สอดรับกับเทรนด์แฟชั่นในไทยที่มีความหลากหลายไม่ว่าจะสตรีทแฟชั่น เอาต์ดอร์ แคมป์ปิ้ง ด้วยเหตุนี้ทำให้ Element 72 ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อสาย Urban Lifestyle ต้องเปิดแบรนด์ใหม่ ENT. เพื่อรับกับแบรนด์ที่มากขึ้น และเทรนด์แฟชั่นที่ไม่หยุดนิ่ง

ENT. (อีเอ็นที) วางจุดยืนเป็นคอนเซ็ปต์สโตร์มัลติแบรนด์แห่งใหม่ ส่วนผสมของ Urban Lifestyle, Outdoor Lifestyle และ Street Fashion เข้าไว้ด้วยกัน เน้นไลน์แฟชั่นระดับพรีเมียม หรือคอลเล็กชั่นที่หาจากที่อื่นไม่ได้ คอลเลกชั่นคอลแลป มีแบรนด์หลักๆ ได้แก่

• Gramicci แบรนด์เอาต์ดอร์จากอเมริกา สไตล์แอคทีฟ
• Nanga เจ้าของตำนานเสื้อดาวน์คุณภาพสูงที่โดดเด่นทั้งดีไซน์และฟังก์ชัน
• Snow Peak แบรนด์มินิมอลสายพรีเมียมจากญี่ปุ่น ตีความเอาต์ดอร์ให้เรียบหรู
• Houdini แบรนด์จากสวีเดน เน้นนวัตกรรมวัสดุรักษ์โลก และดีไซน์ที่รองรับการเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ 
• KEEN รองเท้าเอาต์ดอร์ดีไซน์ร่วมสมัย
• YETI ไอเทมสุดฮอตแห่งยุค 
• Topo Designs กระเป๋า และเสื้อผ้าสายแอดเวนเจอร์
• ‘47 หมวก และแอคเซสเซอรีสตรีทแวร์

ENT. นำร่องเปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม โซน Men In Trend ชั้น 2 โดยชื่อ ENT. มาจาก 3 ตัวสุดท้ายของคำว่า Element นั่นเอง ซึ่งร้าน ENT. จะแตกต่างจาก Element 72 ที่เน้นแบรนด์ หรือสินค้าแนวๆ Urban Lifestyle ส่วน Outdoor Batanica ก็เน้นไปสาย Outdoor Lifestyle ไปเลย 

ชาร์ลส์ ปิณฑานนท์ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง บริษัท อิลีเม้นท์ 72 จำกัด เริ่มเล่าว่า

“ร้านนี้เกิดขึ้นหลังจากตอนนี้เราถือแบรนด์เยอะขึ้น จึงมองว่าต้องจัดพอร์ต และมองวงการแฟชั่นในไทยเราเป็น Trend Setter ในอาเซียน หลายแบรนด์ที่เห็นโอกาสในไทย นำเสนอสินค้า หรือคอลเลกชั่นใหม่ๆ เข้ามา จากแต่ก่อนที่เราต้องตามเขา แบรนด์เห็นเราเป็น Tier 3 หรือรองๆ ตอนนี้แบรนด์ต่างๆ มาขอคอลแลป อยากตามเทรนด์ในไทย ยกตัวอย่างแบรนด์ KEEN ที่ทางโกลบอลต้องมาดูงาน มาให้เราพรีเซนต์วิธีการทำการตลาดให้ เพราะตลาดไทยยอดขายดีที่สุดในโลก”

ปัจจุบันกลุ่ม Element 72 มีแบรนด์ในเครือทั้งหมด 28 แบรนด์ ปีที่แล้วได้นำเข้ามาใหม่ 6 แบรนด์ โดยที่ชาร์ลส์บอกถึงวิธีการคัดเลือกแบรนด์เข้ามาว่า เลือกแบรนด์ที่เป็นดาวเด่นของแต่ละมุมเช่นแบรนด์อเมริกัน สวีเดน นอร์ดิก ญี่ปุ่น แต่จะเลือกให้เป็นแนว Urban Lifestyle 

สำหรับภาพรวมของ Element 72 ปัจจุบันมี 65 สาขา ส่วน ENT. จะมีการขยายเพิ่มอีก 2 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์ และเมกา บางนา

แบรนด์ที่สร้างยอดขายมากที่สุดของ Element 72 ได้แก่ KEEN, Yeti, Gramicci และ Nanga 

น่าสนใจไปกว่านั้นคือ ทำไมแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง YETI ถึงเลือกไทย เป็นประเทศแรกในเอเชียที่เปิด Flagship Store ? แต่ก่อนจะไปหาคำตอบดังกล่าว เราพาย้อนกลับไปทำความรู้จักกับ YETI กันก่อน

จุดเริ่มต้นของ YETI ‘ยักษ์หิมะ’

YETI เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2006 โดย Roy และ Ryan Seiders สองพี่น้องที่ชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์และตกปลาเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่ง ณ ตอนนั้นกำลังมองหาคูลเลอร์เก็บความเย็นใช้ในการแช่ปลาและเก็บเครื่องดื่มอยู่ โดยพวกเขาต้องการคูลเลอร์ที่เก็บความเย็นไว้ได้นานและแข็งแรงมากพอที่จะนั่งแทนเก้าอี้ หรือขึ้นเหยียบตอนตกปลาได้แบบไม่ต้องกลัวพัง

กระทั่งพวกเขาได้เห็นคูลเลอร์ของไทย จึงเกิดไอเดียที่จะทำเป็นธุรกิจ โดยเริ่มต้นเป็นผู้นำเข้าคูลเลอร์จากผู้ผลิตประเทศไทย ต่อมาทั้งคู่ต้องการพัฒนาให้คูลเลอร์ดีกว่าเดิม เนื่องจากคูลเลอร์ที่มีขายอยู่นั้นไม่แข็งแรงทนทานพอ ทำให้ทั้งคู่ออกแบบและพัฒนาสินค้าของตัวเองขึ้นมา พร้อมตั้งชื่อแบรนด์ว่า YETI หมายถึง ‘ยักษ์หิมะ’ ซึ่งเมื่อวางจำหน่ายได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี

จากนั้น YETI ก็ได้พัฒนาสินค้าอื่นออกมาต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น คูลเลอร์ แก้วเก็บความเย็น กระเป๋า ฯลฯ กระทั่งกลายเป็นแบรนด์ที่โด่งดังระดับโลก และในปี 2018 YETI ได้นำบริษัทจดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ภายใต้ชื่อ YETI Holdings

‘ชาร์ลส์ ปิณฑานนท์’ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง บริษัท อิลีเม้นท์ 72 จำกัด เล่าว่า Flagship Store ของ YETI เพิ่งมีการดำเนินการมาปีกว่า และจะมีเฉพาะในสหรัฐฯ ประเทศต้นกำเนิดของแบรนด์เท่านั้น ได้แก่ ที่นิวยอร์ก , พอร์ตแลนด์ และออสติน

ส่วนเหตุผลที่ทาง YETI เลือกบ้านเราเป็นประเทศแรกในการเปิดร้านดังกล่าวในเอเชีย นั่นเพราะว่า

1.ไทย เป็นฮับและประตูแห่งการท่องเที่ยว ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูง

2.ไทยสามารถสร้างยอดขายให้กับแบรนด์ YETI ติดอันดับต้น ๆ ของเอเชีย

3. Element 72 มีประสบการณ์ในการเปิด Flagship Store ให้กับแบรนด์ชั้นนำของโลกหลายแบรนด์ อาทิ แว่นตา Oakley และรองเท้า KEEN เป็นต้น ทำให้ YETI ไว้วางใจ

ส่วน YETI Flagship Store ในบ้านเราพิเศษอย่างไร

– จะมีสินค้าของ YETI วางจำหน่ายแบบครบไลน์แบบที่เรียกว่า ในสหรัฐฯ และออนไลน์มีอะไร ที่นี้ก็มีแบบนั้น

– เป็นที่แรกที่จะมีการวางจำหน่าย YETI V Series คูลเลอร์ระดับไฮเอนด์ ที่ทำจาก Stainless Steel ทั้งใบ ซึ่งไม่เคยวางขายนอกสหรัฐฯ มาก่อน

– มีสินค้าที่มีเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น นั่นคือ YETI Rambler Tumbler Thailand’s Edition ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของไทย มีจำกัด 150 ชิ้นเท่านั้น

– บริการ Customize ชื่อบนแก้วได้ฟรีแบบรอรับได้เลย และอนาคตจะมีการให้ออกแบบลายด้วยตัวเอง

นอกจากที่ One Bangkok ทาง Element 72 มีแผนเปิดจะ YETI Flagship Store อีก 2-3 แห่ง โดยโฟกัสพื้นที่ในกรุงเทพฯ