สยามฟิวเจอร์จับมือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ร่วมลงทุนเปิด บริษัท รัชโยธิน อเวนิว จำกัด

สยามฟิวเจอร์จับมือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ร่วมลงทุนเปิด บริษัท รัชโยธิน อเวนิว จำกัด ทุ่ม 1,000 ล้านบาท ส่งโครงการน้องใหม่ “เมเจอร์ อเวนิว รัชโยธิน” เจาะตลาดคนมีสไตล์ภายใต้คอนเซ็ปต์เก๋ Urban Chic ขยายพื้นที่เช่า 15,000 ตารางเมตร

นายนพพร วิฑูรชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) (SF) ผู้นำด้านพัฒนาและบริหารศูนย์การค้าแบบเปิดของไทย เปิดเผยถึงการลงทุนตั้งบริษัท รัชโยธิน อเวนิว จำกัด ร่วมกับ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ว่า บริษัทดังกล่าวมีทุนจดทะเบียนจำนวน 100 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนการลงทุนออกเป็น 50:50 จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการบริหารโครงการ เมเจอร์ อเวนิว รัชโยธิน ซึ่งบริหารงานโดยคุณสมคิด ตันทัดวานิชกุล

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวมีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการในส่วนแรกได้ภายในช่วงปลายปี 2550 และเปิดบริการอย่างเต็มรูปแบบได้ภายในช่วงไตรมาส 2/2551 โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ เมเจอร์ อเวนิว รัชโยธิน จะเน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป อาศัยอยู่ย่านจตุจักร ลาดพร้าว และบางเขน มีรายได้ปานกลาง เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เน้นการใช้ชีวิตในแบบสบายๆ มีหัวคิดทันสมัย ชื่นชอบการพบปะคนใหม่ๆ และมีใจรักความบันเทิงทุกรูปแบบ

สำหรับโครงการ เมเจอร์ อเวนิว รัชโยธิน จะใช้พื้นที่สำหรับการสร้างศูนย์จำนวนทั้งสิ้น 9 ไร่ โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย

ส่วนที่ 1 เป็นตึกสูง 15 ชั้น มีพื้นที่ทั้งหมด 29,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่สำหรับซูเปอร์มาร์เก็ต 1,300 ตารางเมตร สำนักงาน 3,500 ตารางเมตร และพื้นที่สำหรับจอดรถ 600 คัน

ส่วนที่ 2 มีพื้นที่เช่าทั้งหมด 10,000 ตารางเมตร

“ที่ผ่านมาโครงการศูนย์การค้าต่างๆ ของเอสเอฟได้รับความนิยม และเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเจ อเวนิว ทองหล่อ 15 เอสพละนาด รัชดา และ ลา วิลล่า พหลโยธิน บริษัทฯ จึงมีความคิดที่จะเปิดศูนย์เพิ่มเติม โดยนำเสนอคอนเซ็ปต์ศูนย์ใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิม เมเจอร์ อเวนิว รัชโยธิน จึงมีคอนเซ็ปต์ใหม่ คือ “Urban Chic” (เออร์บัน ชิก) สะท้อนการใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์ของคนเมือง”นายนพพร กล่าว

นายนพพร กล่าวต่อไปว่า โครงการเมเจอร์ อเวนิว รัชโยธิน สามารถรองรับลูกค้าได้ถึงวันละ 30,000 คน อีกทั้งตัวศูนย์มีการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีเขียว ลงสถานีรัชโยธิน ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถเดินทางมาใช้บริการในศูนย์ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อต้นปี 2007

ขณะเดียวกันการเปิดศูนย์ เมเจอร์ อเวนิว รัชโยธิน นอกจากจะช่วยให้สามารถรองรับลูกค้าจากศูนย์อื่นๆ ได้มากขึ้นแล้ว ยังจะช่วยรองรับลูกค้าของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ที่เข้ามาชมภาพยนตร์ และเล่นโบว์ลิ่ง เป็นจำนวนมากตลอดสัปดาห์ได้อีกด้วย ทั้งนี้จะมีร้านค้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากที่เคยเปิดที่ศูนย์อื่น และสนใจจะมาเปิดที่เมเจอร์ อเวนิว รัชโยธินด้วย อาทิ Kanom, Starbucks , Fuji , Wine Connection , Ootoya , Infinite Gallery และ McDonald’s

สำหรับอัตราการเติบโตของจำนวนพื้นที่เช่าโดยรวมของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 260,000 ตารางเมตร จากในปี 2549 ซึ่งมีพื้นที่เช่าจำนวน 188,514 ตารางเมตร หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 38 % ซึ่งการเพิ่มขึ้นของพื้นที่เช่าดังกล่าวจะส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามเช่นกัน โดยคาดว่าในปีนี้รายได้รวมของบริษัทจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 20 %