กลุ่มบริษัทไทคอน มั่นใจธุรกิจครึ่งปีหลังเติบโตได้ตามแผน ชี้แนวโน้มโรงงานและคลังสินค้าให้เช่ายังเติบโตดี โดยเฉพาะทำเลบางนา-ตราด บางพลี และวังน้อย ซึ่งตอบโจทย์ด้านการกระจายสินค้าของผู้ประกอบการเป็นอย่างดี พร้อมเดินหน้าพัฒนามินิแฟคทอรี่เฟส 2 ในโครงการ Yokohama Factory Zone หวังโกยสัดส่วนลูกค้าญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น
นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON ผู้นำด้านการพัฒนาโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าคุณภาพสูงพร้อมใช้เพื่อให้เช่ารายใหญ่ของ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานของกลุ่มไทคอนในครึ่งปีแรกเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยกลุ่มไทคอนได้ขยายพื้นที่โรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าพร้อมใช้เพิ่มเติมต่อเนื่อง เพื่อรองรับการลงทุนจากต่างประเทศที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มไทคอนมีลูกค้าเช่าโรงงาน และคลังสินค้าเพิ่มขึ้นรวม 42 ราย ทำให้ลูกค้าทั้งหมดของ TICON และ TPARK ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2559 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 325 ราย ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทต่างชาติมากกว่าร้อยละ 90 โดยสัดส่วนลูกค้าหลักของโรงงานคือญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ และอิเลคทรอนิคส์ ส่วนกลุ่มลูกค้าหลัก 3 อันดับแรกของคลังสินค้ามาจากยุโรป ญี่ปุ่น และไทย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ และชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น” นายวีรพันธ์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในครึ่งหลังของปี 2559 ธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าจะยังคงเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่แถบบางนา-ตราด บางพลี และวังน้อย ซึ่งเป็นทำเลที่ตอบโจทย์ด้านการผลิตและโลจิสติกส์ของอุตสาหกรรมที่หลากหลายและมีแนวโน้มขยายตัวในพื้นที่เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง กลุ่มไทคอนจึงเดินหน้าขยายพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าให้เช่าในโครงการต่างๆ ให้ได้ตามเป้าหมาย 280,000 ตารางเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 10 ภายในสิ้นปี 2559 โดยหนึ่งในแผนการพัฒนาโครงการของกลุ่มไทคอน คือ การเดินหน้าพัฒนาโรงงานขนาดมินิในโครงการ Yokohama Factory Zone ซึ่งเป็นโครงการต้นแบบของไทคอนที่พัฒนาขึ้นเพื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจากประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ เป็นเฟสที่ 2 ภายในนิคมอุตสาหกรรมเอเซียสุวรรณภูมิ ประกอบด้วยโรงงานขนาด 550 ตารางเมตร จำนวน 10 ยูนิต ซึ่งหากรวมกับเฟสแรกที่พัฒนาแล้วเสร็จแล้ว จะทำให้มีขนาดพื้นที่ให้เช่ารวม 11,0000 ตารางเมตร โดยคาดว่า เมื่อพัฒนาโครงการแล้วเสร็จจะมีสัดส่วนลูกค้าญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีก
นอกจากนี้ ยังมีโครงการพัฒนาคลังสินค้าในภูมิภาค ได้แก่ จ. ขอนแก่น และ จ. ลำพูน ซึ่งได้เปิดให้บริการคลังสินค้าเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เพื่อรองรับธุรกิจโมเดิร์นเทรด และโลจิสติกส์ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือซึ่งกำลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับความคืบหน้าการขยายการลงทุนในต่างประเทศนั้น บริษัทฯ มีแผนลงทุนในประเทศเวียดนาม โดยกำลังพิจารณาหาพันธมิตรทั้งในเวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีแผนการลงทุนในประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนเช่นกัน
ในส่วนของการลงทุนในประเทศอินโดนีเซียที่ได้มีการร่วมมือกับ SSIA และมิตซุย ในการขยายธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าโครงการขนาดพื้นที่ 146,000 ตารางเมตร บริษัท SLP อยู่ในระหว่างการก่อสร้างคลังสินค้าในเฟสที่ 2 ขนาดพื้นที่รวม 51,000 ตารางเมตร ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จภายในปีนี้ นอกจากนี้ ยังวางแผนซื้อที่ดินเพิ่มเติมในหลายพื้นที่ในประเทศอินโดนีเซียเพื่อลงทุนต่อเนื่องอีกด้วย
เกี่ยวกับ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน)
TICON หรือ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2533 โดยมีเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมในประเทศไทย โดยธุรกิจหลักของไทคอนมุ่งเน้นที่การพัฒนาโรงงานสำเร็จรูปคุณภาพสูงพร้อมใช้เพื่อให้เช่าที่มีหลากหลายขนาด และตอบสนองความต้องการในการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้า ซึ่งพร้อมให้บริการในนิคมอุตสาหกรรมหลักๆ ของประเทศ รวม 18 แห่ง โดยมี TPARK หรือ บริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด เป็นบริษัทในกลุ่มไทคอน ซึ่งมีธุรกิจหลักในการพัฒนาคลังสินค้าคุณภาพสูงพร้อมใช้ และโลจิสติกส์ พาร์ค ในระดับสากลปัจจุบันคลังสินค้าของ TPARK ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ 33 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กลุ่มไทคอนยังให้บริการในการพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าแบบ Built to Suit เพื่อรองรับความต้องการใช้งานที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้าแต่ละรายอีกด้วยโดยในปี 2558 ไทคอนได้ขยายการลงทุนครั้งสำคัญไปยังต่างประเทศเป็นครั้งแรก โดยร่วมมือกับบริษัท SSIA ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของอินโดนีเซีย และบริษัทมิตซุย ประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศอินโดนีเซีย ภายใต้ชื่อ “PT SLP SURYA TICON INTERNUSA” (SLP) ด้วยทุนจดทะเบียน 46.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นอกเหนือจากธุรกิจในด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมแล้ว กลุ่มไทคอนยังได้จัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ชื่อ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจิสติคส์ (TLOGIS) และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน อินดัสเทรียล โกรท (TGROWTH) โดยมีกลุ่มไทคอนเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ เพื่อหาโอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์ และคลังสินค้าและเมื่อปี 2556 ไทคอนได้ตั้งบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อ TMAN หรือ บริษัท ไทคอน แมนเนจเม้นท์ จำกัดซึ่งเป็นบริษัทจัดการทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยต่อมา TICON และ TMAN ได้เปิดตัวกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน หรือ TREIT เพื่อจัดหาผลประโยชน์จากการลงทุนในทรัพย์สินทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศในอนาคต ซึ่งไม่เพียงแต่จะลงทุนในทรัพย์สินของ TICON และ TPARK เท่านั้น แต่ยังมองหาโอกาสในการลงทุนในโรงงานและคลังสินค้าจากกลุ่มอื่นๆ ได้อีกด้วย ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู www.ticon.co.th