‘บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน)’ ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจรสำหรับลูกค้านิติบุคคล รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ ภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) พร้อมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกในวันที่ 30 มีนาคมนี้ ด้านผู้บริหาร ประกาศรุกธุรกิจรถยนต์ให้เช่าดันการเติบโต รับเทรนด์ Outsource ช่วยหนุนภาพธุรกิจรถยนต์ให้เช่าเติบโต พร้อมเร่งเดินหน้า‘asap Auto Park’ หรือศูนย์รวมการให้บริการเกี่ยวกับรถยนต์แบบครบวงจร ย่านบางนา-ตราด คาดแล้วเสร็จภายในปีนี้
นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ asap (เอแซ็ป) ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจรสำหรับลูกค้านิติบุคคล รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับภายใต้แบรนด์asap เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกในวันที่ 30 มีนาคมนี้ โดยใช้ชื่อย่อ ‘asap’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ หลังจากที่เสนอขายหุ้นIPO จำนวน 210 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท แก่นักลงทุนเมื่อวันที่ 22-24มีนาคม 2560 ที่ผ่านมาในราคาหุ้นละ 3.03 บาท ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี
บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าภายใต้แบรนด์ ‘asap’ (เอแซ็ป) ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร โดยให้บริการ 3 รูปแบบ ได้แก่ รถยนต์ให้เช่าระยะยาว (Operating Lease) บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น และบริการรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ (Limousine) ซึ่งมีขีดความสามารถการแข่งขันด้านการให้บริการที่ครบวงจร
สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์ให้เช่าปีนี้ จะได้รับปัจจัยบวกจากกระแสOutsource ที่บริษัทภาคเอกชนขนาดใหญ่มอบหมายงานให้บริษัทฯ ที่มีความเชี่ยวชาญในงานนั้น ๆ เข้ามาเป็นผู้ดำเนินงานแทน ส่งผลดีต่อธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวของ asap ขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องจากความต้องการของภาคเอกชนขนาดใหญ่หันมาใช้บริการที่เพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น จะได้รับอานิสงส์จากการเดินทางโดยเครื่องบินในประเทศไทยที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางโดยสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Airlines) ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนไทย รวมทั้งผู้ที่ต้องเดินทางไปทำกิจธุระในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศจำนวนมาก ทำให้มีความต้องการใช้บริการรถยนต์ให้เช่าเพื่อการเดินทางภายในประเทศเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนลงทุนพัฒนาโครงการศูนย์รวมการให้บริการเกี่ยวกับรถยนต์แบบครบวงจร ‘asap Auto Park’ ย่าน บางนา – ตราด ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ คาดว่าจะเปิดให้บริการเฟสแรกได้ภายในสิ้นปีนี้ ก่อนจะเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการภายในไตรมาส 1 ปี 2561 เพื่อรองรับโอกาสการเติบโตของกลุ่มธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น เนื่องจากศูนย์รวมให้บริการดังกล่าว จะมีพื้นที่สำหรับให้บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น พื้นที่จอดรถเสริมสำหรับรถยนต์ให้เช่ารายวันของสาขาสนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงจะใช้เป็นพื้นที่สำหรับจำหน่ายรถยนต์ใช้งานแล้วที่ครบกำหนดสัญญาให้เช่าระยะยาวและรถยนต์ให้เช่ารายวันที่ปลดระวาง ซึ่งทำยอดขายต่อคันได้ดีกว่าการนำไปขายที่ลานประมูล จึงส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และพื้นที่ส่วนที่เหลือ จะทำเป็นพื้นที่ให้เช่าสำหรับบริการเสริมอื่น ๆ เช่น ศูนย์ซ่อมและบำรุงรักษารถยนต์ ร้านค้าที่จำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับรถยนต์ เป็นต้น
“เรามีแผนรุกขยายธุรกิจรองรับโอกาสการเติบโตของธุรกิจรถยนต์ให้เช่าในไทย ด้วยจุดแข็งด้านประสบการณ์มากว่า 11 ปี ช่วยผลักดันการเติบโตที่ดีให้แก่ธุรกิจ จากฐานลูกค้ารถยนต์ให้เช่าระยะยาวสำหรับลูกค้านิติบุคคล ช่วยสร้างความมั่นคงด้านรายได้ หรือรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีจากอัตราค่าเช่ารถยนต์เพิ่มขึ้น ที่จะมีบริการใหม่ ๆ เพิ่มเติมให้แก่ลูกค้า ซึ่งคาดว่าจะช่วยผลักดันการเติบโตของ asap ปีนี้ได้อย่างมาก” นายทรงวิทย์ กล่าว
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัดในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า asapถือเป็นบริษัทรถยนต์ให้เช่าแบรนด์ไทยที่มีศักยภาพในการผลักดันการเติบโตจากผลการดำเนินงานที่ดี เนื่องจากได้เตรียมแผนงานรุกขยายธุรกิจในด้านต่าง ๆ รวมถึงการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าได้ใช้บริการรถยนต์ให้เช่าของ asap ได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,459.43 ล้านบาท เติบโต34.37% จากปี 2558 และมีกำไรสุทธิ 69.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.60% จากปี 2558 มีกำไรสุทธิ56.04 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2559 บริษัทฯ มีรถยนต์สำหรับให้บริการทั้งหมด 8,405 คันเพิ่มขึ้นร้อยละ 58.82 จาก ณ สิ้นปี 2558 ซึ่งมีจำนวน 5,292 คัน