บีคอน อินเตอร์เฟส สตาร์ทอัพน้องใหม่ ประเดิมคว้า 2 สุดยอดรางวัลในงาน Singapore FinTech Festival 2016 ซึ่งเป็นงานประกวดฟินเทคระดับโลก ที่จัดโดยแบงก์ชาติสิงคโปร์ ด้วยนวัตกรรมปฏิวัติโลกการเงินที่ให้ผู้บกพร่องทางการเห็นทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสมาร์ทโฟนได้ปลอดภัยและสะดวกที่สุดเช่นเดียวกับคนตาดี สอดคล้องกับแนวคิดของธนาคารกสิกรไทยที่ต้องการส่งเสริมให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง พร้อมเปิดให้บริการจริงไตรมาสแรกปี 2560
นายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และประธาน กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่า จากการที่บริษัท บีคอน อินเตอร์เฟส ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพภายใต้การสนับสนุนของธนาคารกสิกรไทย ได้ส่งผลงานแอพพลิเคชั่นด้านการเงินเข้าประกวดในงาน Singapore FinTech Festival 2016 ที่สิงคโปร์ สนับสนุนการจัดงานโดยธนาคารกลางของสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore – MAS) ซึ่งเป็นงานประกวดฟินเทคระดับโลกนั้น ล่าสุดผลงานแอพพลิเคชั่นของบีคอน อินเตอร์เฟส สามารถคว้า 2รางวัล คือ รางวัลชนะเลิศ Winner of Global FinTech Hackcelerator จากธนาคารกลางของสิงคโปร์ และรางวัล Developer Hub Award จาก Citigroupหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขันควบอีก 1 รางวัล
ทั้งนี้ แอพพลิเคชั่นที่บีคอน อินเตอร์เฟส พัฒนาขึ้นเป็นผลงานชิ้นแรกเป็นนวัตกรรมการออกแบบแอพพลิเคชั่นการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสมาร์ทโฟน โดยการใช้งานจอสัมผัสรูปแบบใหม่เพื่อเพิ่มศักยภาพ (Empower) สำหรับผู้บกพร่องทางการเห็น (Visually Impaired) ให้สามารถทำธุรกรรมการเงินบนโลกออนไลน์ได้ด้วยตนเองอย่างมั่นใจ มีความเป็นส่วนตัว และสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของธนาคารกสิกรไทยที่ต้องการส่งเสริมให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง (Financial Inclusion)
แอพพลิเคชั่นนี้จะทำให้ผู้บกพร่องทางการเห็นอันประกอบด้วย คนตาบอด (The Blind) และคนสายตาเลือนราง (The Low Vision) ที่มีกว่า 285ล้านคนทั่วโลก รวมถึงผู้สูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในยุคสังคมผู้สูงวัย (Aging society) ให้สามารถใช้โปรแกรมบนโทรศัพท์มือถือผ่านจอสัมผัส (Touch Screen) ได้อย่างง่ายดายและมั่นใจ ด้วยนวัตกรรม Non-location Based Interface ที่ไม่ต้องใช้การมอง ผนวกกับ Multi-sensory Feedbacks ที่คอยช่วยเหลือและชี้นำการใช้งานในทุก ๆ ขั้นตอน นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่นยังสามารถช่วยคนสายตาปกติให้ได้รับความสะดวกมากขึ้นเพราะสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องมองหน้าจอ
แอพพลิเคชั่นของบีคอน อินเตอร์เฟส เป็นการพัฒนาร่วมกันกับทีมงานด้านเทคนิคของ KBTG และได้รับการสนับสนุนรวมถึงคำแนะนำจาก ดร.นันทนุช สุวรรนาวุธ ผู้เชี่ยวชาญระบบออนไลน์สำหรับผู้บกพร่องทางการเห็น ปัจจุบันเป็นนักวิจัยจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และความร่วมมือจากพันธมิตร ABLE Lab (Achieve Better Living for Elderly Lab) นำทีมโดย ผศ.ดร.ชูจิต ตรีรัตนพันธ์ รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในการศึกษาวิจัยประสบการณ์การใช้งานให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มผู้ใช้อย่างแท้จริง
นายธีรนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่าบีคอน อินเตอร์เฟส เป็นฟินเทครายแรกที่มุ่งเน้นการสร้างประโยชน์และคุณค่าทางสังคม เพื่อให้เทคโนโลยีสามารถเข้าถึงคนทุกกลุ่มได้โดยเท่าเทียมกัน และหวังว่ารางวัลที่ได้รับจากการประกวดในครั้งนี้จะทำให้นวัตกรรมของบริษัทเป็นที่รู้จักมากขึ้นและได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและภาคธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในการส่งเสริมให้กลุ่มผู้มีความบกพร่องทางการเห็นได้เข้าถึงและมีโอกาสใช้งานนวัตกรรมดังกล่าวได้อย่างกว้างขว้าง ซึ่งในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาแอพพลิเคชั่นและพร้อมใช้งานได้จริงในช่วงไตรมาสแรกปี 2560
นอกจากกลุ่มผู้มีความบกพร่องทางการเห็นแล้ว นวัตกรรมของบีคอน อินเตอร์เฟส ยังสามารถนำไปใช้ในประเทศด้อยพัฒนา อ้างอิงข้อมูลจากธนาคารโลกที่ได้ประมาณการว่า ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน (Unbanked) ในประเทศด้อยพัฒนาทั่วโลกมีสูงถึงหนึ่งพันล้านคน ระบบนี้จะคอยช่วยเหลือและชี้นำการใช้งานในทุก ๆ ขั้นตอนจึงทำให้คนที่อ่านหนังสือไม่ออกสามารถใช้แอพพลิเคชั่นได้อย่างไม่มีปัญหา จึงเชื่อว่านวัตกรรมของบีคอน อินเตอร์เฟส จะทำให้สามารถเข้ารับบริการทางการเงินได้และสอดคล้องกับนโยบาย Universal Financial Access (UFA) ของประธานธนาคารโลกที่ต้องการลดความยากจนในประเทศด้อยพัฒนาด้วย Financial Inclusion ได้เป็นอย่างดี
สำหรับการแข่งขันในโครงการ Global FinTech Hackceleratorภายใต้งาน Singapore FinTech Festival 2016 จัดโดยธนาคารกลางของสิงคโปร์ (MAS) เป็นงานที่มุ่งเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรมฟินเทคระดับโลก มีผู้สนใจเข้าร่วมประกวดราว 650 โครงการ จาก 50 ประเทศทั่วโลก ซึ่งบีคอน อินเตอร์เฟส นับเป็นฟินเทค สตาร์ทอัพที่สร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้คนไทย เพราะเป็นฟินเทคไทยรายเดียวที่ผ่านเข้ารอบ 20 ทีมสุดท้ายและได้รับรางวัลชนะเลิศในที่สุด นอกจากนั้นยังเป็นทีมเดียวในการแข่งขันที่ได้รับถึงสองรางวัลอีกด้วย