“11street” เตรียมประเดิมตลาดไทย 11 พฤศจิกายน ในรูปแบบซอฟต์ลอนช์ ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 ธันวาคม มุ่งเน้นการสร้างฐานลูกค้า และวางระบบให้แข็งแรง เพื่อให้แข่งขันได้ ก่อนขึ้นเป็นผู้นำในตลาดอีคอมเมิร์ซในระยะยาว ตั้งเป้าภายในสิ้นปีหน้ามีผู้ค้าเข้าร่วมกว่า 2 หมื่นราย
นายฮงชอล จอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อีเลฟเว่นสตรีท ประเทศไทย กล่าวถึงการมาเปิดตัวแพลตฟอร์ม 11street ในประเทศไทยว่า จะช่วยพัฒนาอีคอมเมิร์ซให้ก้าวไปข้างหน้า ประกอบกับการที่เป็นแบรนด์ใหญ่จากเกาหลี จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ทั้งผู้ขาย และผู้ซื้อ ก่อนที่จะช่วยยกระดับของผู้ขายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่วนฝั่งผู้ซื้อก็จะเน้นความง่ายของแพลตฟอร์ม
ในส่วนของไทม์ไลน์ในการให้บริการของ 11street คือ ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จะมีการเปิดช่องทางให้ผู้ประกอบการทั้งกลุ่มที่มีร้านออนไลน์ รวมถึงกลุ่มผู้ขายออฟไลน์ ให้เข้ามาลงทะเบียนก่อนจะเริ่มทดลองจำหน่ายในวันที่ 11 พฤศจิกายน และมีกำหนดการจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 ธันวาคม 2559
“เบื้องต้นมีผู้ขายเข้ามาลงทะเบียนแล้ว 2,500 ร้านค้า และตั้งเป้าว่า ภายในสิ้นปี 2560 จะมีร้านค้าเข้าร่วม 20,000 ร้านค้า ไม่นับรวมสินค้าจากเกาหลี อีกราว 2,000-3,000 ร้าน ขณะที่ในส่วนของผู้ซื้อคาดว่าจะมีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้งานแพลตฟอร์ม ทั้งผ่านหน้าเว็บไซต์ และผ่านแอปพลิเคชั่นไม่ต่ำกว่า 20 ล้านครั้ง”
ส่วนจุดที่จะดึงดูดให้ผู้ซื้อเข้ามาใช้งาน 11street คือ การสร้างความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ เน้นการใช้งานง่าย มีระบบชำระเงินที่หลากหลาย โดยเป็นการทำงานร่วมกับพันธมิตรอย่าง 2C2P และ LINE Pay เพื่อเข้ามาช่วยเสริม ส่วนด้านลอจิสติกส์ มีการเข้าไปพูดคุยกับทางเคอรี่ เอ็กซ์เพลส (Kerry Express) และรายอื่นๆ อีก
สำหรับรายได้ของ 11street ที่ถือเป็นมาร์เกตเพลสสำหรับจำหน่ายสินค้าออนไลน์ มีรายได้มาจาก 3 ช่องทางด้วยกัน โดยในช่วงแรกจะเน้นไปที่ค่าธรรมเนียมในการจำหน่ายสินค้า (5-10% ขึ้นกับประเภทของสินค้า) และเมื่อขยายฐานลูกค้าได้จำนวนหนึ่งแล้ว ก็จะมีรายได้จากการโฆษณา และรายได้จากดอกเบี้ยของการเก็บเงินที่ผู้ซื้อจ่ายเข้ามาในระบบก่อนจ่ายให้แก่ผู้ขาย เพื่อรับประกันในการจัดส่งสินค้า
อย่างไรก็ตาม 11Street มองถึงตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยว่า ยังมีช่องว่างให้เติบโตอีกมาก เพราะปัจจุบัน ช่องทางจำหน่ายสินค้าออนไลน์คิดเป็นสัดส่วนราว 1% หรือราว 9 หมื่นล้านบาท ของตลาดค้าปลีก ซึ่งเติบโตจากปีที่ผ่านมา ถึง 20% ในขณะที่ในเกาหลี ตลาดออนไลน์คิดเป็นสัดส่วนถึง 15% เมื่อเทียบกับตลาดค้าปลีก คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1 ล้านล้านบาท)
จุดเด่นหลักของ 11 Street คือ การมี “11Street Campus” ที่จะเปิดพื้นที่ให้ผู้ค้าเข้ามาเรียนรู้ แลกเปลี่ยนเทรนด์ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย พร้อมการจัดกิจกรรมเวิร์กช็อปในการถ่ายภาพสินค้า มีสตูดิโอให้ลองใช้งาน ประกอบกับการจัดงานสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ขาย โดยมีแผนที่จะขยายเพิ่มอีก 6 สาขา ภายในปีหน้าอีก เป็นในกรุงเทพฯ 4 สาขา
โดย 11Street Campus แห่งแรกของ 11street ประเทศไทย อยู่บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางฟุต ที่ภิรัช ทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ แคมปัส ซึ่งถือเป็นสำนักงานลำดับที่ 5 จากสำนักงานของ 11 Street รองจาก เกาหลี ตุรกี มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งในแต่ละประเทศที่ 11street สามารถขึ้นเป็นผู้นำอีคอมเมิร์ซในประเทศนั้นๆ
ทั้งนี้ ช่วงแรกที่เปิดให้บริการ จะมีการทำโปรโมชั่นสำหรับผู้ค้า โดยผู้ค้ารายใหม่ที่ลงทะเบียนจะได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียมการซื้อขาย 50% ในเดือนแรกที่เริ่มใช้งาน ฟรีคะแนนสะสมสำหรับผู้ค้า 999 แต้ม (1 แต้มเท่ากับ 1 บาท) โดยสมาชิกใหม่ยังจะได้รับบริการถ่ายรูปสินค้าฟรี 100 รูป จากสตูดิโอถ่ายภาพ 360 องศา
บรรยากาศภายใน แคมปัส
ที่มา: http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000094935