เอทิฮัด เอวิเอชั่น กรุ๊ป ประกาศขั้นตอนการเปลี่ยนผ่านตำแหน่งประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

เจมส์ โฮแกนจะยุติบทบาทในฐานะประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารในครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2560 คณะกรรมการของเอทิฮัด เอวิเอชั่น กรุ๊ป ได้ประกาศในวันนี้ว่า นายเจมส์ โฮแกน จะลงจากตำแหน่งประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทในครึ่งปีหลังของ พ.ศ. 2560 โดยคณะกรรมการและ นายโฮแกนได้ เริ่มกระบวนการเปลี่ยนผ่านนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ในช่วงการก่อตั้งเอทิฮัด เอวิเอชั่น กรุ๊ป ซึ่งเป็นองค์กรด้านการบินและการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย เมื่อเดือนพฤษภาคม

ฯพณฯ โมฮัมเหม็ด มูบารัค ฟาดเฮล อัล มัซรูอี ประธานคณะกรรมการของเอทิฮัด เอวิเอชัน กรุ๊ป ได้แสดงความเห็นถึงช่วงเวลาที่นายโฮแกน อยู่กับเอทิฮัด ว่า “เรารู้สึกขอบคุณเจมส์ ในช่วงเวลาสิบปี เขาได้ดูแลการเติบโตของบริษัท จากสายการบินระดับภูมิภาคที่มีเครื่องบินเพียง 22 ลำ ไปสู่สายการบินระดับโลกที่ฝูงบิน 120 ลำ และกลุ่มการบินระดับโลก ด้วยการเข้าไปเป็นหุ้นส่วนพันธมิตร ในสายการบิน 7 แห่ง ที่ให้บริการผู้โดยสารรวมกันแล้วกว่า 120 ล้านคนในแต่ละปี นี่เป็นธุรกิจที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่การบริการและนวัตกรรม ภายใต้การนำของเขา บริษัทได้มอบโอกาศใหม่ ๆ นับพันให้แก่ชาวเอมิเรตส์ และได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญในความก้าวหน้าของกรุงอาบู ดาบีและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เรายังรอคอยให้เจมส์นั้นยังคงสัมพันธ์กับอาบู ดาบี ในทางใหม่ ๆ”

นายเจมส์ โฮแกน กล่าวว่า “ผม พร้อมทั้งคณะกรรมการและเพื่อนร่วมงาน 26,000 คน เรานั้นภูมิใจในสิ่งที่เราได้สร้างร่วมกันที่เอทิฮัดและการที่บริษัทได้ส่งต่อให้แก่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และการพัฒนาของกรุงอาบู ดาบี ทศวรรษที่ผ่านมานั้นเป็นผลงานที่น่าอัศจรรย์ แต่นี่เป็นเพียงแค่บทแรกของเรื่องราวของเอทิฮัด”

ฯพณฯ มัซรูอี ได้กล่าวถึงความสำคัญลำดับแรกสำหรับธุรกิจในปัจจุบันว่า “เพื่อให้บริษัทอยู่ในตำแหน่งที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในตลาดที่ท้าทาย คณะกรรมการและทีมผู้บริหารจะยังดำเนินการดูแลกลยุทธ์ทั่วทั้งธุรกิจต่อไป เราต้องทำให้มั่นใจได้ว่าสายการบินนั้นมีขนาดและรูปร่างที่ถูกต้อง เราต้องปรับปรุงประสิทธิภาพของต้นทุน การผลิตและรายได้อย่างต่อเนื่อง เราต้องมีความก้าวหน้าและปรับพันธมิตรสายการบินที่เข้าไปถือหุ้นที่เรามีอยู่ให้เข้ากับกลยุทธ์

เมื่อเดือนที่แล้ว สายการบินเอทิฮัดได้เผยถึงแผนที่จะสร้างกลุ่มสายการบินเพื่อการพักผ่อนของยุโรปแห่งใหม่ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับตุย เอจี ข้อตกลงเที่ยวบินร่วมกับลุฟท์ฮันซาและข้อตกลงในการเช่าเครื่องบินระหว่างแอร์เบอร์ลินและลุฟท์ฮันซานั้นก็ถูกประกาศออกมาเช่นกัน ในฐานะหุ้นส่วนข้างน้อย เอทิฮัดก็ยังมีส่วนร่วมในช่วงต่อไปของแผนการปรับโครงสร้างของอลิตาเลีย

ฯพณฯ มัซรูอี ยังกล่าวเสริมว่า “เอทิฮัดนั้นเป็นธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ด้วยรากฐานที่แข็งแรงและทีมบริหารสายการบินและธุรกิจการบินที่มีประสบการณ์ คุณสมบัติเหล่านี้พร้อมกับองค์กรที่ตั้งตัวได้ นั้นมอบความคล่องตัวและเพิ่มการมุ่งเน้นในขณะที่เอทิฮัดก้าวเข้าสู่ช่วงต่อไปของการพัฒนา”

นายโฮแกน นั้น จะเข้าร่วมในบริษัทด้านการลงทุนพร้อมด้วยประธานเจ้าหน้าที่การเงินของเอทิฮัด เอวิเอชั่น กรุ๊ป นายเจมส์ ริกนีย์ ซึ่งจะออกจากบริษัทไปภายหลังในปีนี้เช่นกัน การค้าหาผู้มาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่การเงินคนใหม่จากทั่วโลกนั้นกำลังดำเนินการ

กลุ่มเอทิฮัด เอวิเอชั่น กรุ๊ปนั้นได้พัฒนาโครงสร้างของผู้บริหารระดับสูงที่มีความเข้มแข็งในเชิงลึก นำโดยทีมอาวุโสที่มีการยอมรับอย่างสูง ทีมนี้รวมถึง นายปีเตอร์ บอมการ์ทเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและนาย ริชาร์ด ฮิลล์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของสายการบินเอทิฮัด นายบรูโน มาทิว ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ แอร์ไลน์ อิควิตีพาร์ทเนอร์ และนายเจฟ วิลกินสัน ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอทิฮัด แอร์เวย์ส เอ็นจิเนียริ่ง ดาเร็น ไพส์ลีย์นั้นเป็นรักษาการกรรมการผู้จัดการของฮาลา ซึ่งเป็นหน่วยด้านการตลาดจุดหมายปลายทางและด้านความผูกพันระดับโลก การเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่โครงสร้างของกลุ่มในขั้นต่อไปนั้นได้ประกาศมาก่อนหน้านี้ในเดือนนี้  โดยการจัดตั้งเอทิฮัด แอร์พอร์ท เซอร์วิสเซส นำโดยกรรมการผู้จัดการคริส ยูลเท็น

นอกเหนือไปจากนั้นผู้นำของกลุ่มที่เป็นหัวหน้าการทำงานหลักของบริษัทนั้นได้แก่ เควิน ไนท์ ฝ่ายกลยุทธ์และวางแผน เรย์ แกมเมล ฝ่ายบุคคลและประสิทธิภาพ ร็อบ เว็บบ์ ฝ่ายเทคโนโลยีและนวัตกรรม และฮาร์ช โมฮาน ฝ่ายการบริหาร

เรื่องราวที่โดดเด่นตั้งแต่ พ.ศ. 2549-2559

  • นายโฮแกน เข้าบริหารสายการบินเอทิฮัดในปี พ.ศ. 2549 ด้วยหน้าที่ที่จะพัฒนาสายการบินที่ปลอดภัยและดีที่สุด ปฏิบัติการด้วยหลักการด้านการพาณิชย์ที่ยั่งยืน และส่งต่อความสำเร็จของเศรษฐกิจของอนาคตของอาบู ดาบี
  • กลุ่มสายการบินนั้นปฏิบัติการด้วยพันธกิจหลักด้านความปลอดภัย สายการบินนั้นได้มีสถิติด้านความปลอดภัยร้อยละ 100 ภายใต้การดูแลของ นายโฮแกน และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสิบสายการบินที่ดีที่สุดในโลก เมื่อเดือนมกราคม  พ.ศ. 2560
  • การปฏิบัติการของสายการบินหลักในปัจจุบันนั้นให้บริการผู้โดยสาร 18.5 ล้านคน บินไปยังจุดหมาย 112 แห่ง ด้วยฝูงบิน 120 ลำ และมีคำสั่งซื้ออีก 178 ลำ และได้รับการขนานนามว่าเป็นสายการบินชั้นนำของโลก จากเวิล์ด ทราเวล อวอร์ด ในแต่ละปี ของตลอด 8 ล่าสุดที่ผ่านมา และเมื่อเร็ว ๆ นี้นั้นได้รับการยอมรับจากสกายแทรกซ์ว่าเป็นหนึ่งในสายการบินระดับ 5 ดาว ซึ่งมีเพียง 9 แห่งในโลก สายการบินนั้นได้รับรางวัลอันทรงค่าจากแอร์ทรานสปอร์ตเวิล์ดว่าเป็นสายการบินแห่งปี พ.ศ. 2559
  • กลยุทธ์ของการเข้าไปลงทุนถือหุ้นส่วนข้างน้อยในพันธมิตรกลยุทธ์ที่สำคัญ – แอร์เซอร์เบีย แอร์เซเชลส์ แอร์เบอร์ลิน อลิตาเลีย เอทิฮัด รีเจียนอล เจ็ทแอร์เวย์ส และเวอร์จินออสเตรเลีย ได้กลายเป็นกลุ่มสายการบินที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของโลก ให้บริการผู้โดยสาร 120 ล้านคนต่อปี ด้วยฝูงบินมากกว่า 700 ลำ ไปยังจุดหมายปลายทางที่แตกต่างกัน 350 แห่ง
  • การทำเที่ยวบินร่วมและพันธมิตรจากการถือหุ้นนั้นเป็นปัจจัยหลักของการเติบโต และมีการส่งต่อผู้โดยสาร 5.5 ล้านคน ให้กับเที่ยวบินของสายการบินเอทิฮัดในปี พ.ศ. 2559
  • การปฏิบัติการที่หลากหลายของเอทิฮัด เอวิเอชั่น กรุ๊ป นั้นครอบคลุมธุรกิจที่หลากหลาย ซึ่งแต่ละอย่างก็มีความสำคัญในตัวเอง ซึ่งได้แก่ เอทิฮัด คาร์โก้ เอทิฮัด เอ็นจิเนียริ่ง ฮาลา อาบู ดาบี เอทิฮัด แอร์พอร์ท เซอร์วิสเซส วิทยาลัยการบินเอทิฮัด และโกลบอล ลอยัลตี้ คอมเพนี ซึ่งได้นำความหลากหลายของรายการสะสมคะแนนสำหรับผู้เดินทางเป็นประจำเข้าด้วยกัน เพิ่มเติมกับการปฏิบัติการหลักของสายการบินเอทิฮัด
  • กลุ่มธุรกิจปัจจุบันมีพนักงานกว่า 26,000 คน และโครงการทำให้มีความเป็นชาวเอมิเรตส์ที่ได้รับรางวัลในบทบาทที่ได้ช่วยเพิ่มจำนวนพนักงานชาวเอมิเรตส์ทั้งนักบินฝึกหัด วิศวกรเทคนิค ผู้จัดการปริญญา ที่เพิ่มจำนวนชาวเอมิเรตส์จาก 100 คนเมื่อ นายโฮแกน มาเข้าร่วมงานให้กลายเป็น 3000 คนในปัจจุบัน
  • ประมาณการว่าระหว่างปี พ.ศ. 2559 กลุ่มนั้นได้สร้างมูลค่าด้านธุรกิจหลักให้แก่รัฐอาบู ดาบี มากกว่า 9.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดหวังว่าจะเติบโตเป็น 18.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2567 และได้มีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับองค์กรการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม รวมไปถึงผู้ถือหุ้นรายสำคัญในการพัฒนาอาบู ดาบีและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลกสำหรับนักเดินทางเพื่อธุรกิจและการท่องเที่ยว