สหประชาชาติเผย อินเทอร์เน็ตกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีพของมนุษย์ยุคนี้ไปเสียแล้ว นอกเหนือจากปัจจัย 4 หลังพบผู้อพยพหลายคนยินดีไม่รับอาหารสำหรับประทังชีวิต 10 วัน เพื่อแลกกับบริการอินเทอร์เน็ต
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ศูนย์ผู้อพยพในแทนซาเนีย ที่มีผู้อพยพจำนวนหนึ่งขอไม่รับอาหารสำหรับ 10 วัน เพื่อแลกกับบริการอินเทอร์เน็ต 1 เดือน ส่วนหนึ่งมาจากค่าบริการอินเทอร์เน็ตที่แพงมาก และต้องใช้เงินรายได้ถึง 1 ใน 3 ของผู้อพยพ เพื่อให้เชื่อมต่อเข้าโลกออนไลน์ จึงอาจทำให้ผู้อพยพบางรายใช้วิธีดังกล่าวแทน
อย่างไรก็ดี ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อมีอินเทอร์เน็ต และสมาร์ทโฟน ผู้อพยพก็สามารถติดต่อกับครอบครัว และเข้าถึงบริการต่างๆ ที่จำเป็นได้อย่างสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งยังอาจได้รับข่าวสารที่จำเป็นได้อีกด้วย
Srba Jovanovic ผู้ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพชาวเซอร์เบีย เผยว่า ในค่ายผู้อพยพนั้น มีการใช้งานแอปพลิเคชั่น WhatsApp, Viber และ Skype อย่างกว้างขวาง
“การเชื่อมต่อเข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตช่วยขยายโอกาสให้กับผู้อพยพในการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้เป็นอย่างดี” Filippo Grandi ข้าหลวงใหญ่ค่ายผู้อพยพ กล่าว “ในโลกที่เราอาศัยอยู่ทุกวันนี้ อินเทอร์เน็ต และสมาร์ทโฟนกลายเป็นสิ่งที่เราทุกคนขาดไม่ได้เสียแล้ว”
นอกจากนี้ สำนักข่าว CNET ยังพบว่า ค่ายผู้อพยพในสหภาพยุโรปนั้น มีการใช้งานสมาร์ทโฟนกันอย่างแพร่หลาย เช่น ในกรีซมีการใช้สมาร์ทโฟนหาที่พัก และติดต่อสื่อสาร ในสวีเดน และฟินแลนด์ มีบริการช่วยผู้อพยพให้มีงานทำผ่านแอปพลิเคชั่น และในฝรั่งเศส มีการให้ผู้อพยพใช้ไวไฟฟรี และมีผู้เข้าใช้บริการถึง 400 คนต่อวันด้วย
โดยทางรายงานจาก UN ยังเผยด้วยว่า การไม่ให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่ผู้อพยพ อาจทำให้ผู้อพยพขาดแหล่งข้อมูลสำคัญๆ ที่ควรจะทราบ นี่จึงอาจเป็นการบังคับจาก UN กลายๆ ว่า ให้ประเทศที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้อพยพ ควรจัดหาบริการอินเทอร์เน็ตมารองรับด้วยก็เป็นได้
ที่มา: http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000092852