็คือการรวมบริการของ HBO Max และ Discovery+ เข้าด้วยกัน โดยจะเริ่มให้บริการในปี 2023 ในสหรัฐอเมริกา และทวีปเอเชียในปี 2024 อย่างไรก็ดี บริษัทยังไม่ได้ประกาศถึงชื่อของแพลตฟอร์มใหม่หลังรวมบริการเข้าด้วยกันแต่อย่างใด

ในการประกาศการรวมบริการเข้าด้วยกันนั้นจะทำให้แพลตฟอร์มใหม่นี้มีผู้ใช้งานมากถึง 92 ล้านคน โดยบริษัทหวังว่าจะมีผู้ใช้งานมากถึง 130 ล้านคนทั่วโลกภายในปี 2025 นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมที่จะมีบริการให้กับผู้ใช้งานทั้งแพ็กเกจราคาแพงที่ไม่มีโฆษณามากวนใจ กับแพ็กเกจราคาถูกแต่ผู้ใช้งานต้องดูโฆษณา

ก่อนหน้าการประกาศรวมบริการเข้าด้วยกันเพียงแค่ 1 วันบริษัทยังได้ประกาศยกเลิกการสร้างภาพยนตร์ที่ลงในแพลตฟอร์ม HBO Max ไม่ว่าจะเป็น Batgirl หรือ Scoob!: Holiday Haunt รวมถึงซีรีส์อื่นๆ รวมแล้วหลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งหลายคนมองว่าบริษัทกำลังอยู่ในสภาวะต้องปรับตัวหลังควบรวมกิจการ Warner Bros. มูลค่ามากถึง 43,000 ล้านเหรียญเข้ามา

นอกจากจะยกเลิกการสร้างภาพยนตร์หรือแม้แต่ซีรีส์อื่นๆ แล้ว บริษัทเตรียมที่จะลดต้นทุนรวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทถึง 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐหลังจากนี้ด้วย หลังจากในไตรมาส 2 ของปี 2022 บริษัทมีรายได้รวม 9,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่บริษัทกลับขาดทุนมากถึง 3,420 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา – NBC News, CNN

]]>
1395272
‘Warner Bros’ ประกาศ หนังใหม่ทุกเรื่องปี 2021 จะฉายโรงและลง ‘สตรีมมิ่ง’ พร้อมกัน https://positioningmag.com/1309097 Fri, 04 Dec 2020 04:22:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1309097 หลังจาก ‘Warner Bros’ สร้างเซอร์ไพรส์ใหญ่ปลายปีโดยการฉายหนัง ‘Wonder Woman 1984’ ในช่วงสิ้นปีนี้ พร้อมกับจะลงใน ‘HBO Max’ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งไปพร้อมกันด้วย ล่าสุด Warner Bros ก็ประกาศว่าหนังใหม่ในปี 2021 ทุกเรื่องจะฉายโรงพร้อมกับลงใน HBO Max ในวันเดียวกันทั้งหมด

ก่อนหน้านี้ Disney เองก็ได้นำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง ‘Mulan’ เข้าฉายใน ‘Disney+’ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่กำลังโตแบบติดจรวด ส่งผลให้ Warner Bros เองก็เดินตามรอยโดยส่ง ‘Wonder Woman 1984’ ลงฉายในช่วงสิ้นปี พร้อมกับปล่อยลง HBO Max พร้อมกัน และตามมาด้วยหนังใหม่ในปี 2021 ทั้งหมดจะทำตามโมเดลนี้

อย่างไรก็ตาม แม้ภาพยนตร์จะถูกสตรีมบน HBO Max พร้อมกันกับวันที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ทั้งในรูปแบบของ 4K Ultra HD และ HDR แต่การภาพยนตร์เรื่องนั้น ๆ จะมีอายุเพียง 1 เดือน ส่วนภาพยนตร์ที่ฉายโรงก็จะอยู่จนกว่าจะหมดโปรแกรม ซึ่งปัจจุบันค่าแพ็กเกจของ HBO Max อยู่ที่เก็บเงิน 15 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 465 บาทต่อเดือน ในขณะที่ข้อมูลของ National Association of Theatre Owners ระบุว่า ราคาเฉลี่ยของตั๋วภาพยนตร์ 2 ใบในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 18.32 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 568 บาท ซึ่งแปลว่าการดูผ่านสตรีมมิ่งนั้นประหยัดกว่า

สำหรับรายชื่อภาพยนตร์ในปี 2021 ที่จะลง HBO Max ได้แก่ The Little Things, Judas and the Black Messiah, Tom & Jerry, Godzilla vs. Kong, Mortal Kombat, Those Who Wish Me Dead, The Conjuring: The Devil Made Me Do It, In The Heights, Space Jam: A New Legacy, The Suicide Squad, Reminiscence, Malignant, Dune, The Many Saints of Newark, King Richard, Cry Macho และ Matrix 4

“ไม่มีใครต้องการให้ภาพยนตร์กลับมาฉายบนจอใหญ่ไปมากกว่าเราอีกแล้ว และเราทราบดีว่าภาพยนตร์เรื่องใหม่ ๆ เป็นส่วนสำคัญของธุรกิจโรงภาพยนตร์ แต่เราต้องสร้างสมดุลให้กับความเป็นจริงที่ว่าโรงภาพยนตร์ส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะให้บริการได้ไม่เต็มที่ ด้วยมาตรการการเว้นระยะห่างในปี 2021” Ann Sarnoff ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของของ Warner Bros กล่าว

The AMC theatre is pictured during the outbreak of the coronavirus disease (COVID-19), in Burbank, California, U.S., June 30, 2020. Picture taken June 30, 2020. REUTERS/Mario Anzuoni

ทั้งนี้ หลังจากที่ Warner Bros ได้เปิดเผยทิศทางนี้ออกมา หุ้นของ AMC Entertainment เจ้าของโรงภาพยนตร์รายใหญ่ที่สุดของโลกลดลงเกือบ 16% ส่วนคู่แข่งอย่าง Cinemark ลดลงประมาณ 22% โดยซีอีโอของ AMC ก็ได้ออกมาแถลงการณ์ในทันทีว่า “Warner Bros กำลังสละผลกำไรจากโรงภาพยนตร์เพื่อเพิ่มยอดให้กับ HBO Max”

Source

]]>
1309097
Wonder Woman 1984 อาจลง ‘HBO Max’ หากไม่เลื่อนไปฉายกลางปีหน้า https://positioningmag.com/1306099 Sun, 15 Nov 2020 16:03:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1306099 หลังจากที่หาญกล้าฉายภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ‘TENET’ ไปเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยทำรายได้เพียง 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้างประมาณ 400 ล้านบาท ส่งผลให้ ‘วอร์เนอร์ บราเธอร์ส (Warner Bros)’ ต้องตัดสินใจถึงแผนการฉาย ‘Wonder Woman 1984’ อีกครั้ง

จากการระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลให้โรงภาพยนตร์ทั่วโลกต้องปิดตัวลง ทำให้ ‘Wonder Woman 1984’ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของค่าย ‘วอร์เนอร์ บราเธอร์ส’ ต้องเลื่อนฉายมาแล้วถึง 4 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายนไปเป็น 14 สิงหาคม จากนั้นก็เลื่อนมาเป็น 2 ตุลาคม และล่าสุดได้เลื่อนเป็นวันที่ 25 ธันวาคมนี้

แม้ว่าโรงภาพยนตร์หลายแห่งจะเริ่มกลับมาให้บริการตามปกติแล้ว แต่จากการระบาดของ COVID-19 ระลอกสอง ทำให้วอร์เนอร์ บราเธอร์สกำลังตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับ Wonder Woman 1984 โดยกำลังหารือว่าจะเลื่อนฉายอีกทีในช่วงกลางปีหน้าซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนปี 2021 หรืออีกทางเลือกคือ ฉายวันเดิมแต่จากนั้นจะปล่อยฉายทาง HBO Max ในช่วงต้นเดือนมกราคมต่อทันที

ทั้งนี้ ผลประกอบการของวอร์เนอร์ บราเธอส์ในช่วงไตรมาส 3 ขาดทุนย่อยยับเพราะโรงภาพยนตร์ที่ยังไม่สามารถกลับมาเปิดได้ 100% แต่ในส่วนของ HBO Max กลับสร้างรายได้กว่า 8.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากผู้ใช้บริการกว่า 38 ล้านคนทั่วโลก ดังนั้น การลงสตรีมมิ่งอาจไม่ใช่แค่ช่วยทำให้รายได้ถึงพันล้านเหรียญสหรัฐตามที่ตั้งเป้าไว้ แต่ยังช่วยให้ HBO Max ที่มีคอนเทนต์ใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดผู้ติดตามเพื่อสู้กับ Netflix และ Disney +

อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูว่าถ้า Wonder Woman 1984 ลงฉายผ่าน HBO Max จริงจะช่วยเพิ่มรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหรือไม่ เพราะ HBO Max ให้บริการเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ดังนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่จะยืดออกไปฉายกลางปีหน้า สุดท้ายผู้บริโภคในไทยอย่างเราก็คงได้แต่ลุ้นว่าจะฉายสิ้นปีนี้หรือไม่

Source

]]>
1306099
2 เหตุผลที่ ‘มู่หลาน’ จะไม่ลงสตรีมมิ่งจนกว่าจะฉายโรง แม้จะถูกเลื่อนแบบไม่มีกำหนดก็ตาม https://positioningmag.com/1289660 Sun, 26 Jul 2020 09:41:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1289660 ทั้ง ‘TENET’ ของ Warner Bros. และ ‘มู่หลาน’ ของ Disney ต้องเลื่อนฉายหลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่การแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลกตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จนล่าสุด ภาพพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องก็ถูกเลื่อนฉายไปอย่างไม่มีกำหนด แต่หลายคนคงสงสัย ทั้งที่ 2 สตูดิโอต่างมีแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของตัวเอง ทำไมไม่ฉายบนแพลตฟอร์ม ทั้งที่ผ่านมาภาพยนตร์อนิเมชั่น ‘Trolls World Tour’ ตัดสินใจฉายบนแพลตฟอร์มและนั่นก็ได้รับผลตอบรับค่อนข้างดี และนี่คือ 2 เหตุผลที่ไม่สามารถทำได้

มากกว่าทุนสร้างที่มหาศาล

ภาพยนตร์อย่าง ‘TENET’ และ ‘มู่หลาน’ ถูกสร้างเพื่อเป็นภาพยนตร์ยอดนิยมระดับโลก ค่ายมีค่าใช้จ่ายหลายร้อยล้านในการผลิต อย่าง ‘มู่หลาน’ ของดิสนีย์ใช้ทุนสร้างถึง 200 ล้านดอลลาร์ในการผลิตเพียงอย่างเดียว และจากนั้นสตูดิโอก็ลงทุนทั้งเงินและเวลาเพื่อให้แน่ใจว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกาและจีนซึ่งเป็นตลาดภาพยนตร์อันดับ 2 ของโลก แต่ ‘Trolls World Tour’ ไม่ได้ถูกคาดหวังไว้เช่นนั้น และดีไม่ดี การฉายโรงอาจจะประสบกับความล้มเหลวมากกว่า

ดังนั้น มันเป็นอะไรที่มากกว่าแค่ทุนสร้าง เพราะมันเป็นเรื่องของวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมที่มาพร้อมกัน หากภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องไม่ได้การฉายบนภาพยนตร์ ไม่ใช่แค่กำไรที่จะลดลง แต่ยังสูญเสียศักยภาพของการฉายภาพยนตร์ และมั่นอาจสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราไปดูหนังได้ตลอดกาล ดังนั้น นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หนังเลื่อนออกไปซ้ำแล้วซ้ำอีก

Paul Dergarabedian นักวิเคราะห์สื่ออาวุโสของ Comscore กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องหนึ่งถ้าภาพยนตร์ขนาดเล็กหรืออิสระเข้าสู่ระบบดิจิทัล แต่ภาพยนตร์เรื่องบัสเตอร์แตกต่างไป ถ้าพวกเขาข้ามโรงภาพยนตร์มันจะสร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมที่มีมานานหลายทศวรรษ”

ความสัมพันธ์ของสตูดิโอและโรงภาพยนตร์

สตูดิโอต้องรักษาความสัมพันธ์กับเจ้าของโรงภาพยนตร์ ซึ่งสร้างรายได้ให้อุตสาหกรรมกว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ดังนั้นจึงอาจไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่สตูดิโอจะตัดความสำพันธ์กับโรงภาพยนตร์ทิ้ง เมื่อมีทางเลือกอย่างสตรีมมิ่ง อย่างไรก็ตาม หากโรงภาพยนตร์ต้องปิดยาวถึงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว อาจเป็นไปได้ที่สตูดิโอจะตัดสินใจที่จะปล่อยภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ฉายบนสตรีมมิ่ง

ดังนั้น นี่คือเหตุผลที่สตูดิโอและสตรีมมิ่ง เช่น Netflix ต้องรักษาเวลากว่าที่จะนำภาพยนตร์ที่เข้าฉายในโรง ออกมานำเสนอบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ หาก ‘TENET’ ได้ฉายลงบนสตรีมมิ่ง แน่นอนว่าจะต้องได้รับการตอบรับอย่างดี ด้วยชื่อผู้กำกับ ‘คริสโตเฟอร์ โนแลน’ อย่างไรก็ตาม โนเเลนอยากให้ฉายภาพยนตร์เขาบนโรงภาพยนตร์ก่อน เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดของผู้ชม

Source

]]>
1289660