สภาพการจราจรเช้านี้ทำเอาผมเผลอถอนหายใจไปกว่า 5 ครั้ง อีกเกือบ 10 ครั้งถอนหายใจไปกับสภาพอากาศที่ร้อนระอุแบบโหดเหี้ยม แค่เปิดประตูรถออกไปเผยตัวในที่แจ้ง ผิวหนังชั้นนอกก็พร้อมจะสุกแบบมีเดียมแรร์ในทันที นี่ถ้าผมเห็นคนขี่อูฐสวนเลนมาผมจะไม่สงสัยเลยแม้แต่นิดเดียว
เวลาเช้านี้ส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับการทรมานตัวเองบนท้องถนน เมืองหลวงของเรานับวันยิ่งร้อนเพราะสัดส่วนต้นไม้ไม่เพียงพอที่จะสร้างความร่มรื่นให้เกิดขึ้นในชุมชนเมือง พวกเราในฐานะคนอยู่อาศัยก็ต้องปรับตัวกันไปตามมีตามเกิด ระหว่างที่ผมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่นี้ สายตาก็มองไปเห็นป้ายบิลบอร์ดแปลกๆ อันนึง ที่ขนใบไม้สีเขียวขึ้นไปแปะจนเกือบเต็มบิลบอร์ด ซึ่งหลายวันก่อนหน้าก็ได้มีการขึ้นข้อความเป็นเหมือนทีเซอร์ว่าวันที่ 15 กันยาจะมีอะไรมาให้เราดูกันแน่ ตามรูปที่ถ่ายไว้ด้านล่างนี้
“จุดจบของการขาดความชุ่มชื้น” ที่ขึ้นป้ายไว้ก่อนหน้านี้มันจะเกี่ยวอะไรกับการเอาใบไม้มาแปะบนป้ายบิลบอร์ดให้เราดูเนี่ย ผมไม่อาจเก็บความสงสัยนี้ไว้กับตัว จึงหยิบ iPhone 7 Plus สีดำเจ็ทแบล็ค 256 gb ตัวท็อป (โม้) ออกมาถ่ายรูปเก็บไว้แล้วส่งไปถามเพื่อนในกรุ๊ปไลน์ว่าแต่ละคนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงกันบ้าง เป็นการแก้เบื่อจากสภาพจราจรเช้านี้ไปในตัว
ความเห็นนั้นก็มีหลากหลาย คัดมาแค่ที่มีสาระก็ได้ใจความว่า จากรูปที่ถ่ายเป็นบิลบอร์ดที่วาสลีนทำขึ้นมา ใบไม้เขียวๆ ที่เห็นก็น่าจะเป็นการทดลองเปรียบเทียบให้ดูระหว่างด้านซ้ายกับด้านขวาว่า การใช้วาสลีนทาผิว กับไม่ใช้จะให้ผลแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ดูให้ชัดๆ กันไปเลย
วาสลีนในฐานะแบรนด์อันดับหนึ่งในไทยด้านผลิตภัณฑ์บอดี้โลชั่น กำลังสร้าง experience ให้ทุกคนที่พบเห็นเป็นประจักษ์พยานร่วมกันในการทดลองแบบ live experiment ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เรียกความสนใจได้เป็นอย่างดีจากผู้คนบนท้องถนน ด้วยส่วนผสมหรือสารสกัดจากอะไรสักอย่าง ทำให้ทางวาสลีนมั่นใจว่าใบไม้อันบอบบางเหล่านี้ เมื่อนำมาทาทับด้วยวาสลีน จะช่วยปกป้องใบไม้เหล่านั้นจากการสูญเสียความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อืมมมม…แต่ตามความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ แดดกรุงเทพฯ เปรี้ยงๆ ขนาดนี้ ไหนจะมีทั้งฝุ่นทั้งควัน เผลอๆ ตอนเย็นเจอฝนตกใส่อีก สภาพอากาศทารุณโหดร้ายขนาดนี้ ใบไม้สีเขียวๆ ที่เห็น ไม่น่าจะเขียวได้เกิน 3 วันหรอกมั้งครับ แล้วคุณผู้อ่านหล่ะ มีความคิดเห็นยังไงกันบ้าง?