เมื่อแร็พเปอร์ต้องมาทำหน้าที่พ่อบ้าน กับฝีมือการทำอาหารที่คุณเห็นแล้วจะต้องอึ้ง!!

เกิดเป็น ‘กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่’ ไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าจะเขียนเนื้อร้องแต่ละเพลงออกมาได้ เลือดตาแทบกระเด็น ยิ่งงานแต่งเพลงโฆษณาด้วยนะ โอ้โห…ลูกค้าแก้กระจุยกระจาย กว่าจะปิดจ๊อบ กว่าจะได้ตังค์แต่ละงาน ชีวิตสุดแสนลำบาก นั่นคือมุมมองของแร็พเปอร์พ่อลูกอ่อน เมื่อถูกถามถึงภาระหน้าที่และความยากง่ายในการทำงานของเขา

ทางด้านคุณแม่ของน้องชูใจ ‘เบลล์’ ภรรยาผู้น่ารักของกอล์ฟ ก็มองว่าการเป็นแม่บ้านนี่มันก็เหนื่อยเหมือนกันนะ การเลี้ยงลูก ทำกับข้าว ทำความสะอาด ทั้งหมดดูเหมือนจะเป็นงานง่ายๆ แต่จริงๆ แล้ว วันทั้งวันแทบจะไม่ได้มีเวลาพักเลย

นี่อาจเป็นหัวข้อสนทนาที่พ่อบ้านแม่บ้านมือใหม่หลายครอบครัวอาจจะเคยหยิบยกมาตั้งกระทู้ถกเถียงกันอยู่บ่อยครั้ง ว่า “งานใครหนักกว่ากัน” มาลองเปลี่ยนกันดูบ้างมั้ย เผื่อจะเข้าใจอะไรกันได้มากขึ้น นั่นจึงเป็นที่มาของภารกิจ ‘Life Swap’ ที่ทาง ‘คนอร์’ จัดให้ทั้งสองคนมาลองเปลี่ยนหน้าที่กันดูว่าในหนึ่งวัน อีกคนต้องเจอประสบการณ์อะไรกันบ้าง

เมื่อเบลล์ได้ลองออกนอกบ้านไปทำงานที่สามีทำ ก็ได้เห็นกระบวนการทำงานและการใช้ชีวิตนอกบ้านในแต่ละวัน ว่ามีความเร่งรีบและต้องจัดการกับงานที่มีปัญหาให้ต้องแก้อยู่ตลอด เป็นงานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะด้าน ที่ไม่ใช่ว่าใครทุกคนจะทำได้ นั่นจึงทำให้เบลล์เข้าใจตัวสามีมากยิ่งขึ้น

ทางด้านกอล์ฟ เมื่อต้องมาสลับร่างมาเป็นพ่อบ้าน แค่ออกจ่ายตลาดซื้อของมาทำกับข้าวก็ทำเอาเหงื่อไหลแล้ว เพราะการอุ้มน้องชูใจน้ำหนัก 11 โล แล้วอีกมือก็ต้องหิ้วถุงผักพะรุงพะรัง เขาถึงกับบอกว่างานนี้มันงานกรรมกรดีๆ นี่เอง

สิ่งที่เกิดขึ้นขณะดูคลิปนี้ คือตัววิดีโอได้ดึงคนดูให้เกิดความรู้สึกร่วมไปกับครอบครัวนี้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นสถานการณ์ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในหลายครอบครัว โดยคนอร์ได้โฟกัสไปที่ความรู้สึกของการที่ทำอาหารเพื่อคนที่เรารัก นั้นจะช่วยสานความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพราะอาหารที่ตั้งใจทำในแต่ละมื้อนั้น มันคือความสุขของของทั้งคนทำและคนทาน

สำหรับในแง่ของการตลาด จากสถานการณ์ปัจจุบันที่หลายครอบครัวทำอาหารกินเองที่บ้านลดน้อยลง ส่งผลกระทบทางด้านการตลาดของคนอร์ จึงได้เกิดการสร้างสรรค์แคมเปญ Flavor of Home ขึ้นมา ซึ่งปีนี้ถือเป็นปี่ที่ 2 ที่คนอร์ได้สื่อสาร key message ที่ว่า “อาหารคือหลักฐานของความรัก” เพื่อเป็นการตอกย้ำไปยังกลุ่มเป้าหมาย ว่าการทำอาหารให้ใครสักคนทานนั้น ไม่ได้ใช้แค่เวลา แต่ใช้ทั้งความรัก ความห่วงใยใส่ใจ เป็นการมอบความรู้สึกที่ดีให้แก่คนทานได้โดยไม่ต้องใช้คำพูดใดๆ อาหารที่บ้านจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก

แบรนด์คนอร์เองเป็นเจ้าตลาดในผลิตภัณฑ์ปรุงรสแบบก้อนมานาน เมื่อคิดถึงผลิตภัณฑ์ปรุงรสในภาพรวมก็ต้องมีชื่อของคนอร์อยู่ในใจผู้บริโภคอยู่เสมอ ซึ่งคนอร์ก็ได้มีการทำการตลาดสื่อสารแบรนด์มาอย่างต่อเนื่อง สำหรับพ่อบ้านแม่บ้านที่จะลุกขึ้นมาทำอาหารเอง ทางคนอร์ก็ได้มีการทำคลิป How To เพื่อแสดงวิธีทำอาหารในแต่ละเมนูไว้อย่างมากมาย ตั้งแต่ง่ายๆ ไปจนถึงขั้นแอดวานซ์ ถือเป็นตัวช่วยที่จะทำให้คุณปรุงอาหารเพื่อคนที่คุณรักให้ออกมาได้รสชาติในแบบที่คนกินจะต้องตะลึง

knorr2

คลิปความยาวกว่า 7 นาทีที่เพิ่งผ่านตาไปนี้ เป็นเรื่องราวที่ touching โดนใจ เข้าถึง insight ของใครหลายคนที่เคยลุกขึ้นมาทำอาหารเพื่อให้คนที่เรารักกิน ช่วงเวลาที่ได้เห็นอาหารที่เราทำนั้นถูกกินจนหมดจาน มันเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นที่เกิดขึ้นในโต๊ะกินข้าวในแบบที่อาหารนอกบ้านให้ไม่ได้

เพราะอาหารที่ตั้งใจทำ ไม่ว่าหน้าตาสีสันมันจะดูแย่ มันจะเค็ม มันจะไม่อร่อยสักแค่ไหน แต่มันก็มีส่วนผสมแห่งความรักที่เจือปนอยู่ในกับข้าวแต่ละเมนู ที่ทำให้กินแล้วหายเหนื่อย กินแล้วอิ่มใจ “ชูใจ” ให้ครอบครัวมีแรงสู้ต่อไปในวันที่ต้องเผชิญความยากลำบาก วันนี้ คนอร์ได้แสดงไห้เห็นแล้วว่า “อาหาร คือหลักฐานที่แสดงออกถึงความรัก” อย่างแท้จริง

knorr2