ด้วยความร้อนแรงของธุรกิจเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ และผู้บริหารรุ่นใหม่ๆ ทำให้กลุ่ม Mass Affluent กำลังเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ธนาคารต้องจับให้มั่น
หลังจากที่ธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง ทยอยเปิดตัวบริการใหม่ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า Mass Affluent เพราะมองว่า เป็นเทรนด์ ที่ทุกแบงก์มองว่ามีศักยภาพและกำลังเติบโตต่อเนื่อง
ล่าสุด ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ทุ่มงบ 150 ล้านบาท เปิดตัวบริการ เอสซีบี ไพรม์ (SCB PRIME) เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มผู้มีเงินฝากและ/หรือเงินลงทุน ตั้งแต่ 2 – 9.9 ล้านบาท
ที่ผ่านมา กลุ่มลูกค้าบุคคลของธนาคารไทยพาณิชย์ท็อปสุดจะเป็นกลุ่มลูกค้า SCB PRIVATE BANKING หรือผู้มีเงินฝาก และเงินลงทุนกับธนาคารตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป
รองลงมา คือ กลุ่มลูกค้า SCB FIRST หรือผู้ที่มีเงินฝากและเงินลงทุนกับธนาคารตั้งแต่ 10 ล้านขึ้นไป รวมลูกค้าประมาณ 50,000 ราย
รวมยอดสินทรัพย์ที่บริหาร (AUM) ในปัจจุบันมากกว่า 800,000 ล้านบาท
สำหรับปี 2560 ธนาคารเล็งเห็นเทรนด์การเติบโตอย่างต่อเนื่องของลูกค้ากลุ่มที่มีเงินฝาก และ/หรือเงินลงทุนตั้งแต่ 2 – 9.99 ล้านบาท ซึ่งมีอยู่ในตลาดอีกกว่า 500,000 ราย
ลูกค้ากลุ่มนี้ถือว่าเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จขั้นแรกในการทำธุรกิจ เอสเอ็มอี สตาร์ทอัท รวมถึงกลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งบริหารในองค์กร
ณรงค์ ศรีจักรินทร์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด Wealth Segment & Products and Retail Banking and Small SME Solutions ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า จุดหลักของบุคคลกลุ่มนี้จะภูมิใจในความสำเร็จขั้นแรกของชีวิต และต้องการที่จะยกระดับความสำเร็จสู่ขั้นต่อไป ดังนั้นบริการ SCB PRIME จึงต้องนำเสนอบริการให้ตรงกับต้องการทั้งการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเซ็กเมนต์นี้ให้รอบด้าน
ยกตัวอย่าง รับบัตรโดยสารสายการบินในประเทศฟรี 1 ครั้งต่อปี ห้องพักรับรองพิเศษ ที่สนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และสนามบินภูมิภาค ใช้บริการฟิตเนส เครื่องดื่มที่สตาร์บัคส์ทุกวันที่ 15 ของเดือน นาน 6 เดือน บริการที่ปรึกษาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน บนช่องทางดิจิทัล และบริการด่วนพิเศษเมื่อทำธุรกรรมที่สาขาธนาคาร
ธนาคารไทยพาณิชย์ ตั้งเป้าว่าจะมีผู้ให้ความสนใจร่วมเป็นสมาชิก SCB PRIME 100,000 คนภายในปีนี้
ทำไมต้องเป็น Mass Affluent
ก่อนหน้านี้ ธนาคากสิกรไทย เปิดตัวบริการ The Premier เพื่อเจาะกลุ่ม Mass Affluent หรือกลุ่มผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการรุ่นใหม่ ที่มีสินทรัพย์และลงทุนระหว่าง 2 – 10 ล้านบาท มีอายุ 30 – 40 ปี มีการเติบโตรวดเร็ว
โดยกสิกรไทยมองว่า กลุ่มนี้จะมีบุคลิกเฉพาะ ภาคภูมิใจกับความสำเร็จ กระตือรือร้น และทะเยอทะยาน ต้องการความสำเร็จยิ่งขึ้น
ในขณะที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย เปิดตัวบริการ กรุงศรีไพรม์ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า Mass Affluent ที่มีเงินฝากและเงินลงทุนตั้งแต่ 1 – 5 ล้านบาท ซึ่งต่อยอดไปยังผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้หลกหลาย
เช่นเดียวกับเกียรตินาคินภัทร ก็มองเห็นโอกาสจากการขยายตัวของลูกค้ากลุ่มใหม่ Mass Affluent ซึ่งมีพอร์ตการลงทุนตั้งแต่ 2 – 30 ล้านบาท โดยเป็นกลุ่มผู้บริหารระดับกลาง ที่มีเงินเดือนและฐานภาษีในอัตรา 20% และต้องการลงทุนใน LTF/RMF ซึ่งต้องการที่ปรึกษาที่เป็นโซลูชั่น แบบเดียวกับลูกค้ารายใหญ่ แต่มีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน