ดีแทคภูมิใจ “Go No Limit – ซิมโกเพลิน” 3 สัปดาห์ ลูกค้าสมัครใช้งานแล้ว 5 แสนราย โดยเป็นลูกค้าใหม่กว่า 2.25 แสนราย สร้างผลตอบรับดีกว่าหลายๆ แคมเปญก่อนหน้า 20-30% เชื่อเป็นแพ็กเกจที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค
นายสิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ผลตอบรับหลังจากการออกแพ็กเกจ “Go No limit” มาเกือบ 1 เดือน ได้ผลตอบรับที่ดี เพราะเป็นแพ็กเกจที่ออกมาแก้ปัญหาให้ผู้ใช้งาน และเมื่อเทียบกับหลายๆ แคมเปญก่อนหน้าถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดีขึ้น 20-30%
ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ดีแทคมีลูกค้าสมัครใช้งานแพ็กเกจ Go No Limit แล้วทั้งหมด 5 แสนราย โดยลูกค้าหลักจะเป็นลูกค้าพรีเพด (เติมเงิน) ราว 4 แสนราย ในจำนวนนี้เป็นลูกค้าใหม่ 2 แสนราย ส่วนลูกค้าโพสต์เพด (รายเดือน) สมัครใช้งาน 1 แสนราย เป็นลูกค้าใหม่ 2.5 หมื่นราย
ทำให้รวมๆ แล้วดีแทคสามารถเพิ่มลูกค้าใหม่ได้กว่า 2.25 แสนรายในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าในช่วง 2 สัปดาห์แรกจะต้องใช้เวลาในการให้ความรู้แก่ลูกค้าในการสื่อสาร และสร้างความเข้าใจ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเดินหน้าสร้างประสบการณ์ใช้งานให้ลูกค้าต่อเนื่อง
“ที่น่าสนใจคือ พฤติกรรมใช้งานของลูกค้ารายเดือนจะมีการเลือกสมัครแพ็กเกจที่สูงขึ้นจากเดิมอยู่ที่ 499 บาท ขึ้นมาเป็น 599 และ 699 มากขึ้นช่วยเพิ่ม ARPU ของลูกค้าในกลุ่มรายเดือน รวมถึงการเลือกสมัครแพ็กเกจสูงสุด 1,999 บาท ที่ให้เน็ตความเร็วสูง และโทรไม่จำกัด จากกลุ่มลูกค้าที่ใช้งาน 1,299-1,499 เดิม”
ขณะที่ลูกค้าเติมเงิน พบว่า มีการเลือกสมัครแพ็กเกจรายสัปดาห์ และรายเดือนเพิ่มขึ้น จากก่อนหน้าที่ลูกค้าเติมเงินส่วนใหญ่จะเลือกสมัครเน็ตแบบรายวันคิดเป็นสัดส่วน 70% ตามด้วยรายสัปดาห์ และรายเดือน 15% ใกล้เคียงกัน กลายเป็นสัดส่วนรายวัน 40% รายสัปดาห์ 30% และรายเดือน 30% ทำให้ลูกค้าเติมเงินมีระยะการใช้งานในเครือข่ายนานขึ้น
นอกจากนี้ ยังระบุว่า แพ็กเกจ Go No Limit กลายเป็นแพ็กเกจที่ลูกค้าให้ความสนใจ เนื่องจากมาช่วยแก้ปัญหาในการใช้งานแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตของลูกค้าหลายๆ ราย เพราะปัจจุบันยังมีลูกค้าที่แจ้งเรื่องปัญหาสัญญาณอินเทอร์เน็ตราว 10-20% ที่เกิดปัญหาจากใช้เน็ตหมดติด FUP ทำให้เน็ตช้า
ทั้งนี้ หลังจากเปิดให้บริการแพ็กเกจดังกล่าวจะมีลูกค้าบางรายที่นำไปใช้งานผิดประเภท ทางดีแทคก็ได้มีการเพิ่มทีมในการมอนิเตอร์ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อลูกค้ารายอื่นที่ใช้งานตามปกติ
ส่วนแผนการสื่อสารไปยังลูกค้าล่าสุด คือ การนำ “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ” มาช่วยในการแนะนำแพ็กเกจตามสถานที่ต่างๆ 5 มุมเมืองทั่วกรุงเทพฯ ประกอบด้วย ถนนสีลม ถนนอโศก ถนนรัชดาภิเษก ย่านสำโรง และย่านบางกะปิ
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการนับจำนวนลูกค้าที่ปัจจุบัน ดีแทคกลายเป็นอันดับ 3 ในตลาด มองว่าเป็นเกมอย่างหนึ่ง เพราะแต่ละค่ายก็จะมีมาตรฐานในการนับจำนวนลูกค้าที่แตกต่างกัน รวมถึงในแง่ของผลประกอบการ ดังนั้น จึงอยากให้ดูในระยะยาวมากกว่า
ที่มา : http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000024704