รัฐบาลไซปรัสเปิดแผนดึงดูดนักลง ทุนไทยด้วยมาตรการจูงใจทางภาษี พร้อมเผยระดับการลงทุนขั้นต่ำ เพื่อรับสิทธิ์การสมัครเข้าเป็น พลเมืองของไซปรัส ซึ่งมีสถานะเป็นสมาชิกสหภาพยุโร ป โดยนักลงทุนสามารถเลือกลงทุนตรง เพื่อรับสิทธิ์พำนักถาวรในขึ้ นต่ำมูลค่า 3 แสนยูโร และการลงทุนเพื่อรับสิทธิ์เป็นพ ลเมืองไซปรัสขั้นต่ำมูลค่า 2.5 ล้านยูโร
สาธารณรัฐไซปรัสเปิดตัวมาตรการจู งใจด้านการลงทุนให้กับนักลงทุ นชาวไทย โดยตั้งเป้าหมายยกระดับการลงทุน จากประเทศไทย โดยมีกลุ่มธุรกิจและอุตสาหกรรม ที่ต้องการระดมเงินลงทุนจากไทย อาทิ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พลังงาน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ รวมถึงอุตสหกรรมการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ สถานกงสุลกิตติมศักดิ์ไซปรัสประ จำประเทศไทย ได้เปิดเผยถึงมาตรการจูงใจทางกา รลงทุนดังกล่าว ในการจัดงานเลี้ยงภายใต้ธีม “สีสันของไซปรัส” ซึ่งมีนักธุรกิจและนักลงทุนชาวไ ทยจากอุตสาหกรรมต่างๆ เข้าร่วมงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ เดอะเฮาส์ออนสาทร โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ
เอกอัครราชทูตไซปรั สประจำประเทศไทย มร. เดเมทริโอส เอ. ธีโอฟีลัคโท (Demetrios A. Theophylactou) ซึ่งมีถิ่นพำนัก ณ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ได้เปิดเผยต่อนักลงทุนชาวไทยที่ มาร่วมงานว่า สาธารณรัฐไซปรัสมีระบบการเมืองก ารปกครองที่มั่นคง โดยเป็นประชาธิปไตยแบบรัฐสภา และมีประธานาธิบดีเป็นประมุข โดยความมั่นคงทางด้านการเมืองนี้ ถือเป็นปัจจัยที่เอื้ออำนวยต่ อการขยายตัวและการเจริญเติบโตทา งเศรษฐกิจโดยไซปรัสมีระบบเศรษฐกิ จแบบเสรีที่มีพื้นฐานด้านการบริ การเป็นหลัก รวมถึงมีข้อได้เปรียบทางการแข่ง ขันในหลาย ๆ ด้าน อาทิ ที่ตั้งของประเทศซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงของ 3 ทวีป ได้แก่ ยุโรป แอฟริกา และเอเชีย การเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปและก ลุ่มยูโรโซน ความมีกฎระเบียบและเคร่งครัดในก ารบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงมาตรการจูงใจทางภาษี โครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการ ทำธุรกิจ และการมีคุณภาพชีวิตที่ดี
“ไซปรัสพ้นจากสภาวะวิกฤติ ทางการเงินเมื่อปี 2013 โดยทาง IMF ได้ประเมินว่ารายได้ประชากรของไ ซปรัสอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่าค่ าเฉลี่ยของสหภาพยุโรป ทั้งนี้ไซปรัสยังถือเป็นแหล่งกา รลงทุนที่ดึงดูดนักลงทุนจากต่ างประเทศด้วยมาตรการทางภาษีที่ จูงใจ นอกจากนี้ ทางหน่วยงานภาครัฐ โดยกรมการผังเมืองของไซปรัส ได้ออกมาตรการกระตุ้นการลงทุนพั ฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ย่า นใจกลางเมือง สอดรับกับนโยบายการอำนวยความสะ ดวกให้ผู้ย้ายถิ่ นฐานจากประเทศที่สามเข้าที่เข้ ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ในไซปรัสอีกด้วย”
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติ สามารถยื่นสมัครเพื่อรับสิทธิ์ พำนักถาวรผ่านการลงทุนในอสังหาริ มทรัพย์ ด้วยมูลค่าการลงทุนขั้นต่ำ 3 แสนยูโร โดยครอบครัวของผู้ลงทุน ได้แก่ ภรรยา หรือสามี รวมถึงบุตร สามารถรับสิทธิ์การสมัครเพื่อรั บสิทธิ์พำนักถาวรได้ด้วย ส่วนการขอรับสัญชาติไซปรัสผ่ านการลงทุน สามารถทำได้โดยลงทุนขั้นต่ำ 5 ล้านยูโร ผ่านการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การซื้อพันธบัตรรัฐบาล การซื้อกิจการบริษัทสัญชาติ ไซปรัส การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ อาทิ บ้านพักอาศัย สำนักงาน ร้านค้า โรงแรม และอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังสามารถลงทุนในสินทรัพย์ ทางการเงิน หรือฝากเงินกับธนาคารไซปรัส
ส่วนมาตรการจูงใจทางภาษีที่รัฐบ าลไซปรัสใช้ดึงดูดนักลงทุน อาทิ มาตรการยกเว้นภาษีจากรายได้ ประเภทต่าง ๆ เช่น รายได้เงินปันผล ผลกำไรจากการประกอบธุรกิจต่างชา ติในไซปรัส และผลกำไรจากการขายหลักทรัพย์ นอกจากนี้ทางรัฐบาลมี มาตรการไม่เก็บภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากเงินปันผล ดอกเบี้ยหรือเงินส่วนแบ่งที่จ่ายจากไซปรั ส และยังมีมาตรการจูงใจสำหรับการ จัดตั้งธุรกิจประเภทการพัฒนาด้ านนวัตกรรม การลดดอกเบี้ยการลงทุนสำหรับธุร กิจใหม่ รวมถึงมาตรการโครงสร้างทางภาษี ที่เอื้อต่อธุรกิจด้านทรัพย์สิ นทางปัญญาด้วย
ตลอดระยะเวลากว่าสองทศวรรษที่ผ่ านมา รัฐบาลไซปรัสได้ดำเนินมาตรการต่ างๆ รวมถึงการปฏิรูปโครงสร้างทางเศร ษฐกิจของประเทศเพื่อให้ มีความทันสมัยและเป็นไปอย่างเสรี โดยประเทศไซปรัส ได้เข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2004 และสมาชิกในกลุ่มประเทศยูโรโซน ในปี ค.ศ. 2008 นอกจากนี้ในอนาคตอันใกล้ ประเทศไซปรัส กำลังจะเข้าร่วมในกลุ่มประเทศ Schengen ซึ่งจะทำให้ผู้ที่เป็นพลเมื องไซปรัส สามารถเดินทางติดต่อระหว่างกลุ่ มประเทศสมาชิกได้โดยสะดวกรวดเร็ วยิ่งขึ้น
สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่ขั บเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไซปรั ส ได้แก่ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว การบริการทางวิชาชีพ การบริการทางการเงินและธนาคาร การขนส่งสินค้า กลุ่มธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทดแ ทน รวมถึง ธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยแหล่งก๊าซธรรมชาติที่อยู่ ในเขตเศรษฐกิจเฉพาะของไซปรัส (Cyprus’ Exclusive Economic Zone หรือ EEZ) ประสบความสำเร็จในการดึงดูดการล งทุนจากบริษัทพลังงานชั้นนำในระ ดับโลกหลายราย
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังถือเ ป็นอุตสาหรรมที่สร้างรายได้ ทางตรงให้แก่ไซปรัส โดยปัจจุบันมีการลงทุ นในโครงการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะ ดวกด้านการท่องเที่ยวระดับใหญ่ หลายโครงการ อาทิ โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในระดับหรูหรา ท่าเรือมารีน่า ธีมปาร์ค รีสอร์ทและสนามกอล์ฟระดับหรู และเพื่อเป็นการกระตุ้นอุตสาหก รรมท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลไซปรัสยังดำเนินการผลักดั นโครงการคาสิโน รีสอร์ท เพื่อเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ เทียบเท่าคาสิโนรีสอร์ท ชั้นนำของโลกด้วย
ทั้งนี้จากมาตรการส่งเสริมเศรษฐ กิจด้านต่าง ที่รัฐบาลได้ดำเนินการ ทำให้ประเทศไซปรัสมีเสถียรภาพท างการเงิน และการคลังสาธารณะที่มั่นคง โดยในช่วงสองไตรมาสแรกของปีนี้ เศรษฐกิจของไซปรัสเติบโตถึงร้ อยละ 2.7 เมื่อเทียบกับการเติบโตในช่วงเดี ยวกันของปีที่ผ่านมา
ไซปรัสมีเนื้อที่ 9,250 ตารางกิโลเมตร โดยเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอั นดับสามในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีเมืองหลวงชื่อ นิโคเซีย (Nicosia) และมีประชากรประมาณ 847,000 คน สำหรับพื้นที่ชายฝั่งมีความยาว ประมาณ 648 กิโลเมตร มียอดเขาโอลิมปัสเป็นยอดเขาสูงสุ ด ความสูงประมาณ 1,951 เมตร สำหรับการเดินทางสู่ ประเทศไซปรัส สามารถใช้เส้นทางการบินจากสนามบิ นในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยมีสายการบินพาณิชย์ที่ให้บริ การหลายสายการบิน อาทิ เอมิเรตส์ การ์ต้า แอร์เวย์ส และอิติฮัด แอร์เวย์ส หรือจากประเทศในยุโรป รวมถึงอียิปต์ แอร์ ผ่านกรุงไคโร