กรุงเทพฯ – สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล อุทยานสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีมาตรฐานระดับโลกในด้านคุณภาพการบริการ และการบริหารธุรกิจตลอดระยะเวลา 5 ปี พร้อมเปิดโอกาสทางธุรกิจให้เหล่าพันธมิตรรายใหม่ๆ มาร่วมผนึกกำลังสร้างความก้าวหน้าทางธุรกิจในปี 2553
บริษัท สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล จำกัด เป็นบริษัทในเครือของ โอเชียนิส ออสเตรเลีย กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจอุทยานสัตว์น้ำที่ใหญ่ระดับโลก ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กว่า17 ปี ปัจจุบันโอเชียนิส ออสเตรเลีย กรุ๊ป เป็นเจ้าของธุรกิจอุทยานสัตว์น้ำระดับโลกถึง 5 แห่ง อันได้แก่ ที่เมลเบิร์นและบริสเบนประเทศออสเตรเลีย ประเทศจีน ประเทศเกาหลีใต้ ดูไบ และ ประเทศไทย ซึ่งเป็นอุทยานสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากอควาเรียมที่ประเทศดูไบแล้ว สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล กรุงเทพ นี้ถือเป็น 1 ใน 2 อุทยานสัตว์น้ำของโลก ที่สามารถเนรมิตรมหาสมุทรขนาดใหญ่มาอยู่ใจกลางเมืองหลวง ด้วยเหตุนี้เอง สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล จึงเปรียบเสมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้เดินทางมาเยี่ยมชมและเพลิดเพลินไปกับโลกใต้น้ำของเมืองไทยไม่แพ้ในต่างประเทศ มิสเตอร์เจฟ ออลสัน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล จำกัด กล่าวว่า สยาม โอเชี่ยนเวิร์ล เป็นเวิร์ลคลาสอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยงบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าระดับเวิร์ลคลาสใจกลางกรุงเทพมหานคร โดยมีเป้าหมายจะให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพมหานคร สำหรับคนไทยและต่างชาติ
“เราภูมิใจที่ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญเชิง Edutainment ที่เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงสาระบันเทิงแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองและเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศที่ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้กว่า 100 ประเทศ ไม่ว่ามาในรูปแบบของกรุ๊ปทัวร์ หรือนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมสยาม โอเชี่ยน เวิร์ลด้วยตัวเอง และกลุ่ม expat ที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวคนไทยที่อาศัยอยุ่ในกรุงเทพและต่างจังหวัด ทั้งกลุ่มลูกค้าจากภาครัฐ และเอกชน หรือนักเรียน นักศึกษา ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักของเราคือกลุ่มครอบครัว เพราะเด็กๆ จะรู้สึกรักปลาผูกพันกับสัตว์น้ำของเรา รวมไปถึงกลุ่มสมาชิกที่ถือบัตร สยาม โอเชี่ยน เวิร์ลที่เป็นกลุ่มที่เข้ามาเยี่ยมชมสยาม โอเชี่ยน เวิร์ล มากที่สุด เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้มีสิทธิ์ในการเข้าชมโลกใต้ทะเลได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งตลอดทั้งปี”
สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ได้เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2548 ซึ่งกำลังจะเวียนบรรจบ ครบรอบ 5 ปี คุณชฎาทิพ จูตระกูล ผู้บริหารสูงสุด บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ยังคงรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอควาเรียมแห่งนี้ “ดิฉันรู้สึกภาคภูมิใจที่มีอุทยานสัตว์น้ำมาตรฐานระดับโลกอย่าง สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล อยู่ในศูนย์การค้าระดับเวิลด์คลาสอย่างสยามพารากอน เพราะเป็นอุทยานสัตว์น้ำแห่งแรกของประเทศไทยที่เพียบพร้อมไปด้วยสัตว์น้ำนานาชนิดจากทั่วทุกมุมโลก สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ไม่เพียงสร้างภาพภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสยามพารากอนเองแต่ยังถือว่าเป็นประโยชน์ต่อภาพลักษณ์ของประเทศและคนไทยทุกคนไปสู่สายตาโลกอีกด้วย เพราะนอกจากสยามพารากอนจะเป็นศูนย์การค้าแบบ One stop Service และเป็นThe World Class Retail Entertainment Phenomenon ที่เพียบพร้อมด้วยแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่มอบความบันเทิงเช่น พารากอนซีเนเพล็กซ์ โรงภาพยนตร์ที่ดีที่สุดของกรุงเทพมหานคร ร้านอาหารนานาชาติชื่อดัง ล้วนแล้วแต่เป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างดียิ่ง นับว่าเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้ตัดสินใจเดินทางมาใช้บริการที่สยามพารากอน และอีกสิ่งหนึ่งที่เสริมสร้างความเป็นสุดยอดแห่งศูนย์การค้าของกรุงเทพมหานคร คือสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกอย่าง สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ที่นักท่องเที่ยวสามารถหาความเพลิดเพลิน ความสนุกสนานควบคู่กับความรู้ ความสร้างสรรค์ และยังเสริมสร้างจินตนาการของเด็กๆ ได้อย่างดียิ่ง”
ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา สยาม โอเชี่ยน เวิร์ลได้จับมือกับผู้สนับสนุนหลักอย่าง ทรู, เนสท์เล่, ซันโย, เชฟโรเลต, เป๊ปซี่, แบงก์ แอนด์ โอลุฟสัน, มาเรส และ แท็ก ฮอยเออร์ เพื่อพัฒนาและสร้างความแปลกใหม่ของธุรกิจในโอกาสต่างๆ ผ่านสื่อใหม่ๆ เช่น การติดตั้งเครื่องเสียงจากแบงก์ แอนด์ โอลุฟสัน เพื่อเติมเต็มบรรยากาศในโลกใต้ทะเลที่รายล้อมไปด้วยสีสันของแมงกระพรุนหลากหลายชนิด กลายเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับความรื่นรมย์ไปกับเสียงเพลงจากระบบเครื่องเสียงคุณภาพที่บรรเลงระหว่างการชมสัตว์น้ำหลากสีสันได้จริง มอบความรู้สึกที่ผ่อนคลายให้กับผู้เยี่ยมชม หรือการสาธิตอุปกรณ์ดำน้ำมาตรฐานสากลจากมาเรสในกิจกรรม ดำน้ำให้อาหาปลาฉลาม นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในสถานที่ที่ทันสมัยอาทิเช่นสุดยอดโรงหนังมาตรฐานโลก 4 มิติ ที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยของโลกจากซันโย หรือแม้แต่การนำเสนอสินค้าในรูปแบบที่แตกต่างอย่างการนำรถเชฟโรเลตมาดัดแปลงทำเป็นตู้ปลาขนาดใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้นผู้สนับสนุนทางธุรกิจยังสามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ระหว่างแบรนด์เกิดเป็น New media ที่สามารถกระตุ้นและดึงดูดผู้ชมนับล้านคนให้หันมาสนใจในความแปลกใหม่ของการนำเสนอได้เป็นอย่างดี และนอกจากพันธมิตรของสยาม โอเชี่ยน เวิร์ลจะมีโอกาสอวดโฉมศักยภาพของสินค้าให้นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้สัมผัสถึงประสิทธิภาพอย่างเต็มรูปแบบแล้ว พันธมิตรยังมีโอกาสได้ปรากฎอยู่ในสื่อต่างๆ ที่ให้ความสนใจและเผยแพร่ข่าวสารออกไปอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
มร. เจฟ ออลสัน ยังกล่าวถึงกุญแจสำคัญที่ทำให้บริษัทเติบโตและเป็นองค์กรแถวหน้าอย่างทุก วันนี้ว่า “นอกจากการดูแลสายพันธุ์สัตว์น้ำกว่า 30,000 ชีวิต จากสายพันธุ์ต่างๆ มากกว่า 4,000 สปีชีส์ สำหรับแผนการเติบโตทางธุรกิจเรามุ่งเน้นการสร้างการรับรู้อย่างกว้างขวางในหมู่กลุ่มลูกค้าและไม่หยุดนิ่งในการนำกิจกรรมที่น่าสนใจทางการตลาด เพื่อกระตุ้นยอดของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น แคมเปญต้อนรับปิดเทอมในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม และ ตุลาคมไม่ว่าจะเป็นการแสดงเมอร์เมด การแสดงสัตว์น้ำในวรรณคดีไทยและการแสดงโชว์พิเศษต่างๆ ตามเทศกาล นอกจากนี้ยังมีโครงการเพื่อส่งเสริมสังคม เช่น โครงการอนุรักษ์เต่าทะเล โครงการปล่อยฉลามปล้องอ้อย โครงการปลูกป่าชายเลน และยังมีแผนดำเนินการโครงการอื่นๆ อีกมากมายอย่างต่อเนื่อง”
สยาม โอเชี่ยน เวิร์ลแบ่งออกเป็น 7 โซนด้วยกัน ได้แก่ โซนโอเพ่น โอเชี่ยน (Open ocean), ดีฟ รีฟ (Deep reef), เรน ฟอเรสต์ (Rain forest), ร็อกกี้ ชอร์ (Rocky shore), เวียด แอนด์ วันเดอร์ฟูล (Weird and Wonderful), ซี เจลลี่ (Sea Jellies) และ โซนลิฟวิ่ง โอเชี่ยน (Living ocean) ซึ่งมีพื้นที่เตรียมไว้สำหรับจัดงานนิทรรศการ งานแสดงสินค้า และงานเลี้ยงประชุมสัมมนา นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมผจญภัยต่างๆ อีกมากมายที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำกับฉลามและสิ่งมีชีวิตอีกหลากหลายสายพันธุ์ใต้ท้องทะเล ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถใกล้ชิดและสัมผัสฉลามเสือดาว สำหรับกลุ่มครอบครัว สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ยังมีบริการเจาะลึกเบื้องหลังการดูแลสัตว์น้ำ และการล่องเรือ เพื่อสัมผัสชีวิตของปลานานาชนิดอย่างใกล้ชิด พร้อมเจาะลึกเบื้องหลังการดูแลสัตว์น้ำ
จากความสำเร็จร่วมกันของสยาม โอเชี่ยน เวิร์ล และบริษัทพันธมิตร ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการผนึกกำลังเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเตรียมความพร้อมสำหรับโอกาสทางธุรกิจในอนาคต ทั้งนี้ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล จะเปิดโอกาสให้พันธมิตรรายใหม่ๆ ได้ร่วมเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจกับอุทยานสัตว์น้ำมาตรฐานระดับโลกด้วยการนำเสนอกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบใหม่ๆ ผ่านช่องทางการตลาดที่น่าสนใจเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน
