ถอดบทเรียน “เดอะไนน์” ปั้นแบรนด์อย่างไร ในภาวะคอมมูนิตี้เกลื่อนเมือง

อย่างที่ทราบกันดีว่าในตลาดค้าปลีกตอนนี้ การเกิดของคอมมูนิตี้มอลล์ หรือห้างขนาดเล็กที่อยู่ในแหล่งชุมชนมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีการผุดขึ้นในหลายพื้นที่ เพราะด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เน้นความสะดวกสบาย ความเร่งรีบ และชอบหาสถานที่แฮงก์เอาต์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ซึ่งคอมมูนิตี้จะเข้ามาตอบโจทย์ในเรื่องเหล่านี้ มีความแตกต่างกับศูนย์การค้าที่เน้นการเดินช้อปปิ้ง หรือทำกิจกรรมอื่นๆ มากกว่า

1_nince

ในขณะที่มีศูนย์การค้าเกิดขึ้นเต็มเมืองรวมถึงคอมมูนิตี้มอลล์แบรนด์ใหม่ๆทำให้หลายคนเริ่มฉุกคิดแล้วว่าอาจจะถึงจุดอิ่มตัวของคอมมูนิตี้มอลล์แล้วหรือยังเพราะบางแห่งที่เปิดขึ้นมาก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่

เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9” ก็เป็นอีกหนึ่งคอมมูนิตี้มอลล์ที่เกิดขึ้นท่ามกลางภาวะของการอิ่มตัว ที่ปัจจุบันมีอายุครบ 5 ปีแล้ว และยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลยุทธ์หลักก็คือสร้างความแตกต่างจากแบรนด์อื่น อย่างแรกเลยก็คือเรื่องโลเกชั่นที่เจาะพื้นที่พระราม 9 ฝั่งกรุงเทพตะวันออกเป็นทางออกสู่มอเตอร์เวย์ ในละแวกนั้นยังไม่มีห้างใหญ่ และคอมมูนิตี้มอลล์เกิดขึ้น อีกทั้งแถวนั้นยังมีหมู่บ้าน และอาคารสำนักงานด้วย

สุเวทย์ ธีรวชิรกุล
สุเวทย์ ธีรวชิรกุล

สุเวทย์ ธีรวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าทิศทางของคอมมูนิตี้มอลล์จะแตกต่างกับศูนย์การค้าอย่างสิ้นเชิง คอมมูนิตี้มอลล์จะสร้างเพื่อสำหรับชุมชนละแวกนั้น ยิ่งในยุคสังคมเมือง คนอยู่คอนโดมากขึ้น มีพื้นที่เล็ก คนนิยมออกมาสังสรรค์ที่คอมมูนิตี้มอลล์มากขึ้น นักเรียน นักศึกษาก็ออกมาอ่านหนังสือที่ร้านกาแฟ ซึ่งคอมมูนิตี้ก็เกิดจากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปนั่นเอง

ทางด้าน สมพล ตรีภพนารถ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่าปัญหาหลักของคอมมูนิตี้มอลล์ที่ไม่ประสบความสำเร็จก็คือ ไม่สามารถดึงลูกค้าให้มาใช้บริการได้ทุกวัน ส่วนใหญ่จะมาแค่เสาร์อาทิตย์ เดอะไนน์จะมีคอนเซ็ปต์ที่สร้างมาเพื่อเติมเต็มพื้นที่แถวนี้ และต้องเข้ามาเติมเต็มในช่วงวันจันทร์ศุกร์ด้วย ร้านค้าจึงต้องหลากหลาย มีร้านอาหาร บริการ ซึ่งเราก็มีอาคารสำนักงาน และคอนโดภายในเครือเพื่อสร้างกลุ่มลูกค้ารองรับ

(ซ้าย) สมพล ศิรฐา และ สุเวทย์
(ซ้าย) สมพล ศิรฐา และ สุเวทย์

และอีกปัจจัยที่เดอะไนน์ได้นำมาเป็นจุดเด่นก็คือการมีร้านค้าที่เปิด 24 ชั่วโมง ทางสมพลได้เปิดเผยว่า ร้านค้าที่เปิด 24 ชั่มโมงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้แล้ว สามารถสร้างความแตกต่างได้ และตอบรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคด้วย ที่เดอะไนน์มีร้านแม็กซ์แวลู และร้านแมคโดนัลด์ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว

สิ่งที่เดอะไนน์จะเข้ามาเติมมากขึ้นก็คืองานอีเวนต์ อย่างตลาดนัดต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มความเป็นแฟชั่น และไลฟ์สไตล์มากขึ้น ทำให้ลูกค้าใช้เวลาในศูนย์การค้ามากขึ้น

3_nince

ในปีนี้เดอะไนน์ตั้งเป้ารายได้ 250 ล้านบาท หรือเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 225 ล้านบาท มียอดผู้เข้าใช้บริการเฉลี่ย 12,000 คน/วัน แบ่งเป็น 40% กลุ่มคนที่อาศัยอยู่แถวพระรามเก้า 40% พนักงานบริษัทแถวพระรามเก้า และ 20% นักท่องเที่ยว หรือคนที่มางานอีเวนต์

ตอนนี้ทางเอ็ม บี เค กรุ๊ปกำลังมีแผนที่จะทำคอมมูนิตี้อีกแห่งย่านชานเมือง แต่กำลังสรุปกันว่าจะใช้แบรนด์เดอะไนน์ต่อ หรือจะใช้แบรนด์อื่น