“เซลีนา โกเมซ” ที่มีผู้ตาม Instagram มากที่สุดในโลก สามารถทำเงินได้คราวละครึ่งล้านเหรียญฯ หรือ 19.2 ล้านบาท จากการโพสต์โฆษณาเพียงครั้งเดียว!
ปัจจุบัน เซลีนา โกเมซ วัย 24 ปี คือ บุคคลที่มีผู้ตาม Instagram มากที่สุดในโลกด้วยฟอลโลว์สูงถึง 91 ล้านยูสเซอร์ เป็นรองเพียงยอดคนฟอลโลว์ IG ของทาง Instagram เองที่มีอยู่ 170 ล้านยูสเซอร์ เท่านั้น นอกจากนั้น นักร้องสาวฉายา “ราชินีแห่งโซเชียลมีเดีย” ก็ยังมียอดฟอลโลว์ Twitter สูงถึง 44 ล้านยูสเซอร์ ซึ่งติดอยู่ใน TOP20 ของทาง Twitter ด้วย สำหรับยอดคนตาม Facebook ก็สูงมากอยู่ที่ประมาณ 60 ล้านยูสเซอร์
รวมทั้งหมดแล้วมีคนตามโซเชียลมีเดียของเธอสูงถึง 180 ล้านยูสเซอร์ เลยทีเดียว ซึ่งบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลอย่าง D’Marie Analytics ได้เปิดเผยว่า โกเมซ จะได้รับเงินประมาณ 550,000 เหรียญฯ (19.2 ล้านบาท) ต่อการโพสต์โฆษณา 1 ครั้ง ซึ่งเป็นตัวเลขรายได้ที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 300,000 เหรียญฯ (10 ล้านบาท) เมื่อปลายปีก่อน
โดย โกเมซ จะมียอดคนฟอลโลว์ IG เพิ่มขึ้นประมาณ 200,000 ยูสเซอร์ต่อวัน นอกจากนั้น เธอยังเพิ่งจะสร้างสถิติใหม่ด้วยการโพสต์ภาพที่มีผู้กด LIKE มากที่สุดตลอดกาลถึง 4.9 ล้านครั้ง ทำลายสถิติเดิมที่เป็นภาพจาก IG ของ จัสติน บีเบอร์ ซึ่งก็เป็นภาพที่เขาจูบกับ โกเมซ นั่นเอง ไม่เท่านั้น ซึ่งภาพจาก IG ของ โกเมซ จะมีผู้กด LIKE สูงเกิน 1 ล้านครั้ง แทบจะทุกภาพกันเลยทีเดียว
ซึ่งที่ผ่านมา โกเมซ เคยทำงานกับแบรนด์ดังอย่าง Coca-Cola, Pantene และสินค้าอีกหลาย ๆ ยี่ห้อ แต่เมื่อเทียบกับดาวเด่นของโซเชียลมีเดียระดับโลกโดยทั่วไปแล้วก็ถือว่า โกเมซ ก็ถือว่าไม่ได้รับงานโพสต์ภาพโฆษณามากเท่ากับหลายๆ คน
แฟรงก์ สปาเดโฟรา ซีอีโอของ D’Marie ได้แสดงความเห็นระหว่างให้สัมภาษณ์กับ Adweek ว่า เป็นความฉลาดของ โกเมซ เอง ที่ไม่ได้รับโฆษณาจนมากเกินไป และทำให้ IG ของเธอดูน่าสนใจอยู่เสมอ “เธอทราบดีการรับงานโฆษณามากๆ อาจจะส่งผลร้ายต่อความสัมพันธ์ของเธอกับแฟนๆ มากกว่าผลดี”
ซึ่งเอเยนซีโฆษณาคงไม่ได้มองแค่ตัวเลขของยอดฟอลโลว์เท่านั้น แต่จะประเมินทั้งการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ความบ่อยของการโพสต์ คุณภาพของแต่ละโพสต์ และโอกาสที่จะสร้างยอดขายให้กับสินค้า ซึ่งดูเหมือนว่า เซลีนา โกเมซ จะสามารถพิสูจน์ได้ว่า Instagram ของเธอมีคุณสมบัติครบถ้วนทุกประการ จนมีราคาต่อโพสต์สูงถึงมากกว่าครึ่งล้านเหรียญฯ ต่อครั้ง
ที่มา: http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9590000073585