- “AP THINK DIFFERENT” อสังหาฯ ผู้ “คิด” และ “สร้าง” ความแตกต่างในทุกบริบทด้วยคุณภาพ การออกแบบสเปซยอดเยี่ยม และการพัฒนาองค์ความรู้
- เดินหน้าเต็มสูบกางแผนเปิดโครงการใหม่ 20 โครงการ มูลค่า 35,000 ล้านบาท
- ครบ 3 ปีแห่งความเชื่อมั่นกับพันธมิตรธุรกิจสัญชาติญี่ปุ่น “มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป” เตรียมร่วมกันพัฒนาคอนโดใหม่ต่อเนื่อง
บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนเมืองที่มุ่งสร้างความต่างด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมดีไซน์เพื่อพื้นที่ใช้สอยที่ไม่จำกัด โดยคุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยแผนการดำเนินงานในปี 2560 เดินเกมด้วยกลยุทธ์ “คิดและสร้างความแตกต่าง” (AP THINK DIFFERENT) เน้นย้ำจุดแข็งของเอพีในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ โดดเด่นด้วยดีไซน์และการจัดสรรพื้นที่ใช้สอย รวมถึงวิสัยทัศน์ในการแบ่งปันองค์ความรู้เพื่อพัฒนาบุคลากรคุณภาพสู่วงการอสังหาฯ ไทย โดยในปี 2560 นี้ บริษัทฯ มีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 20 โครงการ มูลค่ารวม 35,000 ล้านบาท โดยเป็นแนวราบ 17 โครงการ มูลค่า 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้ากลุ่มบ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 8,000 ล้านบาท และสินค้ากลุ่มทาวน์โฮม 9 โครงการ มูลค่า 7,000 ล้านบาท และสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียม จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 20,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ในไตรมาส 1 บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ 1) พลีโน่ บางใหญ่ ทาวน์โฮม 2 ชั้นฟังก์ชั่นใหม่ จำนวน 350 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 980 ล้านบาท หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอยขนาด 18-20.6 ตารางวา ราคาเริ่ม 2 ล้านต้นๆ และ 2) พลีโน่ สุขสวัสดิ์ จำนวน 497 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,496 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการประกอบด้วยทาวน์โฮม 2 ชั้นฟังก์ชั่นใหม่ พื้นที่ใช้สอยขนาด 16.4-18 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 2 ล้านต้นๆ และบ้านแฝด 2 ชั้นฟังก์ชั่นใหม่ ขนาดเริ่มต้น 36 ตารางวา หน้ากว้าง 6.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 125.35 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท และอีก 1 โครงการจะเป็นการพัฒนาเฟสต่อเนื่องจากปีที่แล้วคือ บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย-รามอินทรา เฟส 2 เป็น SUPER LUXURY VILLA Series ใหม่ หลังจากเฟสแรกที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2559 ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ราคาเริ่มต้น 25 ล้าน
คุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) คาดการณ์แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2560 ว่า พื้นฐานของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในวันนี้ไม่ได้แย่มาก ถึงแม้ภาพรวมการเปิดตัวในช่วงปีที่ผ่านๆ มาจะติดลบก็ตาม วันนี้หลายๆ อย่างเริ่มมีความชัดเจนขึ้น กิจกรรมทางการตลาดและบรรยากาศในการซื้อสินค้าของผู้บริโภคเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติบ้างแล้ว ปีนี้เราจะเห็นภาพการแข่งขันในสินค้ากลุ่มแนวราบมากขึ้น ซึ่งความท้าทายที่สำคัญของการทำธุรกิจจากนี้ไปคือ การสรรหาที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการในแพคเกจราคาขายที่สอดรับกับความสามารถของผู้บริโภค การขยายตัวของรถไฟฟ้าถือเป็นทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยเสี่ยงของภาคธุรกิจ ด้วยราคาต้นทุนที่ดินที่ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกินกว่าผู้บริโภคจะตามทัน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการเปิดตัวใหม่ของคอนโดมิเนียมในอนาคต อีกทั้งผู้บริโภคมองหาสิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา สำหรับเอพีเรายังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบ โดยเน้นกระบวนการคิดที่มุ่งสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าควบคู่ไปกับการพัฒนาและควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน
ในด้านทิศทางการทำงานปี 2560 นี้ เอพียังคงปลุกพลังความคิดต่าง (AP Think Different) ให้กับพนักงานทุกคน เพื่อสร้างความแตกต่างและยกระดับสินค้าและบริการของเอพีในด้านสำคัญ ได้แก่ 1. คุณภาพ (Quality) ที่เอพีมีเครื่องมือสำคัญอย่าง Check List ที่มีการพัฒนาเน้นไปที่ Process และ Template ที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น รวมถึงสอดรับกับเทคโนโลยีการอยู่อาศัยแบบ Intelligent Living ที่เอพีเริ่มนำร่องไปแล้วในหลายโครงการ 2. การออกแบบสเปซ (Space Utilization) ทีเอพีให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่ใช้สอยในทุกตารางนิ้ว โดยคำนึงถึงดีไซน์ที่สวยควบคู่ไปกับความสะดวกสบาย ประโยชน์ใช้สอย และความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย และ 3. การพัฒนาองค์ความรู้ (Human Development) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิสัยทัศน์ที่โดดเด่นของเอพีในการทำงานเพื่อพัฒนาบุคลากรคุณภาพสู่วงการอสังหาฯ รวมถึงถ่ายทอดประสบการณ์และองค์ความรู้สู่สังคมไทย โดยเฉพาะนิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษาผ่านเอพี อะคาเดมี่ สถาบันเพื่อการเรียนรู้ครบวงจรด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกในเมืองไทย โดยในปีนี้เอพีได้พัฒนาหลักสูตรและเครื่องมือการเรียนรู้ให้หลากหลายและเจาะลึกมากยิ่งขึ้น
“อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เอพีสร้างความแตกต่างได้อย่างต่อเนื่อง ก็เพราะเรามีพันธมิตรธุรกิจผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกันเช่น ‘มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป’ (MEC) จากจุดเริ่มต้นของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมร่วมกันเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา จวบจนปัจจุบันเราได้ร่วมมือกันพัฒนารวม 8 โครงการ ในปีนี้เอพีและ MEC ยังคงมองไปในทิศทางเดียวกันและวางแผนที่จะพัฒนาโครงการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เรามองว่าเป็นความสำเร็จสูงสุดของความร่วมมือมิใช่แค่การร่วมทุน แต่ทุกวันนี้เอพีกับพันธมิตรญี่ปุ่นมีความร่วมมือในด้านการแบ่งปันและถ่ายทอดความรู้สู่กันในหลายๆ ด้าน และในทุกระดับ โดยเอพีได้สนับสนุนบุคลากรไปศึกษาดูงานที่ญี่ปุ่น รวมถึงนิสิตนักศึกษาฝึกงานที่เข้าร่วมหลักสูตรฝึกงานเอพี โอเพ่นเฮาส์ของ เอพี อะคาเดมี่ ในขณะที่ MEC ก็ส่งบุคคลากรมาเรียนรู้ดูงานกับทางเอพีเช่นกัน” คุณอนุพงษ์กล่าว
“ด้วยความพร้อมด้านทีมงานคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ และพันธมิตรคุณภาพ ผมเชื่อว่าเอพี ไทยแลนด์จะสามารถสร้างความแตกต่างและความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และยังคงเป็น 1 ใน 3 ผู้นำด้าน การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทย” คุณอนุพงษ์กล่าวสรุป
“เอพี ไทยแลนด์ กล้าที่จะแตกต่าง ผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย”