‘เอพี’ และ ‘มิตซูบิชิ เอสเตท’ จับมือพันธมิตรแข็งแกร่งต่อเนื่องปีที่ 4 ครั้งแรกของวงการอสังหาฯ ไทย เดินหน้าจัดตั้งบริษัทแม่ทุนจดสูงสุดถึง 6,100 ล้าน

  • รายแรกของการร่วมทุนพัฒนาอสังหาฯ ในไทย ที่มีโครงสร้างการบริหารงานที่แตกต่าง
  • เติบโตต่อเนื่อง คาด 4 ปีพัฒนาโครงการร่วมกันมูลค่ากว่า 47,000 ล้านบาท
  • ครึ่งปีแรกนี้ เตรียมเปิดตัว 2 โครงการใหญ่ – Life วัน ไวร์เลส และ Life ลาดพร้าว
  • ยกระดับความร่วมมือภายใต้แนวคิด ‘AP Think Different’ สร้างความแตกต่างทั้งด้าน “นวัตกรรมสเปซและเทคโนโลยี” “องค์ความรู้และที่อยู่อาศัยคุณภาพ” รวมถึง “คุณภาพชีวิต สังคมและชุมชน”
  • ผสานแนวคิด AP Digital Community เข้ากับการออกแบบสเปซ ตอบชีวิตดิจิตอลของคนเมือง พร้อมพัฒนา ‘AP Checklist’ เครื่องมือตรวจสอบคุณภาพทุกขั้นตอน

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนเมือง ที่มุ่งสร้างความแตกต่างด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมดีไซน์เพื่อพื้นที่ใช้สอยที่ไม่จำกัด แถลงความสำเร็จครบรอบ 3 ปีความร่วมมือระหว่างสองผู้พัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำ “เอพี ไทยแลนด์” และ “มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป” (หรือ MEC) เผยแนวทางการดำเนินงานร่วมกันภายใต้กลยุทธ์ ‘AP Think Different’ เพื่อมุ่งพัฒนาความร่วมมือที่ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น

ตลอดระยะเวลา 3 ปีของความร่วมมือมากกว่าเรื่องของการลงทุนนั่นคือ ความเชื่อมั่นที่ทางมิตซูบิชิ เอสเตทมีต่อเอพีและประเทศไทย ดังจะเห็นได้จากโครงสร้างการดำเนินธุรกิจที่เอพีและมิตซูบิชิ เอสเตท เป็นพันธมิตรรายแรกที่มีโมเดลการร่วมทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่แตกต่างจากรายอื่น คือ การจัดตั้งบริษัทแม่ในไทย ด้วยทุนจดทะเบียนที่สูงถึง 6,100 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ “บริษัท พรีเมียม เรสซิเดนท์ จำกัด” เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการโครงการภายใต้การร่วมทุน โดยทางมิตซูบิชิ เอสเตทได้ส่งทีมงานจากญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มานั่งทำงานประจำร่วมกับทีมงานเอพีอีกด้วย

ทั้งนี้ ในปี 2560 ซึ่งก้าวสู่ปีที่ 4 ของการร่วมทุน ทั้งเอพีและ MEC เรายังคงวางแผนพัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งปีแรกเราพร้อมเปิดตัว 2 โครงการใหญ่แห่งปี ได้แก่ Life วัน ไวร์เลส และ Life ลาดพร้าว และบริษัทฯ ยังมีแผนเปิดตัวโครงการอื่นๆ อีกซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกัน ซึ่งจากการร่วมทุนครั้งแรกเมื่อปี 2557 จนถึงวันนี้เอพีและมิตซูบิชิ เอสเตท พัฒนาโครงการร่วมกันมูลค่าสูงถึง 47,000 ล้านบาท

ตลอดระยะเวลา 3 ปี เอพีและ MEC ร่วมกัน “สร้างความแตกต่าง” ด้วยการพัฒนาคอนโดมิเนียมมาแล้วทั้งสิ้น 8 โครงการ มูลค่ารวม 27,000 ล้านบาท ทั้ง 8 โครงการมียอดขายรวมเฉลี่ย 85% และในไตรมาส 4 ของปี 2559 ถือเป็นครั้งแรกที่โครงการภายใต้การร่วมทุนก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่มากถึง 4 โครงการ ได้แก่ (1) RHYTHM สุขุมวิท 36 – 38 (2) ASPIRE รัชดา – วงศ์สว่าง (3) ASPIRE สาทร – ท่าพระ (4) RHYTHM อโศก 2 โดยทั้ง 4 โครงการมีสัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ถือว่าสร้างความน่าพึงพอใจได้เป็นอย่างมากทั้งสำหรับเอพี และ MEC

คุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า “ผมมีความยินดีอย่างยิ่งที่ ‘เอพี ไทยแลนด์’ และ ‘มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป’ ได้ดำเนินธุรกิจร่วมกันตลอดระยะเวลา 3 ปีของความร่วมมือ มากกว่าเรื่องของเมล็ดเงินคือการได้ร่วมลงทุนในด้านองค์ความรู้ที่ครอบคลุมการพัฒนาที่อยู่อาศัย การพัฒนาความรู้และเทคโนโลยีอย่างเข้มข้นและจริงจัง ไปจนถึงการร่วมยกระดับมาตรฐานวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยอีกด้วย ซึ่งแต่ละฝ่ายต่างมีจุดแข็งที่ส่งเสริมซึ่งกันและกันคือ MEC ได้ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญในด้านดีไซน์และการออกแบบสเปซ รวมถึงกระบวนการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน ในส่วนของเอพีก็ได้แบ่งปันและให้คำแนะนำหลักการดำเนินธุรกิจอสังหาฯ ในประเทศไทยให้กับ MEC ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นมิตรภาพและความร่วมมือที่ก้าวหน้าและแข็งแกร่งยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 4 แห่งความร่วมมือ เรายังคงเน้นการดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ “AP Think Different” ซึ่งเป็นแนวทางหลักในการทำธุรกิจของเอพี และยังจะได้นำมาใช้กับการยกระดับความร่วมมือระหว่างเอพีและ MEC ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ (1) นวัตกรรมสเปซและเทคโนโลยี มุ่งมั่นที่จะสร้างความแตกต่างในเรื่องพื้นที่ใช้สอยและความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิต (2) องค์ความรู้และผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ อันจะนำไปสู่อุดมการณ์ยิ่งใหญ่ร่วมกันในการยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย (3) ร่วมกันสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต สังคมไทยและชุมชน อันนำไปสู่ “การใช้ชีวิตคุณภาพ” ให้กับลูกบ้านและสังคมภายนอกต่อไป

มร. โชจิโร โคจิมา กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย ในนามของมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป กล่าวว่า “บริษัทฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ ‘เอพี ไทยแลนด์’ บริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย องค์กรที่มีทีมงานที่เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ และมีระบบการทำงานที่ยอดเยี่ยม ซึ่งผลจากการร่วมมือกันถือเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมาก ทั้งในส่วนของยอดขายและการโอนกรรมสิทธิ์”

มร. โคจิมา กล่าวเสริมว่า “สำหรับแนวทางการดำเนินงานจากวันนี้ไป ประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในเป้าหมายในการลงทุนสำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในเรื่องของการเติบโต และโอกาสในการลงทุน ด้วยแผนการพัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคมอย่างรถไฟฟ้าที่ส่งผลต่ออัตราการขยายตัวของชุมชมเมืองใหม่ๆ โดยเฉพาะคอนโดมิ เนียมติดแนวรถไฟฟ้าในเมืองที่เอพีเป็นผู้นำและเป็นเจ้าตลาด”

“ปัจจัยต่างๆ ดังกล่าว ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมีความน่าสนใจ โดยเรายังคงลงทุนร่วมกับทางเอพีอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2560 นี้เราตั้งเป้าจะพัฒนาโครงการร่วมกับเอพีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท” มร. โคจิมา กล่าว

ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 4 แห่งความร่วมมือ เอพียังคงเน้นการดำเนินกลยุทธ์ “AP Think Different” ซึ่งเป็นแนวทางหลักในการทำธุรกิจของเอพี และยังจะได้นำมาใช้กับการยกระดับความร่วมมือระหว่าง เอพีและ MEC ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่

1. นวัตกรรมสเปซและเทคโนโลยี : เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความแตกต่างในเรื่องพื้นที่ใช้สอยพร้อมด้วยความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตภายในโครงการที่อยู่อาศัยแบรนด์เอพี ผ่านการผสานวิสัยทัศน์เรื่อง AP Digital Community ที่จะเข้ามาส่งเสริมให้รูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในโครงการเอพีให้สะดวกสบาย ด้วยการผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยภายใต้แนวคิด IOT (Internet of Things) เข้ากับการออกแบบสเปซ จากวันนี้ไปการออกแบบสเปซจะไม่โฟกัสเฉพาะภายในยูนิตพักอาศัยเท่านั้น แต่ต้องใส่ใจในทุกรายละเอียดของพื้นที่ที่อยู่นอกห้อง คอนโดใหม่ๆ ของเอพีจากนี้ไปจะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่เรานำเรื่อง IOT เข้ามาคิดร่วมในการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางเยอะมาก เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์การอยู่อาศัยในอนาคตของคนเมือง

2. องค์ความรู้และผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ : การแลกเปลี่ยน “เทคนิค” ต่างๆ ระหว่างเอพีและ MEC จะเป็นไปในทิศทางที่เจาะลึกมากยิ่งขึ้นในหลายระดับ หนึ่งในนั้นคือ การพัฒนา AP Check List ที่ร่วมกับทีมดีไซน์เนอร์และทีมตรวจสอบคุณภาพงานจากทาง MEC ซึ่ง AP Check List จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการควบคุมมาตรฐานในการพัฒนาโครงการ ที่เริ่มตั้งแต่กระบวนการออกแบบ ไปจนถึงการตรวจสอบคุณภาพงาน ซึ่งกำลังจะเสร็จสมบูรณ์ในเร็วๆ นี้ รวมถึงการให้ความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรการอบรมร่วมกับสถาบันเอพี อะคาเดมี่ สถาบันเพื่อการเรียนรู้ครบวงจรด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกในเมืองไทย และโปรแกรม ‘AP Open House’ ที่ส่งเสริมให้นักศึกษาฝึกงานของเอพีได้มีโอกาสเรียนรู้และได้ลงสนามจริงกับพันธมิตรชาวญี่ปุ่นด้วย ณ ประเทศญี่ปุ่น

3. คุณภาพชีวิต สังคมและชุมชน : การทำงานร่วมกันระหว่างเอพีและ MEC ใน ‘AP Design Lab’ ไม่เพียงนำความแตกต่างมาสู่ผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยของเอพีเท่านั้น แต่เรายังได้ต่อยอดไปสู่การส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับสังคมและชุมชนอีกด้วย โดยหนึ่งในความสำเร็จที่นำความภาคภูมิใจมาให้เราและประเทศไทยคือโครงการสนามฟุตบอล และสำหรับปีนี้ เราและทาง MEC ยังคงร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ที่นำมาซึ่ง “การใช้ชีวิตคุณภาพ” ให้กับลูกบ้านและสังคมภายนอกต่อไป

“จากก้าวแรกของการร่วมทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ร่วมกัน ในวันนี้เราภาคภูมิใจที่ได้เห็นมิตรภาพระหว่างเอพีและ MEC เจริญงอกงามในด้านอื่นๆ ด้วย ไม่มีอะไรที่จะน่าภาคภูมิใจมากไปกว่าการที่เอพีและเพื่อนร่วมอุดมการณ์ได้ ‘สร้างความแตกต่าง’ ภายใต้ passion เดียวกันที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมที่อยู่อาศัยคุณภาพเพื่อยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย” คุณอนุพงษ์กล่าว

“เอพี ไทยแลนด์ กล้าที่จะแตกต่าง ผู้นำด้านนวัตกรรมการดีไซน์ เพื่อการอยู่อาศัยในเมือง”