แอมเวย์สร้างสถิติใหม่ ด้วยยอดขาย 17,500 ล้านบาท โตเกือบ 6% ย้ำกลยุทธ์โปรดักส์โซลูชั่น นำความสำเร็จสู่ธุรกิจ

แอมเวย์ประเทศไทยเผยความสำเร็จอีกครั้ง ด้วยยอดขายที่เป็นสถิติใหม่สูงสุดตลอดการดำเนินธุรกิจมานาน 30 ปี โดยปิดปี 2559 ที่ 17,500 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 5.7% ชูกลยุทธ์โปรดักส์โซลูชั่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม ควบคู่กับการพัฒนานักธุรกิจแอมเวย์ให้แข็งแกร่งอย่างมืออาชีพ พร้อมย้ำให้ผู้บริโภคได้มีประสบการณ์ตรงกับผลิตภัณฑ์

นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปี 2559 แอมเวย์ประเทศไทยมียอดขาย 17,500 ล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดตลอดการดำเนินธุรกิจมานาน 30 ปี โดยเติบโตขึ้น 5.7% และ 80% มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม โดยกลุ่มที่สร้างยอดขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิวทริไลท์ 2) เครื่องกรองน้ำและเครื่องกรองอากาศ 3) เครื่องสำอางอาร์ทิสทรี ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้มาจากกลยุทธ์โปรดักส์โซลูชั่น ซึ่งเป็นการผสานคุณภาพเวิลด์คลาสของผลิตภัณฑ์กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เหมาะสมของผู้บริโภค เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าเฉพาะกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพอันจะสร้างความประทับใจต่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์ในระยะยาว”

“อีกปัจจัยหลักที่ทำให้ธุรกิจแอมเวย์เติบโตขึ้นคือ ความเป็นมืออาชีพของนักธุรกิจแอมเวย์ที่สามารถให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่ มีความรู้อย่างดีในเรื่องของผลิตภัณฑ์ ทำให้ตนเองเป็นผลิตผลของผลิตภัณฑ์ หรือเป็นตัวอย่างของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เห็นผลได้จริง และสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์พร้อมแนะนำโซลูชั่นให้ผู้บริโภคได้ จึงช่วยสร้างความมั่นใจและเป็นแรงบันดาลใจแก่ลูกค้า ทำให้เกิดการบริโภคผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง”

“จากผลสำเร็จที่ผ่านมา บริษัทเชื่อมั่นในกลยุทธ์ที่วางไว้ พร้อมจะเดินหน้าสานต่อแผนงานอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยนำผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิดมาจัดกลุ่มโซลูชั่นให้เหมาะกับความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งเพิ่มศักยภาพของเครือข่ายการสื่อสารออนไลน์ให้ครอบคลุมกลุ่มคนที่มากขึ้น และนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล เพื่อให้เกิดประสบการณ์ตรงกับผลิตภัณฑ์หรือกิจกรรมที่บริษัทจัดขึ้น รวมทั้งมุ่งเน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะกลายเป็นกำลังสำคัญในการบริโภคหรือมาเข้าร่วมเป็นนักธุรกิจแอมเวย์เพื่อสร้างธุรกิจของตนเองต่อไป ซึ่งคาดว่าปีนี้จะเป็นปีที่มียอดขายเติบโตเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา” นายกิจธวัช กล่าวทิ้งท้าย