“นุ่น วรนุช” ปั้นแบรนด์ “วอร์ร่า” บุกธุรกิจบิวตี้ไลน์ วางยุทธศาสตร์เชิงรุก บุกตลาดแดนมังกร-อาเซียน

“นุ่น วรนุช” รุกขยายธุรกิจส่วนตัวรับศักราชใหม่ ผุดแบรนด์ “วอร์ร่า” ลุยตลาดสกินแคร์ รับพฤติกรรมผู้บริโภคใส่ใจดูแลผิวพรรณ เดินเกมตลาดบุกช่องทางจำหน่ายออนไลน์เจาะตลาดในประเทศ พร้อมผนึก “ไทยพาวิลเลี่ยน คอร์ปอเรชั่น” เจาะขุมทรัพย์ตลาดแดนมังกร ก่อนขยายกลุ่มประเทศ CLMV และอาเซียน

นางวรนุช ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอร์ร่า เวิลด์ไวด์ จำกัด ผู้ก่อตั้งและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณแบรนด์ “วอร์ร่า” เปิดเผยว่า เนื่องจากพื้นฐานส่วนตัวที่ชื่นชอบและสนใจธุรกิจผลิตภัณฑ์ความงาม ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ (สกินแคร์) เป็นระยะเวลานาน 7-8 ปี แต่ด้วยประสบการณ์ และองค์ความรู้ ตลอดจนการเข้าใจตลาดยังไม่ถ่องแท้มากนัก ทำให้ต้องเดินหน้าศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและตลาดสกินแคร์อย่างจริงจัง กระทั่งมีความพร้อมมากขึ้น ทำให้ช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ทำการวิจัยและพัฒนาสินค้าสกินแคร์อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด ด้วยศักยภาพเศรษฐกิจ ตลาดสกินแคร์ และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น รวมทั้งบริษัทมีความพร้อมด้านผลิตภัณฑ์ การตลาด และช่องทางจำหน่ายสินค้า จึงได้เปิดตัวสินค้าสกินแคร์ใหม่ภายใต้แบรนด์ “วอร์ร่า” เข้ามาทำตลาดอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ จุดเด่นของสินค้าเริ่มจากการวิจัยและพัฒนาสินค้า การคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพระดับโลก มาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ขณะเดียวกัน ด้านแบรนด์วอร์ร่า ก็มีความได้เปรียบในการทำตลาด โดยส่วนตัวถือเป็นนักแสดงที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงมานาน และตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้ากลุ่มสกินแคร์ จึงคาดว่าจะช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ได้

ส่วนกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ การทำตลาด การจัดจำหน่ายและกระจายสินค้า เบื้องต้น บริษัทจะใช้ตนเองเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ สร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ให้กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย โดยหลักๆ เป็นผู้หญิงกลุ่มอายุระหว่าง 18-45 ปี ด้านการทำตลาดจะเน้นสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ และมีการจัดโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อจูงใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งในเดือนแรก บริษัทได้จำหน่ายสินค้าราคา 2,480 บาท นอกจากนั้นจะมีกิจกรรมการตลาด เพื่อสนับสนุนการขายในช่วงเวลาต่างๆ

สำหรับการจำหน่ายสินค้าที่เริ่มขายผ่านช่องทางออนไลน์ ได้แก่ ไลน์ (LINE) เฟสบุ๊ค (Facebook) ซึ่งมีฐานแฟนเพจของนุ่น วรนุชกว่า 2 แสนราย และแฟนเพจเฟสบุ๊คของแบรนด์วอร์ร่า รวมถึงอินสตราแกรม (Instagram:IG) ที่มีฐานแฟนคลับทั้งชาวไทยและต่างชาติมากกว่า 3.1 ล้านราย

“บริษัทได้ทุ่มงบประมาณ 20 ล้านบาท ในการวิจัยและพัฒนาสินค้าตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา และเตรียมงบประมาณอีก 20% ของยอดขาย เพื่อใช้ในการทำตลาดและประชาสัมพันธ์สินค้า ส่วนเป็นดารา นักแสดง การสร้างแบรนด์หลายคนอาจมองว่าง่าย ก็ยอมรับว่ามีข้อดีในด้านการประชาสัมพันธ์สินค้า ที่ผู้บริโภคสามารถกดไลค์ กดแชร์รูปได้ทันที แต่โดยภาพรวมการสร้างแบรนด์ส่วนมองว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกอย่างต้องใช้เวลา รอจังหวะและโอกาสให้ทุกอย่างมีความพร้อม เหมาะสม และการสร้างแบรนด์วอร์ร่าครั้งนี้ บริษัทต้องการให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ไม่ใช่ระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ทำให้ที่ผ่านมา นอกจากดำเนินการวิจัยและพัฒนาสินค้าแล้ว บริษัทได้จดลิขสิทธิ์แบรนด์ เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบด้วย โดยเฉพาะในต่างประเทศ”

นางวรนุช กล่าวอีกว่า นอกจากช่องทางออนไลน์ บริษัทยังเตรียมแผนจะขยายสู่ช่องทางขายในรูปแบบตัวแทนจำหน่ายด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างคัดเลือกผู้ที่มีศักยภาพ และจุดแข็งด้านเครือข่ายจำหน่าย โดยจะไม่เน้นรับตัวแทนจำหน่ายจำนวนมาก เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดปัญหาการตัดราคาสินค้า เพราะจะส่งผลกระทบต่อแบรนด์ในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนขยายตลาดสกินแคร์แบรนด์วอร์ร่า บุกตลาดต่างประเทศด้วย ประเดิมประเทศจีนเป็นลำดับแรก เนื่องจากพิจาณาจากศักยภาพตลาดที่มีขนาดใหญ่ และในฐานะนักแสดง ก็มีแฟนคลับแดนมังกรอยู่ระดับหนึ่ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำตลาดได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน บริษัทได้ผนึกกับพันธมิตรอย่าง “บริษัท ไทยพาวิลเลี่ยน คอร์ปอเรชั่น จำกัด” ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าจากไทย ซึ่งมีช่องทางจำหน่ายร้านค้าปลีกของตนเองประมาณ 7 แห่ง รวมทั้งมีความสามารถในการกระจายสินค้าผ่านเครือข่ายร้านค้าย่อยอื่นในจีนได้ด้วย

ส่วนในภูมิภาคอาเซียน บริษัทได้ให้ความสำคัญกับกลุ่มประเทศ CLMV และประเทศจีนคาดว่าจะเริ่มทำตลาดตั้งแต่กลางปี 2560 เป็นต้นไป และในปีหน้าจะเห็นเข้าไปบุกตลาดเมียนมาเพิ่มเติม

“การจะไปบุกต่างประเทศได้ สิ่งที่บริษัทต้องทำอย่างแรกคือต้องสร้างชื่อสร้างแบรนด์วอร์ร่าให้เป็นที่รับรู้ ยอมรับ และแข็งแกร่งในตลาดประเทศไทยก่อน จากนั้นจึงจะค่อยๆขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้บริษัทมีการวางแผนธุรกิจรองรับไว้บ้าง เช่น การจดลิขสิทธิ์แบรนด์ ในหลายประเทศ เช่น ลาว กัมพูชา เมียนมา ประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบ รวมทั้งจีน เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ”

“ความท้าทายในการทำธุรกิจ คือเรื่องการลงทุนที่มีความแตกต่างกัน การเป็นนักแสดงถือเป็นการนำตัวเองไปลงทุน ทำงานให้คนอื่น เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนกลับมา ขณะที่การทำธุรกิจส่วนตัว ต้องผ่านกระบวนการคิด วิเคราะห์ สำรวจ เสาะหาข้อมูลสินค้า การตลาด สร้างแบรนด์ โลโก้ บรรจุภัณฑ์ คอนเซ็ปต์สินค้า การเลือกช่างภาพ การถ่ายภาพ ทุกอย่างที่มีผลต่อแบรนด์วอร์ร่าจะต้องลงลึกในทุกรายละเอียด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ออกมามีคุณภาพตอบโจทย์ผู้บริโภค”