อัตราการเติบโตของตลาดกล้องดิจิตอลมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปีเป็นต้นมา อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีอัตราการถ่ายภาพสูงขึ้น โดยได้เรียนรู้และเริ่มต้นจากการใช้มือถือสมาร์ทโฟนในชีวิตประจำวัน จนเกิดเป็นความชื่นชอบและหลงใหลในการถ่ายภาพมากขึ้น เมื่อต้องการคุณภาพของรูปที่สูงกว่า ผู้คนจึงหันมาให้ความสนใจกล้องดิจิตอลส่งผลให้ตลาดโดยรวมทั้งปีกลับมามีอัตราการเติบโตได้
บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำตลาดค้าปลีกอุปกรณ์ถ่ายภาพ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพที่ใหญ่ที่สุดใน Southeast Asia ทั้งในด้านยอดขายและจำนวนสาขา มีช่องทางการจัดจำหน่ายกว่า 230 สาขาทั่วประเทศ ภายใต้ชื่อ “BIG Camera” และให้บริการขายมือถือและแท็บเล็ตภายใต้ชื่อ “BIG Mobile by BIG Camera” อีก 25 สาขากระจายอยู่ตามห้างทั่วประเทศ โดยเน้นการให้บริการที่ครบวงจร
คุณธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดกล้องดิจิตอลภายในประเทศว่า “ที่ผ่านมาภาวะเศรษฐกิจที่กำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัวนั้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคธุรกิจค้าปลีกประกอบกับการบริโภคสินค้าประเภทกล้องดิจิตอลที่ผ่านมานั้นมีอัตราการบริโภคที่ลดลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปีติดต่อกันแต่บริษัทของเรานั้นยังสามารถแสดงถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจและสร้างผลกำไรเติบโตได้อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดและยังนับเป็นปีที่บริษัทสามารถสร้างผลกำไรได้สูงสุดนับตั้งแต่ดำเนินธุรกิจมา ในปี 2559 นี้บริษัทยังคงเชื่อมั่นว่าผู้บริโภคจำนวนมากจะหันมาให้ความนิยมการบันทึกภาพถ่ายผ่านกล้องดิจิตอลมากขึ้นอย่างต่อเนื่องประกอบกับแบรนด์กล้องต่างๆ ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ทำให้ตลาดกล้องดิจิตอลกลับมาคึกคักได้”
จากภาพแสดง (ด้านซ้าย) พบว่าในปี 2558 ประเทศไทยมียอดจำหน่ายกล้องรวมประมาณ 3 แสน 9 พันเครื่อง ลดลงจากปี 2557 ซึ่งมียอดจำหน่ายกล้องรวมประมาณ 3 แสน 8 หมื่นเครื่อง หรือมียอดจำหน่ายลดลงในอัตราร้อยละ 18.6 แต่เมื่อเปรียบเทียบในด้านมูลค่าแล้ว (ภาพด้านขวา) พบว่ามูลค่าตลาดรวมปี 2558 มีมูลค่ารวมประมาณ 6,160 ล้านบาท สูงขึ้นกว่าปี 2557 ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 6,076 ล้านบาท หรือมีมูลค่าสูงขึ้น ในอัตราร้อยละ 1.4 นับเป็นปีแรกที่อุตสาหกรรมมีการฟื้นตัวในเชิงมูลค่า
ทั้งนี้เกิดจากในปี 2558 กลุ่มผู้บริโภคใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้ Smartphone หันมาบริโภคกล้องดิจิตอลมากขึ้นเนื่องจากต้องการคุณภาพของภาพถ่ายที่สูงขึ้นและจากสัดส่วนของกลุ่มประเภทสินค้าที่เปลี่ยนแปลงไป โดยกลุ่มสินค้าประเภทกล้อง Compact มีอัตราการบริโภคที่ลดลงจากการทดแทนการใช้งานผ่านกล้องมือถือ Smartphone แต่กลุ่มสินค้าประเภทกล้องที่มีคุณภาพสูงซึ่งมีมูลค่าสูงอย่างกลุ่มกล้อง Mirrorless กลับมียอดจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีคุณภาพสูงและฟังก์ชั่นการใช้งานที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริโภค
ไทสุเกะ ทารุมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด ได้เผยถึงความร่วมมือระหว่างฟูจิฟิล์ม และบิ๊ก คาเมร่า ว่าเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดำเนินธุรกิจร่วมกันมาอย่างยาวนานตลอด 20 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่อุตสาหกรรมการถ่ายภาพในระบบอนาล็อก ในยุคฟิล์มสีและการอัดภาพจากน้ำยาเคมี จนมาถึงในยุคของกล้องและการอัดภาพในระบบดิจิตอล ฟูจิฟิล์ม และบิ๊ก คาเมร่า ไม่ได้เป็นแค่แบรนด์สินค้ากับช่องทางจัดจำหน่ายเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปเหมือนอย่างในอดีต แต่เราจะมองในภาพรวมของความร่วมมือด้วยกันโดยมองถึงความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
“เรามีการวางแผนการสื่อสาร การทำการตลาด รวมทั้งวางกลยุทธ์ต่างๆ ร่วมกันมาโดยตลอด นอกจากนี้บิ๊ก คาเมร่ายังมีการเทรนนิ่งพนักงานให้เข้าใจในสินค้าของฟูจิฟิล์มเป็นอย่างดี เพื่อออกไปสร้างความเข้าใจ และนำเสนอสินค้าใหม่ๆ ของฟูจิฟิล์มให้ลูกค้าได้รู้จักต่อไป ทำให้ยอดขายกล้องฟูจิฟิล์มในประเทศไทยเติบโตที่สุดในระดับ Worldwide”
แม้ปัจจุบัน ฟูจิฟิล์ม จะมีสัดส่วนการตลาดของกล้อง Mirrorless มากถึง 40% เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยแต่เป้าหมายเราวางไว้ถึง 50% ใน Q3 ของปีนี้โดยมีการวางแผนงานด้านการขายและการตลาดร่วมกับ บิ๊ก คาเมร่า อย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันเราได้วางเเผน ที่จะร่วมมือกับ บิ๊ก คาเมร่า เปิดร้าน Wonder Photo Shop by BIG Camera ศูนย์การบริการอัดภาพและจำหน่ายผลิตภัณฑ์การถ่ายภาพของฟูจิฟิล์ม 100% ในคอนเซ็ปต์ใหม่แบบ One Stop Shopping ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ใหม่ให้แก่ลูกค้าที่รักการถ่ายภาพแบบครบวงจรโดยคอนเซ็ปต์นี้เป็นแห่งแรกใน Southeast Asia ซึ่งเปิดให้บริการแล้วที่ ชั้น 4 โซน Atrium ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
สำหรับในอนาคตฟูจิฟิล์ม และบิ๊ก คาเมร่า มีเป้าหมายร่วมกันในอนาคตอันใกล้นี้ก็คือ การเป็น King of Photography ของประเทศไทยและจะร่วมมือการส่งเสริมให้วัฒนธรรมการถ่ายภาพอยู่กับคนไทยตลอดไปเพราะเรารู้ว่ารูปภาพคือสิ่งที่พิเศษสุดในทุกช่วงเวลาที่พิเศษสุดของชีวิต คนไทยมีนิสัยอ่อนโยนรักและนิยมการถ่ายภาพซึ่งจะสังเกตง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใดคนไทยมักจะชอบถ่ายภาพตัวเองบ้าง อาหารบ้าง กับครอบครัวบ้าง แล้วแชร์ผ่านทาง social media ต่างๆ เช่น facebook, instagram ดังนั้นรูปภาพกับคนไทยจะไม่มีวันสูญหายไป ตลาดเมืองไทยจะเป็นตลาดที่สำคัญที่สุดใน Southeast Asia
“เราฟูจิฟิล์มจึงต้องนำสิ่งที่ดีที่สุดของอุปกรณ์การถ่ายภาพและบริการ มานำเสนอให้แก่คนไทยโดยผ่านทางร้าน BIG Camera ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดและการบริการที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้แก่คนไทยทุกคน” มร.ไทสุเกะ กล่าวปิดท้าย
ทางด้าน มร.ชินโช อิเคดะ กรรมการบริษัทและผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์กล้องถ่ายภาพและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด ได้เผยถึงสาเหตุที่ไว้วางใจ และเชื่อมั่นใน บิ๊ก คาเมร่า ที่ให้ความร่วมมือกันในการทำกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงผู้จำหน่ายกล้องแต่เพียงอย่างเดียว
“บิ๊ก คาเมร่า ยังมีการจัดเวิร์คช็อปให้ความรู้เรื่องการถ่ายภาพตลอดทั้งปี โดยมีผู้ร่วมเวิร์คช็อปปีละกว่า 1,000 คน เมื่อลูกค้าเข้าร่วมกิจกรรม Workshop ก็จะได้ความรู้ในเรื่องของการใช้งานกล้อง และยังได้ทดลองใช้เลนส์ รวมถึงอุปกรณ์การถ่ายภาพแบบต่างๆ อย่างเต็มที่ ผมก็ไปเวิร์คช็อปด้วยทุกครั้ง เพราะเป็นคนชอบถ่ายรูป ไปสังเกตพฤติกรรมลูกค้า ถึงแม้ว่าผมจะไม่เข้าใจภาษาไทย แต่ผมก็รับรู้ได้ถึงบางอย่าง จากการไปสังเกตพฤติกรรมของผู้ใช้งาน เหมือนทำรีเสิร์ชด้วยตัวเอง ถ้ามีลูกค้าที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ผมก็จะเข้าไปพูดคุย และสอนเทคนิคต่างๆ ด้วยตัวผมเอง”
“ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน มือถือต่างๆ ได้พยายามพัฒนาคุณภาพของการถ่ายรูป ทั้งในเรื่องของเลนส์และจำนวนพิกเซล แต่ก็ยังมองว่าไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขายของกล้องดิจิตอลมากมายนัก เพราะเทคโนโลยีและคุณภาพของรูปที่ถ่ายนั้นยังห่างกันอยู่มาก ยุคนี้คนไทยหันมาใช้กล้องมิลเลอร์เลส ในการถ่ายภาพมากขึ้น ซึ่งถือเป็นประเทศในอันดับต้นๆของโลก ที่มีทิศทางการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด คนไทยเข้าใจเทรนด์ของการเปลี่ยนแปลง และปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว กล้องคอมแพคอยู่ในช่วงขาลงเพราะคุณภาพนั้นไม่แตกต่างจากการถ่ายภาพด้วยมือถือ ส่วน DSLR ก็พกพาไม่สะดวกเพราะมีขนาดใหญ่ คนไทยเป็นคนชอบท่องเที่ยว มือถือเครื่องเดียวจึงไม่เพียงพอสำหรับการถ่ายรูปเวลาออกทริป หรือเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ”
สำหรับความร่วมมือในอนาคตระหว่าง 2 บริษัท ก็จะมีการพัฒนาในเรื่องของการเวิร์คช็อปและการให้ความรู้เรื่องการถ่ายรูป เพื่อให้ลูกค้าที่ซื้อกล้องจาก BIG Camera สามารถใช้กล้องที่มีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เมื่อลูกค้าเข้ามาทดลองใช้อุปกรณ์ต่างๆ แล้ว ได้รับคำแนะนำที่ดี ก็มีแนวโน้มที่ลูกค้าจะกลับมาใช้บริการหรือซื้ออุปกรณ์จากเราอีกครั้ง เป็นการเพิ่มดีมานด์ให้แก่ลูกค้าไปในตัว