อะโดบีเปิดตัวอัพเดต Lightroom Mobile สำหรับ iOS2.7 และ Android 2.3 มาพร้อมกับฟีเจอร์การถ่ายภาพ HDR แบบไฟล์ RAW อัตโนมัติ

โหมดถ่ายภาพ HDR แบบ Raw

ตอนนี้ Lightroom Mobile มีโหมดถ่ายภาพ HDR แบบ Raw ที่ช่วยให้คุณถ่ายภาพที่มีช่วงไดนามิค (Dynamic Range) สูงขึ้นบนอุปกรณ์พกพา ซึ่งเมื่อก่อนนี้จะต้องใช้กล้อง DSLR หรือกล้อง Mirrorless เท่านั้นจึงจะสามารถถ่ายภาพดังกล่าวได้

โหมด HDR แบบใหม่นี้ใช้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์มือถือรุ่นล่าสุดบนแพลตฟอร์ม Android และ iOS โดยอัพเดตเวอร์ชั่น 2.7 สำหรับ iOS และเวอร์ชั่น 2.3 สำหรับ Android ถูกนำออกเผยแพร่แล้วในวันนี้ และทำให้โหมด HDR พร้อมใช้งานได้ฟรี อัพเดตสำหรับ Android และ iOS สามารถดาวน์โหลดได้ที่ https://adobe.ly/2kmq1g8

โหมด HDR ทำงานด้วยการสแกนฉากโดยอัตโนมัติ เพื่อระบุช่วงของการเปิดรับแสงที่ถูกต้อง แล้วบันทึกไฟล์ภาพ DNG สามไฟล์ ซึ่งจะถูกปรับเทียบ ผสาน ขจัดภาพเงาซ้อน และแม็ปโทนสีภายในแอพ และคุณก็จะได้ภาพ DNG ที่มีการเก็บข้อมูลแบบ Floating Point จำนวน 16 บิต พร้อมด้วยคุณประโยชน์ทั้งหมดของทั้งภาพถ่ายแบบ HDR และภาพถ่าย Raw ซึ่งถูกประมวลผลด้วยอัลกอริธึมเดียวกันและมีคุณภาพในระดับเดียวกันกับเทคโนโลยี HDR ใน Adobe Camera Raw และ Lightroom

ก่อนหน้านี้ ในการถ่ายภาพแบบ HDR จะต้องใช้กล้อง DSLR หรือกล้อง Mirrorless ซึ่งจะถ่ายหลายภาพด้วยระดับการเปิดหน้ากล้องหลายระดับ แล้วคัดลอกไปยังคอมพิวเตอร์ และจากนั้นก็ผสานภาพเข้าด้วยกันในโปรแกรมอย่างเช่น Photoshop, Adobe Camera Raw หรือ Lightroom หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือ คุณอาจถ่ายภาพ HDR JPEG บนโทรศัพท์ แต่โดยปกติแล้ว ภาพเหล่านี้ใช้การถ่ายภาพเพียงแค่สองภาพ และมักจะไม่สามารถเก็บโทนสีทั้งหมดในสภาพแสงที่แตกต่างกัน ด้วยการบันทึกภาพถ่าย Raw สามภาพ และผสานเข้าด้วยกันบนโทรศัพท์ คุณจะได้รับ Dynamic Range ที่เพิ่มขึ้น ทั้งยังสามารถแก้ไขและแชร์ภาพได้ทันที สมาชิก Creative Cloud จะได้รับประโยชน์เพิ่มเติมจากการซิงค์ข้อมูลกับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปโดยอัตโนมัติ ช่วยให้แน่ใจว่าภาพถ่าย พร้อมการแก้ไขทั้งหมดที่ทำกับภาพถ่ายดังกล่าว จะถูกแบ็คอัพข้อมูลและพร้อมใช้งานบน Lightroom เวอร์ชั่นเดสก์ท็อป

นาย รัสเซลล์ เพรสตัน บราวน์ ผู้เชี่ยวชาญของอะโดบี ได้สร้างวิดีโอช่วยสอนการใช้งานสำหรับโหมดถ่ายภาพ HDR ภายใน Lightroom Mobile โดยสามารถเข้าไปดูได้ที่ https://youtu.be/zl52SfbxYv8

การประมวลผล HDR และอุปกรณ์ที่รองรับ

เมื่อเราเริ่มต้นทำงานเกี่ยวกับ HDR สำหรับ Lightroom Mobile เราตระหนักว่าการเพิ่มอัลกอริธึมคุณภาพระดับมือโปรที่เทียบเคียงกับเดสก์ท็อปให้กับอุปกรณ์พกพาไม่ใช่งานง่าย แต่ทีมงานของอะโดบีสามารถพัฒนาผลงานที่ดีเยี่ยมและทำให้สิ่งนี้กลายเป็นจริง

สำหรับผู้ใช้ iOS โหมด HDR ต้องใช้อุปกรณ์ที่สามารถถ่ายภาพในรูปแบบ DNG เช่น iPhone 6s, 6s Plus, 7, 7 Plus, iPhone SE หรือ iPad Pro 9.7″

สำหรับผู้ใช้ Android ในตอนนี้มีเพียง Samsung S7, S7 Edge, Google Pixel และ Pixel XL เท่านั้นที่รองรับโหมดดังกล่าว อะโดบียึดมั่นในเรื่องคุณภาพและเสถียรภาพ ดังนั้นเป้าหมายหลักของอะโดบีคือการรักษาความเสถียรของแอพ ควบคู่ไปกับการทำให้อัลกอริธึมสามารถจัดหาคุณภาพสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยพลังประมวลผลและหน่วยความจำในอุปกรณ์ Samsung S7 และ Google Pixel อะโดบีสามารถบรรลุคุณภาพและขีดความสามารถที่เหมาะสมเพื่อรองรับอัลกอริธึมที่เปี่ยมประสิทธิภาพ ทีมงานของอะโดบีกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อรองรับอุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ฟีเจอร์อื่นๆ ในเวอร์ชั่นอัพเดทใหม่นี้

นอกเหนือจากโหมดถ่ายภาพ HDR แบบ Raw แล้ว ผู้ใช้ iOS และ Android จะได้รับประโยชน์จากฟีเจอร์ใหม่ๆ ดังต่อไปนี้:

สำหรับระบบปฎิบัติการ iOS

Export Original ช่วยให้คุณสามารถส่งออกไฟล์ต้นฉบับ รวมถึงภาพ DNG ที่ถ่ายในกล้อง และไฟล์ Raw ที่นำเข้าผ่าน Lightroom Mobile และเว็บ Lightroom (Lightroom Desktop ไม่อัพโหลดต้นฉบับไปยังเซิร์ฟเวอร์):

การใช้รูปแบบลายเส้น (Gestures) เพื่อให้คะแนนและรีวิว ในโหมด Rate & Review ช่วยเพิ่มความรวดเร็วให้กับกระบวนการรีวิวของคุณ:

เข้าถึงกล้องของ Lightroom ได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้นผ่านการกด Force Touch บนไอคอนของแอพ และวิดเจ็ตบน Notification Center:

นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกใหม่ในการตั้งค่า นั่นคือ Prevent From Sleep ซึ่งจะป้องกันการล็อคหน้าจอขณะที่โทรศัพท์เสียบปลั๊กอยู่ ช่วยเพิ่มเสถียรภาพและความรวดเร็วในการซิงโครไนซ์ และยังมีการแก้ไขจุดบกพร่อง มีการปรับปรุงประสิทธิภาพ และปรับแต่ง UI

สำหรับระบบปฎิบัติการ Android

สำหรับสมาชิก Android Creative Cloud สามารถใช้งานเครื่องมือ Radial Selection และ Linear Selection:

พร้อมด้วยการแก้ไขจุดบกพร่องและปรับปรุงความเร็ว

เกี่ยวกับบริษัทอะโดบี ซีสเต็มส์ อินคอร์เปอร์เรทเต็ต

อะโดบีเปลี่ยนโลกผ่านประสบการณ์ด้านดิจิตอล รายละเอียดเพิ่มเติม www.adobe.com/sea

ติดตามอะโดบีผ่านเฟสบุ๊กที่ https://www.facebook.com/AdobeSEA/