เข้าสู่ช่วงปลายเดือนมีนาคมของทุกปีถึงคิวงานใหญ่ “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” งานแสดงรถยนต์ในไทยที่จัดต่อเนื่องยาวนานมาปัจจุบันเป็นครั้งที่ 38 แล้ว ซึ่งปีนี้ยังคงยึดเวทีอาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ให้ผู้ชื่นชอบนวัตกรรมยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่ง เข้ามาชมและเลือกซื้อเลือกถอยรถตามใจชอบ ไฮไลต์ของงานหนีไม่พ้นรถรุ่นใหม่เพิ่งแนะนำสู่ตลาด โดยครั้งนี้รถยุโรปนำทัพรุ่นใหม่เต็มเวที ขณะที่รถแบรนด์ญี่ปุ่นก็มีไม่น้อยหน้า!!!
ค่ายยุโรปครบทั้งหรูและสปอร์ต
เริ่มกันที่ค่ายออดี้ ซึ่งได้ผู้แทนจำหน่ายรายใหม่เข้ามาทำตลาดแทนกลุ่มเดิม ซึ่งรถใหม่ที่เผยโฉมเป็นไฮไลต์ของงานมอเตอร์โชว์ นี้คือ “ออดี้ คิว5” ซึ่งถือเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจุดเด่นของรุ่นนี้ต้องยกให้มิติตัวถังที่ใหญ่ขึ้น แต่น้ำหนักเบาลงกว่า 90 กิโลกรัม พร้อมระบบการขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาแบบ quattro อันเลื่องชื่อของออดี้
ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู มากับไฮไลต์ 740Le xDrive Pure Excellence รถปลั๊กอิน ไฮบริด รุ่นล่าสุดที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี BMWeDrive ในบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล i มาพร้อมโครงสร้าง Carbon Core และแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูง ผสานด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ 8 สปีด Steptronic
อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรภายใน 5.3 วินาที โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 45.5 กิโลเมตรต่อลิตร อัตราการปล่อย CO2 ที่ 49 กรัมต่อกิโลเมตร ในขณะที่อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดอยู่ที่ระหว่าง 13.9 ถึง 13.2 กิโลวัตต์ ต่อ 100 กิโลเมตร เมื่อขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าล้วนจะสามารถสร้างระยะทางสูงสุดได้ถึง 41 กิโลเมตร
นอกจากนี้ยังมีรุ่นเรือธง “บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive Model V12 Excellence” ที่มากับขุมพลัง M Performance TwinPower Turbo เครื่องยนต์ V12 สูบ ขนาด 6.6 ลิตร กำลังสูงสุด 610 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงรวมอยู่ที่ 8.2 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อย CO2 รวมที่ 291 กรัมต่อกิโลเมตร
M760Li xDrive Model V12 Excellence สามารถให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรภายในเวลาเพียง 3.7 วินาที จำกัดความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ่ายโอนพลังงานผ่านระบบเกียร์ 8 สปีด Steptronic Sport ซึ่งถูกปรับแต่งตามคุณลักษณะของเครื่องยนต์ V12 โดยเฉพาะ
ขณะที่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว “อี-คลาส คูเป้” ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งมีพื้นฐานมาจากซีดานของตระกูล E-Class ที่ได้รับการปรับโฉมรูปลักษณ์ให้ดูเร้าใจมากยิ่งขึ้น มาพร้อมขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งทำให้รถรุ่นนี้มีพื้นที่วางขาด้านหลัง หมอนรองศีรษะด้านหลัง ความกว้างของเบาะทั้งด้านหน้าและด้านหลังที่เพิ่มมากขึ้น โดยจะทำตลาดในรุ่น E 300 Coupé เครื่องยนต์ 4 สูบ 1,991 ซีซี เทอร์โบคู่ ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติชุดใหม่ 9G-TRONIC ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว ควบคุมแรงเหวี่ยงจากการทำงานของเครื่องยนต์ให้ต่ำลงช่วยให้สมรรถนะการขับขี่นุ่มนวลและ มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้านของ วอลโว่ เปิดตัว V90 เพื่อสานต่อตำนานรถเอสเตท ที่เยี่ยมยอดและยาวนานของวอลโว่ โดยถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มของ Scalable Product Architecture (SPA) ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความปลอดภัยในวงการรถยนต์อีกครั้งด้วยเทคโนโลยี City Safety ซึ่งปัจจุบันเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์วอลโว่ทุกรุ่น
วอลโว่ V90 D4 Inscription ขับเคลื่อนด้วยระบบเครื่องยนต์ Drive-E ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลจะเป็นรุ่น V90 D4 ซึ่งมีกำลังแรงสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ภายในเวลาเพียง 8.2 วินาที แต่จิบเชื้อเพลิงเพียง 19.6 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 133 กรัมต่อกิโลเมตร
สำหรับ มินิ เปิดตัว “คันทรีแมน” เจเนอเรชันที่สอง ในงานครั้งนี้ด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่มินิ คูเปอร์ คันทรีแมน, มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน และมินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม ที่พัฒนาดีไซน์รูปลักษณ์ใหม่รอบคันและมิติรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมพร้อมกับเทคโนโลยี มินิ Twinpower Turbo เพิ่มสมรรถนะการขับขี่และกำลังขับเคลื่อน
ขนาดความยาวมากขึ้นกว่ารุ่นเดิมถึง 20 เซนติเมตร ความกว้างที่เพิ่มขึ้นอีก 3 เซนติเมตร และฐานล้อที่ยาวขึ้น 7.5 เซนติเมตร ทำให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ประกอบด้วย 5 ที่นั่งแบบเต็มตัว และช่องเก็บสัมภาระที่มีความจุเพิ่มขึ้น บริเวณช่องเก็บสัมภาระด้านหลังยังมี MINI Picnic Bench ซึ่งสามารถกางออกเป็นที่นั่งปิกนิกบริเวณท้ายรถได้ ส่วนฝากระโปรงท้ายควบคุมการปิดเปิดด้วยระบบไฟฟ้าเพียงใช้เท้าไปจ่อที่บริเวณใต้กันชนท้ายเมื่อมีกุญแจรถอยู่กับตัวเท่านั้น
มาดูทางด้าน เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส กันบ้างเตรียมเปิดตัว “พานาเมร่า 4 เอส” ครั้งแรกในประเทศไทย รถสปอร์ตซาลูน 4 ประตู เจเนอเรชันที่ 2 มากับเครื่องยนต์ V6 ให้พละกำลัง 440 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 8 จังหวะPDK ดีไซน์ใหม่สปอร์ตมากยิ่งขึ้น พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลากหลาย อาทิ ระบบช่วงล่างแบบถุงลม ระบบช่วย เลี้ยวล้อหลัง และระบบควบคุมการทำงานของตัวถัง เป็นต้น
อีกหนึ่งค่ายที่มีตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ “มาเซราติ” งานนี้เผยโฉม “เลอวานเต้” รถเอสยูวีสุดหรู โดยรุ่นเครื่องยนต์ที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย คือ เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 275 แรงม้า 3 ลิตร V6 เทอร์โบ พร้อมระบบ “Q4” ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะและรองรับด้วยระบบกันสะเทือนด้วยถุงลมมาตรฐานสูง
สำหรับรถสปอร์ตระดับซูเปอร์คาร์ มี 2 ค่ายได้แก่ “แอสตัน มาร์ติน” เปิดตัวรุ่นพิเศษ “Vanquish S” ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ต่อจากการเผยโฉมครั้งแรกของโลกในงาน Geneva Motor show เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดย Vanquish S มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ V12 รุ่นปรับปรุงใหม่ พร้อมขุมพลัง 580 แรงม้า ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ Touchtronic III แบบ 8 สปีด อัตราเร่ง 0-100 ได้ในเวลาเพียง 3.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 323 กม./ชม. ปลายท่อไอเสียสี่ชุด พร้อมท่อร่วมไอดีแบบใหม่ที่ช่วยปรับปรุงระดับแรงลมของเครื่องยนต์
ส่วนอีกค่ายหนึ่งคือ “แลมโบกินี ฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเต” (Lamborghini Huracan Performante V10) ซูเปอร์คาร์พันธุ์โหดที่สุดรุ่นหนึ่งเท่าที่เคยมีมาของค่ายกระทิงเปลี่ยว ครื่องยนต์ V10 ขนาด 5.2 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศเหมือนกับฮูราคานรุ่นสแตนดาร์ด แต่ถูกอัปเกรดพละกำลังให้เพิ่มขึ้นเป็น 631 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ซึ่งมากกว่าเดิม 30 แรงม้า และ 40 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ภายใน 2.9 วินาทีเท่านั้น และเร่งจาก 0-200 กม.ต่อชม. ใน 8.9 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่325 กม.ต่อชม.
ทั้งยังปรับปรุงระบบเกียร์อัตโนมัติดูอัลคลัตช์แบบ 7 สปีด ปรับช่วงล่างให้แน่นยิ่งขึ้น และปรับระบบบังคับเลี้ยวกลไกไฟฟ้า ระบบควบคุมเสถียรภาพ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลาที่ทำให้ตัวรถเกาะถนนแน่นหนึบในทุกสภาวะ ส่วนตัวถังรถของฮูราคาน เพอร์ฟอร์แมนเตใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์คอมโพสิทน้ำหนักเบาพิเศษ
สำหรับรถระดับหรูหราสุดๆ อย่าง โรลส์-รอยซ์ ประกาศเปิดตัวรุ่น “เรธ แบล็คแบจ” (Wraith Black Badge) ขุมพลังมาพร้อม V12 ขนาด 6.6 ลิตร 624 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 870 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 8สปีด สามารถทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 4.5 วินาที ตอบสนองอย่างเหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี Intuitive Throttle Response ที่ช่วยให้ลากเกียร์ได้นานขึ้นและเร่งเครื่องได้เร็วขึ้น
ค่ายญี่ปุ่น ฮอนด้า นำทัพ 2 รุ่นใหม่
ฮอนด้า เปิดตัว “ซีวิค แฮทช์แบ็ก” และ “ซีอาร์-วี” ในเวลาไล่เลี่ยกันไม่ถึง 1 เดือน ซึ่งซีวิค แฮทช์แบ็ก มากับรูปลักษณ์ด้านท้ายในสไตล์แฮทช์แบ็ก 5 ประตู ขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ซึ่งให้กำลังเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร แต่มีอัตราการประหยัดน้ำมันเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร
ขณะที่ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ รถยนต์เอสยูวีในระดับซีเซ็กเมนต์ เปิดทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ 2 รุ่น คือ ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 1.6 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร โดยไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยของเครื่องยนต์ดีเซลจากฮอนด้า
เครื่องยนต์ i-DTEC DIESEL TURBO ขนาด 1.6 ลิตร เพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ปรับตั้งแรงบูสต์ของเทอร์โบไว้ที่ 2 บาร์ หรือ 29.4 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ผ่านมาตรฐานไอเสีย EURO 5 มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด แบบ Shift By Wire ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าผ่านการกดปุ่ม P R N D ซึ่งไม่มีคันเกียร์โผล่เด่นขึ้นมาให้เห็นอีกต่อไป
สำหรับ มาสด้า เปิดตัวรถสปอร์ตโรดสเตอร์ เอ็มเอ็กซ์-5 อาร์เอฟ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีเปิดประทุนหลังคาแข็ง โดยคำว่า RF ย่อมาจากคำว่า Retractable Fastback มาพร้อมกับกลไกการทำงานบนหลังคาถอดได้และส่วนด้านหลังสามารถพับเก็บได้ ใช้การสั่งการผ่านปุ่มสัมผัสเดียวเปิด-ปิด ในเวลา 12 วินาที กับความเร็วไม่เกิน 10 กม./ชม. การทำงานส่วนหลังคาด้านหลังจะยกตัวขึ้น และหลังคาส่วนกลางจะพับเก็บลอดเข้าไป
มาสด้ายืนยันว่าได้ออกแบบกลไกการพับเก็บที่ทำให้แผงหลังคาสามารถจัดเก็บไว้ในพื้นที่จำกัดได้ ส่วนเนื้อที่จัดเก็บสัมภาระก็ยังคงมีความกว้างขวางเหมือนกับรุ่นซอฟต์ท็อป ตามหลักการแล้ว การออกแบบหลังคาสไตล์ทาร์กาช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวถัง แถมยังทำให้ตัวรถดูสวยงามแปลกตาดีทีเดียว
สุดท้ายกับ เซอร์ไพร์ส์ เมื่อ ทีซี ซูบารุ ประเทศไทย นำ “อิมเพรสซา” เจ้าของรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปีของญี่ปุ่นมาเปิดตัว โดยเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้ ‘ซูบารุ โกลบอล แพลทฟอร์ม’ (Subaru Global Platform) ที่มีความแข็งแรงมากขึ้นถึง 70-100% และสามารถลดการบิดตัวลง 50%
ระบบขับเคลื่อนจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน Boxer ขนาด 2.0 ลิตร สี่สูบนอน ที่เสริมระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบDirect Injection จนสามารถรีดพลังได้สูงสุดถึง 152 แรงม้า ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ Linear CVT รุ่นใหม่ ที่สามารถปรับโหมดเป็น Manual Mode ได้มากถึง 7 สปีด ที่เสริมระบบ Paddle Shift สามารถเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัยได้
ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของไฮไลต์รถใหม่ที่จะเปิดตัวให้ชมอย่างเป็นทางการในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” พบตัวจริงและข้อมูลแบบเต็มๆ ในงานที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มีนาคม ถึง 9 เมษายน 2560 นี้ ณ อาคาร์ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี
MGR Motoring แจกบัตรงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ท่านละ 2 ใบฟรี มารับได้ที่ เจ้าหน้าที่ โอเปอเรเตอร์ บ้านเจ้าพระยา ถนน พระอาทิตย์ เบอร์ติดต่อ 02-629-4488 งานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มีนาคม-9 เมษายน 2560 นี้
ที่มา : http://manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9600000031059