การสร้างความเชื่อมั่นในการใช้บริการธุรกรรมทางการเงินผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่

ตามที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงานกสทช.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการกำกับดูแลบริการชำระเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมาทั้งสององค์กรได้ประสานความร่วมมือในการยกระดับการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยของบริการชำระเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมธนาคารไทย เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการใช้บริการโมบายแบงค์กิ้ง รวมถึงบริการพร้อมเพย์ที่จะเปิดให้บริการในไตรมาส 1 ปี 2560

วันนี้ ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) ได้มีการประชุมร่วมกัน โดยมีข้อสรุปความคืบหน้าการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ดังนี้

  1. สำนักงาน กสทช. จะมีหนังสือกำชับให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ดำเนินการโอนย้ายเลขหมายให้เป็นไปตามกฎหมายและประกาศ กสทช. อย่างเคร่งครัด โดยในการขอออกซิมการ์ดใหม่ การขอเปลี่ยนแปลงเจ้าของซิมการ์ด การขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ นั้น ผู้ใช้บริการจะต้องนำบัตรประชาชนตัวจริงมาใช้ในการติดต่อเพื่อขอเปลี่ยนแปลงหรือโอนย้ายเลขหมายเท่านั้น สำหรับกรณีการมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนก็จะต้องใช้บัตรประชาชนตัวจริงของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจด้วย โดยสำนักงาน กสทช. ได้มีการจัดทำมาตรฐานกระบวนการพิสูจน์ตัวตนเพื่อรองรับการตรวจสอบบัตรประชาชนดังกล่าวแล้ว เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจในการใช้บริการธุรกรรมทางการเงิน และป้องกันการโอนย้ายเลขหมายที่ไม่ถูกต้อง

อนึ่ง ในกรณีที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ฝ่าฝืนกฎหมายหรือประกาศ กสทช. โดยไม่ดำเนินการโอนย้ายหรือเปลี่ยนแปลงเลขหมายให้ถูกต้อง นอกจากจะได้รับโทษตามประกาศ กสทช. แล้ว ยังต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการโอนย้ายหรือเปลี่ยนแปลงเลขหมายที่ไม่ถูกต้องดังกล่าวด้วย

  1. สำนักงาน กสทช. และ ธปท. ตกลงร่วมกันเพื่อดูแลให้เกิดความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการโมบายแบงค์กิ้ง และพร้อมเพย์ว่าจะได้รับการดูแลการใช้บริการทางการเงินผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างรัดกุม โดยจะแจ้งให้สถาบันการเงินส่งข้อมูลเฉพาะเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่เท่านั้น (ไม่ปรากฏชื่อของผู้ใช้บริการในระบบดังกล่าว) ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการแล้วให้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ดูแลความปลอดภัยสำหรับผู้ที่ประสงค์จะเปลี่ยนแปลงเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีกลไกการดูแลที่รัดกุมตามข้อ 1 และมีกลไก ที่บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลไปยังสถาบันการเงินให้รับทราบและปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน โดยผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะขอคำยินยอมจากเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ในการนำส่งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าวให้สถาบันการเงิน และหากเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่มีความประสงค์ผูกหมายเลขโทรศัพท์ใหม่กับบริการพร้อมเพย์สามารถดำเนินการได้ที่สถาบันการเงิน

ทั้งนี้กลไกการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสถาบันการเงินและผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2560

  1. ธปท. และสำนักงาน กสทช. ตกลงร่วมกันว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการขอรับคืนเงินค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินกรณียกเลิกการใช้บริการ ซึ่งจากเดิมที่ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะต้องดำเนินการผ่านการโอนบัญชีธนาคาร คืนเป็นเช็ค หรือโอนไปยังหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่อื่นนั้น ขณะนี้ก็จะสามารถขอรับเงินคืนผ่าน e-wallet หรือบริการพร้อมเพย์ได้

ธนาคารแห่งประเทศไทย และ สำนักงาน กสทช.

20 ธันวาคม 2559

ข้อมูลเพิ่มเติม: ฝ่ายตรวจสอบเทคโนโลยีสารสนเทศ

โทรศัพท์ 0 2356 7614, 0 2283 5752

E-mail: [email protected]