บ.นนทนันท์ฯ นำหนังสารคดี “Farenheit 9-11” ให้คอหนังชาวไทยได้พิสูจน์

กลายเป็นหนังสารคดีเรื่องแรกที่ทำรายได้สูงสุดในบ็อกซ์ออฟฟิซไปซะแล้ว สำหรับ “Farenheit 9-11” จากการเข้าฉายในสัปดาห์แรก 25-27 มิ.ย. โดยสามารถทำรายได้ถึง 21.8 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดยเปิดฉายเพียง 868 โรง จากการสำรวจพบว่า จำนวนผู้ชมร้อยละ 91 บอกว่า “ดีเยี่ยม” ในขณะที่ร้อยละ 93 บอกว่าจะแนะนำให้คนอื่นมาดู

โดยก่อนหน้านี้ “Farenheit 9-11” ยังสามารถคว้ารางวัลปาล์มทองคำอันเป็นรางวัลสูงสุด จากเทศกาลเมืองคานส์

โดยหนังสารคดีเรื่องนี้ได้สะกดรอยตามหาหลักฐานและเหตุผลต่างๆ ว่า ทำไมประเทศสหรัฐอเมริกาถึงได้เป็นจุดศูนย์กลางของความเกลียดชังและการก่อการร้าย และแฉให้เห็นถึงความสัมพันธ์ รวมถึงการติดต่อทางการค้าที่ถูกกล่าวถึง ระหว่างตระกูลบุชและบิน ลาเด็น ซึ่งได้พาดพิงถึงสาเหตุที่ทำให้จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช และบิน ลาเด็น กลายเป็นศัตรูกัน

ชาวอเมริกันผู้สนับสนุนบุชนั้น ล้วนแต่ไม่พอใจกับการแฉประเด็นครั้งนี้ และต่างก็วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับผลงานของไมเคิล มัวร์ ซึ่งบางคนนั้นกล่าวหาชาวอเมริกันที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าเป็น “พวกขายชาติ” แต่บ้างก็ให้คนอเมริกันทุกคนเปิดใจไปดูหนังเรื่องนี้ เพื่อเปิดมุมมองและความรู้ทางการเมืองใหม่ๆ เพราะคนเหล่านี้เชื่อว่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ระบุถึงสิทธิอย่างหนึ่งที่ชาวอเมริกันมี นั่นก็คือ เสรีภาพทางการพูด หรือ “Freedom of speech”

ความสัมพันธ์ระหว่างบุชและบิน ลาเด็น นั้นจะมีความลึกซึ้งมากแค่ไหน “การกล่าวหา” ในครั้งนี้จะเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับอีกด้านหนึ่งของรัฐบาลสหรัฐอเมริกามากแค่ไหน และจริงหรือไม่ที่บุชเปลี่ยนเป้าหมายไปโจมตีที่โจมตีที่อิรักนั้น ก็เพื่อที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของชาวโลกจาก บิน ลาเด็น ปริศนาเหล่านี้จะถูกเปิดเผยใน “Farenheit 9-11”

และอีกไม่นานแฟนหนังชาวไทยจะพบคำตอบต่างๆ เหล่านี้ได้ โดยบริษัทนนทนันท์เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด