ค่าย NTT Docomo ผู้ให้บริการระบบโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น และบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต DeNA ประกาศความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์อัตโนมัติแล้ว
โดยความสามารถของเทคโนโลยีดังกล่าว จะช่วยให้ยานพาหนะสามารถขับขี่ได้ตรงเลน และตรวจจับสิ่งกีดขวางที่อยู่รอบตัวได้ รวมถึงการรักษาระยะห่างกับรถที่อยู่รอบข้างได้อย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ ทางบริษัทมีแผนที่จะทดสอบกับรถบัสประจำทางในเร็วๆ นี้ รวมถึงการจับมือด้านการตลาดกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ด้วย
สำหรับหัวใจหลักของเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัตินั้น ทาง NTT Docomo มองว่า ความสามารถในการรับส่งข้อมูล คือ เรื่องสำคัญ เพราะการส่งข้อมูล แม้เป็นเพียงข้อมูลชิ้นเล็กๆ หากติดขัด ก็สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้ ดังนั้น การใช้เทคโนโลยีการสื่อสารความเร็วสูงระดับ 5G ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเร็วที่สุดในปัจจุบัน (เร็วกว่าเครือข่ายประเภท LTE ประมาณ 100 เท่า-อ้างอิงจากนิคเคย์ เอเชียน รีวิว) จึงเป็นสิ่งที่ NTT Docomo มองว่า มีความจำเป็นอย่างมากด้วย โดยปัจจุบัน NTT Docomo ก็เป็นผู้นำในเทคโนโลยี 5G และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี ค.ศ.2020 หรือ พ.ศ.2563
ส่วนเหตุที่เลือกรถบัสประจำทางนั้น เพราะเป็นรถที่มีเส้นทางการวิ่งชัดเจน ทำให้ง่ายต่อการควบคุม ซึ่งการทดสอบจะมีขึ้นในมหาวิทยาลัยคิวชู รวมถึงลงวิ่งทดสอบจริงบนถนนสาธารณะในเมืองฟุกุโอกะ
ส่วนบริษัท DeNA นั้น นอกจากจับมือกับ Docomo แล้ว ยังมีการทำงานร่วมกับสตาร์ทอัปด้านหุ่นยนต์จากโตเกียว ชื่อ ZMP ในการพัฒนารถอัจฉริยะไร้คนขับด้วย
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ยังรายงานว่า เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง DeNA ได้มีการเปิดตัวรถบัส EZ10 ในฐานะ Robot shuttle คอยรับส่งคนในเขตชิบะ โดยรถคันดังกล่าวสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 12 คน และวิ่งได้เร็วสูงสุด 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งมีกำหนดการเริ่มให้บริการในเดือนหน้านี้
ที่มา: http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000069633
