จ้องคีย์บอร์ดตาเป็นมันกันไปทำไม หันมาใช้ซอฟต์แวร์จดจำเสียง (Speech Recognition) กันดีกว่า หลังนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยดังด้านเทคโนโลยีของโลกอย่างม.สแตนฟอร์ด ออกมาเปิดเผยผลการวิจัยว่า ซอฟต์แวร์จดจำเสียงพูดเวอร์ชันปัจจุบันที่เปิดให้ดาวน์โหลดกันนั้น สามารถพิมพ์ข้อความได้เร็ว และถูกต้องกว่ามนุษย์ถึง 3 เท่า
หนุ่มสาวยุคมิลเลนเนียมที่ชื่นชอบการแชตเป็นชีวิตจิตใจ รวมถึงคุณลุงคุณป้าที่เพิ่งเริ่มหัดแชต อาจไม่ต้องก้มหน้าก้มตาจิ้มนิ้วลงบนแป้นพิมพ์อีกแล้ว เพราะเทคโนโลยีจดจำเสียงพูดบนสมาร์ทโฟนในปัจจุบันสามารถแปลเสียงพูดมาเป็นข้อความได้อย่างถูกต้อง แถมรวดเร็วกว่าการให้มนุษย์นั่งพิมพ์เองถึง 3 เท่า
ผู้ที่ทำการวิจัยในเรื่องดังกล่าว คือ ศาสตราจารย์เจมส์ แลนเดย์ จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา “การพัฒนาโปรแกรมจดจำเสียงพูดให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งที่นักพัฒนาให้คำมั่นสัญญากับผู้ใช้บริการมานานนับ 10 ปีแล้ว แต่ที่ผ่านมา ผู้บริโภคยังไม่ค่อยพึงพอใจกับโปรแกรมเหล่านั้นมากนัก”
“อย่างไรก็ดี ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราพบว่า โปรแกรมจดจำเสียงพูดนั้น มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วมาก โดยเป็นผลมาจากบิ๊กดาต้า และแมชชีนเลิร์นนิ่ง ซึ่งทำให้เครือข่ายสมองกลสามารถแปลผลที่รวดเร็วขึ้น และถูกต้องมากขึ้น”
โดยในการทดสอบครั้งนี้ได้มีนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน เข้าร่วมด้วย ซึ่งทีมวิจัยได้จัดการแข่งขันระหว่างซอฟต์แวร์จดจำเสียงพูดที่ทำงานผ่านคลาวด์ กับนักแชต จำนวน 32 คน ที่มีอายุระหว่าง 19-32 ปี ซึ่งมาพร้อมสมาร์ทโฟนที่มีคีย์บอร์ดในตัว
“เด็กรุ่นนี้เติบโตมาพร้อมกับการส่งข้อความ ดังนั้น เราจึงนำซอฟต์แวร์จดจำคำพูดมาท้าชิงกับวัยรุ่นเหล่านั้นว่า ใครกันแน่ที่จะแชตได้เก่งกว่ากัน และก็พบว่า สมาร์ทโฟนทำงานได้ดีกว่าถึง 3 เท่า”
อย่างไรก็ดี เมื่อนำซอฟต์แวร์เพื่อการจดจำคำพูดภาษาจีนแมนดาริน แปลงเป็นข้อความนั้น พบว่าสปีดตกไปเล็กน้อย โดยเร็วกว่าการพิมพ์ของมนุษย์ 2.8 เท่า
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นมีความเป็นไปได้ว่า จะมีการสนับสนุนนักพัฒนาให้นำคุณสมบัตินี้ไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ที่มากกว่าการใช้ช่วยส่งอีเมล หรือส่ง SMS แต่เพียงอย่างเดียวเฉกเช่นปัจจุบัน
ที่มา: http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000086730