ธนพรคลินิก บุกหนักทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท รีแบรนด์ดิ้งครั้งใหญ่ในรอบ 14 ปี ปรับภาพลักษณ์ทันสมัย พรีเมียม พร้อมเปิดตัวแอมบาสเดอร์ล่าสุด หวังสื่อสารจุดเด่นนวัตกรรมความงามที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวหน้าและโครงสร้างใบหน้าของกลุ่มเป้าหมาย ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้น 10% ในปี 2560 เผยวางแผนขยายสาขา 40 สาขาทั่วประเทศภายในปี 2565
นพ.เลอพงษ์ กรุดเงิน ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร ธนพรคลินิก ฝ่ายแพทย์ เปิดเผยว่า “ธนพรคลินิกเป็นคลินิกที่มีนวัตกรรมทางความงามหลากหลายตอบโจทย์ทุกช่วงอายุ และกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการธนพรคลินิก แบ่งเป็นกลุ่มวัยทำงาน อายุ 25-35 ปี ประมาณ 50%, กลุ่มอายุ 35 ปี ขึ้นไป ประมาณ 30% และกลุ่มต่ำกว่า 25 ปี 20% โดยคลินิกเป็นที่รู้จักในภาพจำที่ว่าเป็นคลินิกที่มี ออย – ธนา สุทธิกมล เป็นพรีเซนเตอร์”
ล่าสุด ธนพรคลินิกได้ทุ่มงบด้านกลยุทธ์ทางการตลาดกว่า 30 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 ในการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ให้ดูพรีเมียม กับการสร้าง Brand Awareness ใช้สื่อทั้ง Online, Offline และ On ground โดยมีหนังสั้น 1 เรื่อง และโฆษณาอีก 4 เรื่อง พร้อมกับวาง Brand Positioning ที่ชัดเจนขึ้น โดยสร้างภาพลักษณ์ของธนพรคลินิกให้ดูทันสมัยและเป็นไปในทิศทางเดียวกับ Brand Positioning ซึ่งทางคลินิกได้เชิญ 4 โซเชียลเซเลบริตี้สาวสวยมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์หรือตัวแทน 4 ฮีโร่นวัตกรรมความงามที่เหมาะกับแต่ละช่วงวัย ที่ประสบปัญหาผิวและปัญหาโครงสร้างใบหน้าแตกต่างกัน ได้แก่ นวัตกรรมเลเซอร์ลดเลือน ฝ้า กระและความหมองคล้ำ, นวัตกรรมยกกระชับปรับรูปหน้าที่หย่อนคล้อยให้กลับมาดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง, นวัตกรรมแสงรักษาสิว และศัลยกรรมเสริมจมูกด้วยเทคนิค MIR (Minimal Invasive Surgery) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Enhance your Confidence : ธนพรคลินิก เติมความมั่นใจให้กับคุณ” เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมความงาม โดยมีการตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งเติบโตเท่าปีก่อน และปี 2560 ตั้งเป้าเติบโตจากปี 2559 ประมาณ 10% ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของธนพรคลินิกมาจาก ทรีตเมนต์ดูแลผิวหน้า 30%, ผลิตภัณฑ์ยาและเวชสำอาง 25%, เลเซอร์ดูแลผิวหน้า 20%, ฉีด Botox & Filler 20% และศัลยกรรมความงาม 5% ขณะที่มูลค่าตลาดคลินิกเสริมความงามในประเทศไทย อยู่ที่ประมาณ 25,000-30,000 ล้านบาท
“ธนพรคลินิกของเราได้วางนโยบายที่จะสร้างการรับรู้และสร้างความเชื่อมั่น กับกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่เคยใช้บริการคลินิกเสริมความงามมาก่อน แต่มีความตั้งใจที่จะใช้บริการคลินิกเสริมความงาม ซึ่งกลุ่มนี้ถือเป็น Blue Ocean ที่ไม่ต้องไปแข่งขันด้านราคาแย่งลูกค้าใน Red Ocean กับคลินิกอื่นๆ ในปัจจุบันธนพรคลินิกมี 16 สาขา แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 12 สาขา ต่างจังหวัด 4 สาขา โดยมีคนไข้เข้ามาใช้บริการรวมทุกสาขาต่อปี มากว่า 150,000 ครั้ง / คนไข้กว่า 40,000 ราย” นพ.ธนวิศว์ พิศุทธานันท์ กล่าว
นอกจากนี้ ธนพรคลินิกยังตั้งเป้าขยายสาขา 40 สาขาทั่วประเทศ โดยในกรุงเทพฯ วางแผนไว้ 25 สาขา และต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ๆ ในแต่ละภาค 15 สาขา คาดจะครบตามเป้าภายในปี 2565 หรือ 6 ปี และยังมีโครงการในการขยายเป็นโรงพยาบาลความงามในอนาคตอีก 10 ปี ข้างหน้า หรือราวปี 2569
ด้านนวัตกรรมล่าสุดขณะนี้ ทางธนพรคลินิกได้นำเอานวัตกรรมอัลเธอรา (Ulthera) และนวัตกรรม AccuLift มาสร้างเป็นโปรแกรมเฉพาะ ธนพรคลินิก (Signature Program) ชื่อ Ulthera Lipo Lift เป็น Signature Program ของธนพรคลินิก ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยกกระชับปรับรูปหน้า ให้ผลลัพธ์การรักษาอยู่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น สูงสุด 5 ปี นอกจากนี้ ยังมีการออกโปรโมชั่นและแคมเปญส่งเสริมการขายทุกๆเดือน เพื่อกระตุ้นคนไข้ใหม่ให้เข้ามาใช้บริการ โดยสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.tanapornclinic.com ส่วนคนไข้ปัจจุบันของธนพรคลินิกจะมี 4 กลุ่ม คือ ระดับ Platinum ยอดใช้จ่ายเกิน 100,000 บาท ขึ้นไป, ระดับ Gold ยอดใช้จ่าย 50,000-100,000 บาท, ระดับ Classic ยอดใช้จ่าย 10,000-50,000 บาท และระดับ Member ต่ำกว่า 10,000 บาท จะมีการสะสมคะแนน สะสมยอดใช้จ่ายแลกรับเป็นของรางวัลต่างๆ
“สำหรับแนวโน้มธุรกิจความงามในปีนี้ สืบเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลให้คลินิกที่มีหลายสาขา ประสบปัญหายอดขายลด 10-40% สังเกตได้จากคลินิกใหญ่ๆ ที่มีสาขาเยอะๆ มีการปิดสาขา และยุบรวมเหลือสาขาเดียวในจังหวัดเดียว เป็นต้น เพราะมีต้นทุนทั้งค่าเช่าสถานที่ ต้นทุนด้านบุคลากร ทั้งแพทย์ และ พนักงาน ต้นทุนสินค้า ต้นทุนเครื่องมือและนวัตกรรมต่างๆ ขณะที่พฤติกรรมของลูกค้าจะมีความระมัดระวังการใช้เงิน จะเลือกซื้อคอร์สที่คิดว่าคุ้มค่า” นายชยุตม์กันต์ พงศ์จิรกร ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายการตลาด ธนพรคลินิก