สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จับมือ องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย(Asian Productivity Organization: APO) และสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ สถาบันเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดงานอุตสาหกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงานนานาชาติ Eco-Products International Fair 2016 (EPIF 2016) ระดมสินค้า บริการ และเทคโนโลยี ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาร่วมโชว์ศักยภาพกว่า 200 คูหา ตั้งเป้าหมายเปิดโอกาสการค้า ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว พร้อมสร้างความตระหนักรู้ให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในโอกาสเป็นประธานในพิธีเปิดงานEPIF 2016 ว่า ประเทศไทยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาประยุกต์ใช้ดำเนินนโยบายขับเคลื่อนประเทศไปสู่เศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำ โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 6-20 % ภายในปี 2020 นอกจากนี้ ยังมีแผนขับเคลื่อนภารกิจด้านพลังงาน ซึ่งมุ่งเน้นส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า สนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน ตลอดจนพัฒนาระบบการขนส่งทางรางเพื่อลดการขนส่งทางถนน และรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
“ปัจจุบันผู้บริโภคมีแนวโน้มความต้องการสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ขณะที่หลายประเทศได้กำหนดมาตรการทางการค้าที่มิใช่ภาษีศุลกากร ซึ่งมุ่งเน้นเรื่องแรงงาน การขนส่ง กากของเสีย ปัญหาโลก และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องตระหนักรู้และพัฒนารูปแบบการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป”
รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
ด้าน นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่าEco-Products International Fair 2016 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘24 – Hour Eco Life’ หรือ “รักษ์โลกง่ายๆ ทำได้ 24 ชั่วโมง” ในระหว่างวันที่ 8 – 11 มิถุนายน 2559 ณ อาคาร106 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เพื่อเป็นเวทีนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเผยแพร่ศักยภาพการผลิตของไทยที่ให้ความสำคัญเรื่องความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน รวมถึงเปิดโอกาสทางการค้า และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการบริโภคสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ภายในงานประกอบด้วยโซนจัดแสดงนวัตกรรม สินค้า และบริการ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก ในระดับชุมชน รวมกว่า 200 คูหา อาทิ กลุ่มผลิตภัณฑ์ยานยนต์และอุปกรณ์ด้านการขนส่ง วัสดุก่อสร้าง เสื้อผ้าและสิ่งทอ พลังงาน ผลิตภัณฑ์อาหารและนม เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ไอที
โลจิสติกส์ การบรรจุภัณฑ์ เครื่องใช้สำนักงาน เป็นต้น โดยเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายได้เจรจาธุรกิจ (Business Matching) กับผู้ซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่สำหรับจัดแสดงนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ หุ่นยนต์ดินสอ, นวัตกรรม รีบอร์ด (Re-board), Full dome ระบบแอนิเมชัน 3 มิติ และ V-Turn แท่นกลับรถอัตโนมัติ รวมถึงนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ เพื่ออัพเดตเทรนด์ด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างการเรียนรู้แนวทางรักษ์โลกได้จากเรื่องใกล้ตัว อาทิ การสัมมนาวิชาการนานาชาติ ด้านสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงาน, พิธีมอบรางวัล EPIF 2016 Award,นิทรรศการ 24 – Hour Eco Life และโซนการเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชน ผ่านกิจกรรม Eco Kids, Eco Art และ Eco Clip เพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่เด็กและเยาวชนที่เข้ามาร่วมชมงานในครั้งนี้
นายฮาจิเมะ บาดะ ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา Green Productivity Advisory Committee (GPAC) กล่าวว่า มีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ในปีนี้มีบริษัทและองค์กรจากประเทศญี่ปุ่น จำนวน 28 องค์กรได้เข้าร่วมงาน EPIF 2016 เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทของบริษัทญี่ปุ่นในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมทั้งเผยแพร่เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลาย
ทางด้าน นายมาริ อามาโนะ เลขาธิการ องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO) กล่าวว่า APOได้สนับสนุนแนวคิดเกี่ยวกับการเพิ่มผลผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Green Productivity) มานานกว่าสองทศวรรษ และงาน EPIF ถือเป็นเวทีสำคัญที่ผลักดันแนวคิด Green Productivity ให้เป็นที่ประจักษ์ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและนอกภูมิภาค ซึ่งเชื่อมั่นว่าความสำเร็จทางเศรษฐกิจและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจะสามารถดำเนินการควบคู่กันไปได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยไม่ต้องสูญเสียสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
สำหรับผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปที่สนใจเกี่ยวกับสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถเข้าร่วมชมงาน EPIF 2016 ได้ในระหว่างวันที่ 8-11 มิถุนายน 2559 ณ อาคาร 106 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา และสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับงานได้ทางเว็บไซต์ www.epif2016-thailand.com