พีอีเอ เอ็นคอม เปิดตัวหลอด เอ็นคอม แอลอีดี เจาะตลาดดาวน์ไลท์

พีอีเอ เอ็นคอม เปิดตัวหลอด เอ็นคอม แอลอีดี เจาะตลาดดาวน์ไลท์มั่นใจเพิ่มช่องทางเลือกในด้านหลอดประหยัดพลังงาน รุกเปิดตัว ENCOM LED มั่นใจยอดขาย ตั้งแต่เริ่มเปิดขาย เดือน สค- ธค 59 จะได้ยอดขาย 45 ล้านบาท เชื่อเติบโตกว่า 150 ล้านภายในปี 60

พีอีเอ เอ็นคอม บริษัทในเครือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) รุกธุรกิจผลิตภัณฑ์ส่องสว่าง เปิดตัวหลอดไฟ เอ็นคอม แอลอีดี รุ่นใหม่สำหรับไฟดาวน์ไลท์และ LED BULB มอบทางเลือกช่วยผู้บริโภคและเจ้าของอาคารประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่าย

นายพัลลภ ภิญโญวิวัฒน์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้เปิดตัวหลอดไฟเอ็นคอม LED T8 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แรกของบริษัทฯ เมื่อปลายปี 2558 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ จับมือกับบริษัท เรเซอร์ การไฟฟ้า (ประเทศไทย)จำกัด ในการเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้มีหลายประเภท เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความไว้วางใจและมีความเชื่อมั่นใน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จึงได้ขยายฐานผลิตภัณฑ์มาสู่หลอดไฟ LED BULB และดาวน์ไลท์ พร้อมทั้งพัฒนาหลอดและชุด LED T8 รุ่นใหม่

“หลอดไฟดาวน์ไลท์ กำลังได้รับความนิยมมากในกลุ่มที่อยู่อาศัย ธุรกิจบริการและอาคารทั่วไปที่ต้องการสร้างบรรยากาศอบอุ่นผ่อนคลาย ขณะเดียวกันถือเป็นทางเลือกด้านการประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย โดยหลอด LED จะช่วยประหยัดพลังงานได้เฉลี่ยร้อยละ 50%-80% เมื่อเทียบกับหลอดฟลูโอเรสเซนส์ ในปีนี้เราจึงเลือกที่จะนำเสนอหลอด เอ็นคอม แอลอีดี แบบดาวน์ไลท์ และหลอด LED BULB เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ 2 ที่ออกสู่ตลาดในราคาที่เหมาะสม โดยเฉพาะทุกผลิตภัณฑ์เป็นไปตามมาตรฐานที่บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ กำหนด”

นายพัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ มีความมุ่งหวังตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าที่ต้องการประหยัดพลังงานประเภทไฟส่องสว่างด้วยราคาที่ย่อมเยาว์ เนื่องจากหลอดไฟเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ประชาชนทุกคนสามารถมีส่วนร่วมประหยัดพลังงานได้ เราจึงได้หันมารุกธุรกิจนี้อย่างจริงจังเพื่อเป็นทางเลือกและส่งเสริมการประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หลอดไฟเอ็นคอม แอลอีดี ที่เปิดตัวในครั้งนี้มีทั้งสิ้น 12 ชนิด ทั้งหลอดเกลียว โคมไฟดาวน์ไลท์ หลอดยาว T8 และ ชุดโคมประหยัดไฟ ทั้งแสงสีขาวและเหลืองให้ลูกค้าได้เลือกใช้งานตามความต้องการ ได้แก่

  1. หลอดไฟ เอ็นคอม แอลอีดี BULB4 วัตต์ (แสงสีขาว)
  2. หลอดไฟ เอ็นคอม แอลอีดี BULB 4 วัตต์ (แสงสีเหลือง)
  3. หลอดไฟ เอ็นคอม แอลอีดี BULB 8 วัตต์ (แสงสีขาว)
  4. หลอดไฟ เอ็นคอม แอลอีดี BULB 8 วัตต์ (แสงสีเหลือง)
  5. โคมไฟดาวน์ไลท์ เอ็นคอม แอลอีดี 6 วัตต์ (แสงสีขาว)
  6. โคมไฟดาวน์ไลท์ เอ็นคอม แอลอีดี 6 วัตต์ (แสงสีเหลือง)
  7. โคมไฟดาวน์ไลท์ เอ็นคอม แอลอีดี 12 วัตต์ (แสงสีขาว)
  8. โคมไฟดาวน์ไลท์ เอ็นคอม แอลอีดี 12 วัตต์ (แสงสีเหลือง)
  9. หลอด แอลอีดี ที8 (LED T8) เอ็นคอม แอลอีดี 9 วัตต์ (แสงสีขาว)
  10. หลอด แอลอีดี ที8 (LED T8) เอ็นคอม แอลอีดี 18 วัตต์ (แสงสีขาว)
  11. ชุดโคมประหยัดไฟ แอลอีดี ที8 (LED T8) เอ็นคอม แอลอีดี 9 วัตต์ (แสงสีขาว)
  12. ชุดโคมประหยัดไฟ แอลอีดี ที8 (LED T8) เอ็นคอม แอลอีดี 18 วัตต์ (แสงสีขาว)

นายพัลลภ กล่าวสรุปว่า “เราคาดว่าตลาดหลอดไฟแอลอีดีจะมีอัตราเติบโตมากกว่าร้อยละ 35% เมื่อเทียบปี 2558 และการขยายฐานผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การขยายตลาดและสร้างการเติบโตของรายได้ในทุกประเภทผลิตภัณฑ์หลอดไฟส่องสว่างในไตรมาส 3-4 จะสามารถมียอดขายได้ถึง 45 ล้านบาท แผนในปีนี้เน้นการผลิตหลอดไฟประหยัดพลังงาน และสัดส่วนของตลาดรวมประเภทสินค้าหลอดไฟปีที่แล้วโตประมาณ 17% ในตอนนี้โตกว่า 23 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นมูลค่าเงินกว่า 5,000 ล้าน

ในปีหน้าวางแผนเพิ่มช่องทางและ ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมด้านไฟฟ้ามากขึ้น เน้น ช่องทาง โมเดิรนท์เทรด สัดส่วนโมเดิรนท์เทรด คาดจะได้ 45 ล้าน ภายในสิ้นปีนี้ เป็นเงินประมาณ 25 ล้าน ที่จะมาจากการจำหน่ายหลอดไฟจากโมเดิรนท์เทรด โดยตั้งเป้าปีหน้า คาดหวัง 150 ล้าน หรือ คิดเป็นเปอร์เซนต์คือ ต้องโต กว่า 100% เพราะเชื่อมั่นว่าตัวผลิตภัณฑ์การันตีตัวเองในด้านของการประหยัดพลังงานได้ดี

และจะยังคงนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และเพิ่มช่องช่องทางการจัดจำหน่าย มูลค่าตลาดรวมของหลอดไฟมีมูลค่ากว่า 23,000 ล้านในปีที่ผ่านมา เชื่อ ปี 60 จะโตถึง 5,000 ล้าน เพราะ ด้วยความที่เป็นหลอดประหยัดไฟ ราคาไม่แพง แนวคิดในการทำ ENCOM LED ทำออกมาเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชนเพื่อเป็นทางเลือกให้ โดยจะวางจำหน่าย 400 กว่าจุด และ PEA SHOP ตามห้างสรรพสินค้าอีก 100กว่าจุด จะมี ENCOM LED วางจำหน่ายให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงหลอดไฟประหยัดพลังงานของเราได้มากยิ่งขึ้น”