เปิดแผนยักษ์ใหญ่อสังหาฯญี่ปุ่น ชินวะ กรุ๊ป ปั้นแบรนด์“รูเนะสุ”ติดลมบน จับตลาดชาวญี่ปุ่นและผู้ที่ชื่นชอบการอยู่อาศัยแบบเรียล เจแปนิส เตรียมเปิดขายอย่างเป็นทางการ“รูเนะสุ ทองหล่อ 5” pilot project มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาทภายในไตรมาสแรก เล็งเปิดอีกโครงการบนทำเลศักยภาพ รวม 2 ปี 2 โครงการ มูลค่ากว่า 2,400 ล้านบาท มั่นใจนวัตกรรม Sigma BEAMลิขสิทธิ์เฉพาะตัวของโครงสร้าง RUNESU หนึ่งเดียวในโลกช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยถึง 40%
นายวิชัย จุฬาโอฬารกุล และ มร.โทโมยาสุ ยามาเบะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (co-CEO) บริษัท ดับเบิ้ลยู-ชินวะ จำกัด เปิดเผยว่าภายหลังมีข่าวประกาศขึ้นโครงการ “รูเนะสุ ทองหล่อ 5” ได้รับการตอบรับอย่างดีมากจากตลาด กลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจสอบถามข้อมูลเข้ามาอย่างน่าพอใจ ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการสร้างแบรนด์ “รูเนะสุ” ให้เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปในวงกว้าง ว่าเป็นคอนโดมิเนียมนวัตกรรมล้ำสมัยจากญี่ปุ่น โดยเฉพาะการใช้ Sigma BEAM ลิขสิทธิ์เฉพาะตัวของโครงสร้าง RUNESU หนึ่งเดียวในโลก ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ถึง 40% จากเทคโนโลยีการกลับคานเป็นพื้นและพื้นเป็นคาน ซึ่งภายหลังโครงการ pilot project ยังมีแผนการขึ้นโครงการต่อเนื่อง รวม 2 ปี 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2,400 ล้านบาท บนที่ดินศักยภาพย่านซีบีดี ซึ่งเป็นทำเลยอดนิยมของกลุ่มเป้าหมายทั้งชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในไทย และรวมถึงคนไทยหรือชาติอื่นที่นิยมการอยู่อาศัยแบบญี่ปุ่นจริงๆ
“ความลงตัวของการ joint venture โดยผู้ถือหุ้นไทยที่เป็นเจ้าของพื้นที่ รู้เรื่องกฎหมายการลงทุน กลยุทธ์การทำตลาด ในขณะที่ชินวะ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในวงการอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าจากญี่ปุ่น มีเครือข่ายการลงทุนแตกไลน์หลายสายงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ก้าวล้ำหน้าไปกว่าไทยนับสิบปี สำหรับโปรเจกต์แรกของการจับมือกัน นำนวัตกรรมการใช้ Sigma BEAMลิขสิทธิ์เฉพาะของโครงสร้าง RUNESU หนึ่งเดียวในโลกที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้ประโยชน์มากขึ้น นอกจากนั้นยังใส่ใจในรายละเอียดอื่นๆ เพื่อให้โครงการมีบรรยากาศและกลิ่นอายการอยู่อาศัยแบบญี่ปุ่นอย่างแท้จริง โดยจะเห็นได้จากการใช้ IAO TAKEDA บริษัทออกแบบชั้นนำจากญี่ปุ่นที่คว้าแชมป์อย่างต่อเนื่องหลายปี และอยากเชิญชวนสำหรับผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสกลิ่นอายโครงการแบบเรียล เจแปนิส ได้ด้วยตัวเอง ณ ที่ตั้งโครงการ ซึ่งจะตกแต่งห้องตัวอย่างและบรรยากาศจำลองตามคอนเซ็ปต์ เพื่อเปิดขายอย่างเป็นทางการภายในไตรมาสสองปีนี้ ” นายวิชัย กล่าว
ด้าน มร.โทโมยาสุ ยามาเบะ co-CEO บริษัท ดับเบิ้ลยู-ชินวะ จำกัด กล่าวว่า ชินวะ กรุ๊ป ก่อตั้งมาประมาณ 60 ปี สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองโอซาก้า เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีบริษัทในเครือมากมาย โดยในภาคการพัฒนาอสังหาฯนั้น มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่าอยู่ในระดับแถวหน้าของวงการ ธุรกิจที่พัฒนาครอบคลุมครบทุกประเภท อาทิ คอนโดมิเนียม, เซอร์วิส อพาร์ตเม้นท์, โรงแรม, การบริหารจัดการอาคาร, ออนเซน, ที่จอดรถอัตโนมัติ เป็นต้น สำหรับนโยบายขยายการลงทุนสู่ต่างประเทศ โดยเลือกเปิดตลาดที่ประเทศไทย เนื่องจากเชื่อมั่นในศักยภาพการลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ว่ามีอัตราการเติบโตที่น่าพอใจ การลงทุนในไทยจึงเป็นฐานที่มั่นคงแข็งแกร่งเพื่อต่อยอดสู่การพัฒนาในประเทศอื่นๆ เพราะไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีประเทศที่มีความน่าสนใจ เช่น ฟิลิปปินส์ เมียนมาร์ กัมพูชา นอกจากนั้นนโยบายขยายการลงทุนยังรวมถึงประเทศที่น่าสนใจอื่นๆ ทั้งอเมริกา และยุโรปอีกด้วย
“การร่วมทุนก่อตั้ง บริษัท ดับเบิ้ลยู-ชินวะ ถือเป็นการร่วมทุนครั้งแรกของชินวะ กรุ๊ป เป็นครั้งแรกที่เราขยายการลงทุนสู่ต่างประเทศ หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ในการพัฒนาโครงการในประเทศญี่ปุ่น มีประสบการณ์และผลงานมากมาย มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ว่าสร้างสรรค์โครงการคุณภาพ ไม่ใช้ กลยุทธ์เรื่องราคาเป็นตัวนำในการทำตลาด แม้ที่ผ่านมาประเทศไทยมีการเติบโตของภาคอสังหาฯอย่างต่อเนื่อง แต่ชินวะ กรุ๊ป จะนำเทคโนโลยีที่มีอยู่มากมายในมือ มาสร้างโอกาสในการพัฒนาโครงการ และนโยบายการทำตลาดของกลุ่มบริษัทแม่ จะมีทั้งพื้นที่เพื่อขายและเก็บไว้บางส่วนเพื่อบริหารงานแบบให้เช่า สำหรับโครงการ รูเนะสุ ทองหล่อ 5 มั่นใจว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกของภูมิภาคเอเชีย ไม่ซ้ำแบบใครแน่นอน” มร.ยามาเบะกล่าว
โครงการรูเนะสุ ทองหล่อ 5 ดำเนินงานโดย บริษัท ดับเบิ้ลยู-ชินวะ จำกัด ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 1 ไร่ ในซอยทองหล่อ 5 เป็นคอนโดมิเนียมโลวไรส์ 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 156 ยูนิต มี 2 type ให้เลือก ทั้งขนาด 1 และ 2 ห้องนอน พื้นที่ 29-65 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท ออกแบบโครงการและฟังก์ชั่นการใช้งานให้มีบรรยากาศการอยู่อาศัยแบบญี่ปุ่นแท้จริง เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการอสังหาฯในไทย ทั้งการใช้วัสดุก่อสร้าง-ตกแต่งบางส่วนนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น อาทิ ห้องน้ำระบบใหม่ที่พื้นสามารถแห้งได้อย่างรวดเร็วภายใน 3 นาที, Kara Kara Tileสุดยอดกระเบื้องเทคโนโลยีใหม่จากญี่ปุ่นที่ช่วยควบคุมความชื้นและป้องกัน ไรฝุ่นภายในห้องนอน เป็นต้น
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกครบสมบูรณ์ ด้วยสวนญี่ปุ่น สระว่ายน้ำ ออนเซนต้นตำรับแท้จากญี่ปุ่น ที่ฝึกซ้อมกอล์ฟ Auto Parking ระบบรักษาความปลอดภัย ฯลฯ กำหนดเปิดขายอย่างเป็นทางการ ไตรมาส 2 ปี 2560 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างไตรมาส 3 ปี 2560 แล้วเสร็จไตรมาส 4 ปี 2561 มูลค่าโครงการกว่า1,200 ล้านบาท