“ถ้าจะพูดกันตรงๆ ผู้ชายส่วนใหญ่ก็คงจะไม่ค่อยเชื่อในโฆษณาสักเท่าไหร่ เพราะดารานั้นเกิดมาหล่อ ผิวหน้าดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถ้าแน่จริงทำไมไม่จับคนเดินถนน คนธรรมดาทั่วไปมาลองทดสอบดูบ้างหล่ะ หน้าจริงๆ สิวๆ หน้าสดๆ ว่าจะได้ผลอย่างที่โฆษณามั้ย จะมีแบรนด์ไหนกล้าพิสูจน์กันจริงๆ บ้างรึเปล่า…วันนี้ พอนด์ส เมน จัดให้แล้ว!”
เราตามติดเข้าไปดูการถ่ายทำในครั้งนี้ที่ถือเป็นปฏิบัติการพิสูจน์ความเชื่อมั่นถึงประสิทธิภาพในการรีชาร์จพลังความสดชื่นให้กลับคืนสู่ผิวหน้าที่ดูจริงและเรียลที่สุด ตั้งแต่มีการโฆษณาโฟมล้างหน้าผ่านทางหน้าจอทีวี เริ่มต้นด้วยการตามหาผู้ชายที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตหนักๆ ที่ต้องพบเจอความท้าท้ายต่อสภาพผิวหน้าจากหลากหลายอุปสรรค ส่งผลให้หน้าดูโทรม มัน และหมองคล้ำ
“ซอบิ” พนักงานรักษาความปลอดภัย, “นะ” จักรยานยนต์รับจ้าง, “แอมป์” สถาปนิค ทั้ง 3 อาชีพที่คัดเลือกมาล้วนต้องเผชิญความโหดร้ายจากสภาพแวดล้อมรอบตัวในชีวิตประจำวัน ทั้งความร้อน แสงแดด ฝุ่น ควัน และการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ เมื่อมาตรวจสภาพผิวหน้าแต่ละคนแล้ว ก็พบทั้งความหมองคล้ำและจุดด่างดำที่เริ่มเข้าขั้นวิกฤตกันเลยทีเดียว
พอนด์ส เมน จึงให้พวกเขามาทดลองใช้โฟมล้างหน้าและเซรั่มบำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากเมล็ดกาแฟ แล้วเปรียบเทียบผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ จนครบ 2 สัปดาห์ เมื่อได้เห็นความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ผลที่ได้ทำเอาเราถึงกับต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
ที่ทั้ง 3 คนสามารถเปลี่ยนจากหน้าโทรมๆ ให้หล่อใสได้ เพราะผลิตภัณฑ์จากพอนด์ส เมน มีการผสมสารสกัดจากเมล็ดกาแฟที่มีคุณสมบัติในการขจัดเซลล์ผิวหมองคล้ำ และช่วยชาร์จพลังให้ผิวกลับมากระจ่างใสมีชีวิตชีวาภายใน 2 สัปดาห์ด้วย 2 ขั้นตอนง่ายๆ
สเต็ปแรก ทำความสะอาดผิวหน้าด้วย POND’S MEN Energy Charge Foam ที่ช่วยเติมความสดชื่น พร้อมทำให้ผิวกลับมาดูกระจ่างใสมีชีวิตชีวาในทันที
สเต็ปสอง บำรุงผิวหน้าด้วย POND’S MEN Energy Charge All In One ครบในหนึ่งเดียว ทั้งมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ โทนเนอร์ และเซรั่ม ที่ซึมสู่ผิวในทันที พร้อมคุณสมบัติช่วยฟื้นบำรุงล้ำลึก เพื่อให้ผิวดูกระจ่างใสสุขภาพดี
ทดลองให้เห็นความเปลี่ยนแปลงกันชัดๆ กันไปแล้ว จากสภาพผิวหน้าอาการหนักขนาดนี้ พอนด์ส เมน ยังช่วยรีชาร์จให้กลับมากระจ่างใสดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ใน 2 สัปดาห์ ต่อไปนี้ ผู้ชายอย่างเราก็คงไม่ต้องกลัวแล้ว
(ติดตามชมคลิปการพิสูจน์ประสิทธิภาพของ POND’S MEN ENERGY CHARGE ที่จะปล่อยตามมาในเร็วๆ นี้ได้ทางแฟนเพจ www.facebook.com/pondsmenthailand)