ห้ามพลาด ! มาดูกันว่า เทรนด์อาหารมาแรง แห่งปี 2016-2017 จะมีอะไรกันบ้าง อาหารสุขภาพตั้งแต่แหล่งผลิตจนถึงทิ้ง-ไร้สารเคมี สีสันสวยงาม เน้นแชะแล้วแชร์ในโซเชียลมีเดีย-โปรตีนทดแทนเนื้อสัตว์
ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย(ประเทศไทย) ได้ร่วมมือกับคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เปิดเผยถึง 12 เทรนด์อาหารมาแรงในปี 2016-2017 ดังต่อไปนี้
1. Artificial public enemy : อาหารจากธรรมชาติและอาหารหารที่ผ่านกระบวนการน้อย
เทรนด์อาหารนี้จึงทำให้บริษัทและหน่วยงานผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ต้องลบส่วนผสมสังเคราะห์ที่ไม่ได้มาจากธรรมชาติออกจากส่วนผสม เพราะสารเคมีสังเคราะห์ต่างๆ กลายเป็นศัตรูอันดับ 1 ของผู้บริโภคไปเรียบร้อยแล้ว
2. Eco is the new reality : ใส่ใจสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ปลูกผลิตและทิ้ง
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติต่างๆ และความกังวลเกี่ยวกับอาหารที่ถูกทิ้ง (Food Waste) ที่มีผลวิจัยรายงานว่าทั่วโลกว่ามีอยู่ ถึง 1,300 ล้านตัน หรือราว 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตขึ้นทั่วโลกนั้น ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการเตรียมการและกระบวนการผลิตด้วย ในปี 2016 นี้ การพัฒนาอย่างยั่งยืนและใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูกและกระบวนการผลิตนั้นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้ผลิตต้องหันมาให้ความสำคัญ
3. Alternatives everywhere : โปรตีนทางเลือก ที่ไม่ได้มาจากสัตว์
เป็นหนึ่งในบรรดาผลิตภัณฑ์มาแรงที่ทดแทนแหล่งโปรตีนเดิม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เลี่ยงการทานเนื้อสัตว์และผู้ทานมังสวิรัติ ซึ่งแหล่งโปรตีนทางเลือกเหล่านี้กำลังได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก จนมีแนวโน้มว่าแหล่งโปรตีนทางเลือกเหล่านี้อาจจะกลายเป็นโปรตีนที่เข้ามาแทนที่โปรตีนจากเนื้อสัตว์ในอนาคต
4. Fat sheds stigma : ไขมันตัวการทำลายสุขภาพ
ปัจจุบันผู้บริโภคมีความรู้เกี่ยวกับที่มาของไขมันดีและไขมันเลวมากยิ่งขึ้นนำไปสู่การเปลี่ยนกรอบความคิดเกี่ยวกับไขมันที่ว่าไขมันเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายสุขภาพ
5. Table for one : อาหาร 1 คน 1 มื้อ
ผู้บริโภคในปัจจุบัน มีแนวโน้มการอยู่อาศัย และการใช้ชีวิตเพียงคนเดียวมากขึ้น บางครั้งจึงรับประทานอาหารเพียงคนเดียว ส่งผลให้แนวโน้มอาหารที่บรรจุสำหรับ 1 ท่าน 1 มื้อ จะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับร้านอาหารต่างๆ ก็มีแนวโน้มที่จะพื้นที่สำหรับลูกค้าเพียงคนเดียวมากขึ้น
6. Eat with your eyes : ต้องมีสีสัน สวยงาม
นวัตกรรมอาหารนั้นกลายเป็นสีสันและมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการสร้างความอยากรับประทานอาหารการสร้างแพคเกจจิ้งที่สวยงามมีจุดเด่นในการดึงดูดผู้บริโภคจึงมีความสำคัญเพิ่มขึ้น รวมถึงการออกแบบอาหารให้มีความน่าสนใจและสวยงามสำหรับเผยแพร่ลงโลกออนไลน์ (Social media) ก็มีความน่าสนใจเช่นกัน
7. Good enough to tweet : ต้องแชะแล้วแชร์
การเพิ่มขึ้นของสื่อด้านอาหาร ได้จุดประกายความน่าสนใจของการทำอาหารมากขึ้น ทำให้การทำอาหารในปัจจุบันไม่ได้สนใจเพียงสารอาหารที่ครบถ้วนอย่างเดียว แต่รวมถึงภาพลักษณ์ที่สวยงาม และสร้างสรรค์ เพื่อเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ (Social Media) อีกด้วย
8. E-revolution from carts to clicks : ต้องมีช่องทางสั่งซื้อ – อาหารออนไลน์
การซื้อสินค้าออนไลน์ แอปพลิเคชัน และบริการจัดส่ง กำลังเปลี่ยนโฉมช่องทางเข้าถึงของผู้บริโภคไปยังการซื้อขายต่างๆ ข้อเสนอแบบเฉพาะเจาะจง หรือแม้แต่มื้ออาหารเต็มรูปแบบ ขณะที่อินเทอร์เน็ตยังไม่ได้เปลี่ยนภูมิทัศน์การซื้อสินค้า นวัตกรรมต่างๆ ก็ส่งเสริมให้ผู้บริโภคคิดนอกเหนือไปจากบรรดาร้านค้าปลีกที่มีหน้าร้านแบบดั้งเดิม
9. Diet by DNA : ออกแบบให้เหมาะกับ DNA ผู้กิน
ในปัจจุบันการให้ความสำคัญจากอาหารที่มาจากธรรมชาติ ซูปเปอร์ฟู้ด เพราะมีความเชื่อว่าอาหารมีความเชื่อมโยงกับพันธุกรรมโดยตรง แม้กระทั่งการลดน้ำหนัก ซึ่งในปัจจุบันมีความพยายามที่จะออกแบบอาหารลดน้ำหนักให้เหมาะกับดีเอ็นเอ (DNA) ของแต่ละคน
10. From the inside-out : สุขภาพและความงามต้องเริ่มจากภายใน
แนวคิดสุขภาพและความงามที่เริ่มต้นจากภายในนั้น กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะผู้บริโภคตระหนักดีว่า อาหารมีผลต่อภาพลักษณ์และความรู้สึก ดังนั้นอาหารในยุคนี้จะเน้นภาพลักษณ์ที่ชัดเจนผ่านแพคเกจจิ้ง ว่ามีส่วนผสมที่บำรุงเรื่องด้านใดได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นลักษะทางกายภาพต่างๆ ไปจนถึงการบำรุงเพื่อสุขภาพ ซึ่งถือเป็นโอกาสให้ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนผสมจากวิตามิน เกลือแร่ และสารสำคัญต่างๆ ได้รับความนิยม
11. For Every Body : ช่วยให้ออกกำลังกายดีขึ้นเหมาะกับทุกคน
กระแสการออกกำลังกายและรักสุขภาพที่กำลังมาแรงนั้นส่งผลให้ผู้บริโภคต้องการโชว์รูปร่างและผลลัพธ์การออกกำลังกายที่ดี และสิ่งที่มาควบคู่กับการออกกำลังกาย คือ อาหาร และเครื่องดื่มที่ช่วยให้การออกกำลังกายนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้บริโภคในปัจจุบัน คุ้นเคยกับโภชนาการทางกีฬา รวมถึงอาหารช่วยให้พลังงาน โปรตีน ซึ่งเหล่านี้ สร้างโอกาสในการสื่อสาร และ การขยายไลน์สินค้าให้แตกต่างเหมาะกับเป้าหมายและระดับการออกกำลังกายของผู้บริโภคในแต่ละช่วงมากขึ้น
12. Based on a true story : แหล่งผลิตน่าเชื่อถือ
พฤติกรรมการซื้อสินค้าในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่ผู้ซื้อมักต้องการทราบข้อมูล ที่มาของแหล่งผลิต ที่ระบุได้และมีความน่าเชื่อถือ