ไฮเนเก้น แบรนด์เครื่องดื่มชั้นนำระดับโลก ชวนทุกคนร่วมสัมผัสทุกหน้าประวัติศาสตร์ตลอดระยะเวลา 144 ปีแห่งความยิ่งใหญ่ของไฮเนเก้น กับแคมเปญสุดพิเศษ There’s More Behind the Star ที่ส่งตรงประสบการณ์จากกรุงอัมสเตอร์ดัมสู่กรุงเทพฯ ในงาน Behind the Star Experience (Multisensorial Exhibition) เปิดทุกประสาทสัมผัสเพื่อเรียนรู้ต้นกำเนิดของกระบวนการผลิตและความลับแห่งการสร้างสรรค์รสชาติของเบียร์คุณภาพระดับโลกที่ทุกคนชื่นชอบ รวมถึงความสำเร็จในการก้าวสู่แบรนด์เครื่องดื่มชั้นนำที่ผู้คนทั่วโลกให้การยอมรับและวางจำหน่ายใน 192 ประเทศ พร้อมยกระดับประสบการณ์ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการนำเสนอผ่านรูปแบบของเทคโนโลยีและ Multimedia สุดอลังการครั้งแรกในเอเชีย
นางสาวภัททภาณี เอกะหิตานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้น กลุ่มบริษัท ทีเอพี กล่าวว่า
“การมอบประสบการณ์ที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์เหนือใครๆ เป็นสิ่งที่ไฮเนเก้นมุ่งมั่นในการนำเสนอกิจกรรมต่าง ๆ มาโดยตลอด ซึ่งในปี 2560 นี้ ไฮเนเก้นพร้อมนำเสนอที่สุดแห่งประสบการณ์ผ่านแคมเปญระดับโลก There’s More Behind the Star ในงาน Behind the Star Experience (Multisensorial Exhibition) เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของไฮเนเก้น ที่เป็นเบียร์คุณภาพชั้นนำที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก และเพิ่มความเชื่อมั่นที่ทุกคนมีต่อไฮเนเก้น ผ่านการถ่ายทอดเรื่องราวเส้นทางแห่งความสำเร็จ รวมถึงรายละเอียดในการเลือกใช้ส่วนผสมที่มีคุณภาพชั้นดีที่เป็นสูตรเฉพาะ และความพิถีพิถันในการหมักบ่ม ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เบียร์ไฮเนเก้นโดดเด่นจากเบียร์อื่น ๆ เราเชื่อมั่นว่าเมื่อทุกคนได้มาลองเปิดประสบการณ์ผ่านทุกประสาทสัมผัสครั้งยิ่งใหญ่นี้ รับรองว่าทุกคนจะได้รู้จักและหลงรักในไฮเนเก้นมากยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ แคมเปญ There’s More Behind the Star เป็นการเปิดเผยเบื้องหลังแห่งความสำเร็จของไฮเนเก้น ให้ทุกคนได้รับรู้เป็นครั้งแรกในทุก ๆ แง่มุม ทุกหน้าประวัติศาสตร์ตลอดระยะเวลา 144 ปีแห่งความยิ่งใหญ่ของไฮเนเก้น และสิ่งสำคัญที่ไฮเนเก้นยังคงรักษาไว้คือความพิถีพิถันและการเอาใจใส่อย่างดีที่สุด ในคุณภาพและรสชาติของเบียร์ เพื่อรักษาระดับมาตรฐานให้มีความคงที่อย่างต่อเนื่อง โดยถ่ายทอดประสบการณ์ออกมาในรูปแบบ Multisensorial Exhibition ครั้งแรกในเอเชียและประเทศไทยตลอดระยะเวลา 20 วัน เพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้ต้นกำเนิดของแบรนด์ระดับโลกภายใต้สัญลักษณ์ “ดาวแดง” ซึ่งเปรียบได้กับสัญลักษณ์แห่งคุณภาพ ทั้งกระบวนการผลิตและความลับแห่งการสร้างสรรค์รสชาติของเบียร์คุณภาพระดับโลกที่ทุกคนชื่นชอบ รวมถึงความสำเร็จในการก้าวสู่แบรนด์เครื่องดื่มชั้นนำที่ผู้คนทั่วโลกให้การยอมรับและวางจำหน่ายใน 192 ประเทศ
ภายในพาวิลเลียนสีขาวที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับงาน Behind the Star Experience ทุกคนจะได้เปิดทุกประสาทสัมผัสเพื่อเรียนรู้จุดกำเนิดของไฮเนเก้น พร้อมความลับของเบียร์รสชาติเยี่ยมที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นรสชาติเดียวกันทั่วโลก ผ่านเทคโนโลยี และ Multimedia เต็มรูปแบบครั้งแรกในเอเชียทั้งหมด 5 โซน ด้วยกัน
-
Relive the Origin of Greatness เริ่มต้นเส้นทางแห่งความยิ่งใหญ่ด้วยประวัติศาสตร์ของแบรนด์ไฮเนเก้น ตั้งแต่จุดเริ่มต้นในปี 1873 โดย Gerard Heineken ที่มีความหลงใหลในการผลิตเบียร์และได้สร้างโรงหมักเบียร์ขึ้นใจกลางกรุงอัมสเตอร์ดัมและพยายามคิดสูตรที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งในเวลา
ไม่นานได้กลายเป็นเบียร์เลเกอร์คุณภาพเยี่ยมแบรนด์แรกของฮอลแลนด์ และชื่อ Heineken ที่ประทับอยู่บนขวดทุกขวด ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณภาพตลอดระยะเวลา 144 ปีที่ผ่านมา
ซึ่งนำเสนอในรูปแบบ Motion Graphic Projection Mapping รวมถึงเรื่องราววิวัฒนาการของสื่อโฆษณา รวมถึงวิวัฒนาการของโลโก้ ขวดเบียร์ และฉลากของไฮเนเก้นในยุคต่าง ๆ
-
Feel the Magic of Quality Ingredients เปิดทุกประสาทสัมผัสทั้งสายตา การดมกลิ่น และใช้มือสัมผัส รวมถึงการนำเสนอโดยใช้เทคนิค Lighting Injection กับส่วนผสม และวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดีในการผลิตเบียร์คุณภาพ ที่ได้รับการยอมรับว่ามีรสชาติเดียวกันทั่วโลก ด้วย 3 ส่วนผสมจากธรรมชาติ ประกอบด้วย “ข้าวบาร์เลย์มอลต์ ฮอปส์ และ น้ำ” รวมถึงอีกหนึ่งส่วนผสมที่เป็นสูตรลับ และหัวใจสำคัญที่ช่วยให้รสชาติของไฮเนเก้นโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ Heineken® A-Yeast ยีสต์ชนิดพิเศษที่มีเฉพาะในเบียร์ไฮเนเก้นเท่านั้น ซึ่งทำให้มีกลิ่นผลไม้บาง ๆ และแตกต่างจากเบียร์ยี่ห้ออื่น
-
Enter the Amazing World of Brewing สัมผัสความรู้สึกบริสุทธิ์ ธรรมชาติ และคุณภาพในทุก ๆหยดของไฮเนเก้น ด้วยห้องจำลองบรรยากาศให้ผู้เข้าชมเหมือนเป็น “ยีสต์” ที่ลอยอยู่ในถังหมักเบียร์ที่วางใน “แนวนอน” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของไฮเนเก้นที่ต้องหมักบ่มเบียร์เป็นระยะเวลาทั้งหมด 28 วัน ซึ่งเปรียบเหมือนช่วงเวลาทองคำที่เป็นจุดเริ่มต้นของรสชาติพิเศษ เพื่อเสิร์ฟให้นักดื่มทั่วโลกได้ลิ้มลองตามแบบฉบับที่ว่า “เพราะของดีต้องใจเย็น ๆ และคุ้มค่าต่อการรอคอย” โดยนำเสนอให้มีอรรถรสของการรับชมกระบวนการหมักเบียร์สุดพิเศษแบบ 3D Mapping Reflectionผ่านจอ 180 องศา และมีความพิเศษด้านสัมผัสเสมือนจริง ด้วยการมีลูกบอลใสที่กองสูงถึงระดับเข่าของผู้ร่วมงาน เสมือนยืนอยู่บนฟองอากาศในถังหมักเบียร์
-
Take an Epic Journey Around the World อีกหนึ่งโซนพิเศษที่จะพาผู้เข้างานร่วมเดินทางไป พร้อมกับขวดไฮเนเก้นที่นำเทคนิคการนำเสนอแบบแปลกใหม่ ผ่านระบบ VR Simulation Chair ที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนว่าเป็นขวดเบียร์ เดินทางไปบนสายพายการผลิต ได้เห็นกระบวนการบรรจุเบียร์ที่ทันสมัยแต่พิถีพิถัน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกขวดของไฮเนเก้นส่งถึงมือผู้บริโภคใน 192 ประเทศ ด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับโลก พร้อมรสชาติอันยอดเยี่ยม
-
Savor the One and Only Star Serve Ritual พบกับศิลปะของขั้นตอนการเสิร์ฟสุดพิเศษเเบบ “Star Serve Ritual” เทคนิคการนำเสนอแบบทั้ง Hologram หรือการสร้างภาพเสมือนจริง รวมถึงการสาธิตให้ผู้เข้าชมโดยตัวแทนจากไฮเนเก้น กับ 5 ขั้นตอนพิเศษที่เสมือน 5 แฉกของดาวแดงสัญลักษณ์ของแบรนด์ที่จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำและลิ้มลองเบียร์คุณภาพได้อย่างละมุนโดยการเสิร์ฟนี้เป็นมาตรฐานและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของไฮเนเก้นเท่านั้น
เริ่มต้นการเสิร์ฟด้วยการล้างแก้วด้วยน้ำสะอาด หลังจากนั้นเริ่มรินด้วยการถือแก้วในลักษณะ 45 องศาและค่อย ๆ ปล่อยให้เบียร์ไหลรินลงสู่แก้วอย่างช้า ๆ จนถึงประมาน 3/4 ของแก้ว ก่อนตั้งแก้วกลับมาที่ 90 องศา เพื่อให้เบียร์ที่รินเกิดฟองในจังหวะที่พอดี ด้วยความหนาของฟองประมาน 2 ข้อนิ้ว ตำแหน่งของเบียร์และฟองจะตัดกันบริเวณบ่าของดาวแดงบนแก้วพอดี หลังจากนั้นปาดฟองบริเวณปากแก้วออกให้พอดีกับขอบแก้วพร้อมเสิร์ฟบนที่รองแก้วของไฮเนเก้น เพราะไฮเนเก้นเชื่อว่าเบียร์ที่ถูกเสิร์ฟด้วยวิธีที่ถูกต้องและมีความหนาของฟองที่กำลังพอดี จะช่วยให้ผู้ดื่มได้ลิ้มรสชาติที่แท้จริงของเบียร์แก้วนั้น ๆ และสนุกไปกับรสชาติของเครื่องดื่มพรีเมียมระดับโลกในบรรยากาศแบบอัมสเตอร์ดัมอย่างแท้จริง ปิดท้ายด้วยร้านค้าที่จำหน่ายของที่ระลึกแบรนด์ไฮเนเก้น ที่รับประกันว่าของที่ระลึกหลายชิ้นสาวกไฮเนเก้นจะต้องประทับใจและไม่พลาดอย่างแน่นอน!
มาร่วมเปิดโลกแห่งความยิ่งใหญ่ตลอดระยะเวลา 144 ปีกับไฮเนเก้นในงาน Behind the Star Experience ได้ที่ หน้าสยามดิสคัฟเวอรี่ พลาซ่า ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน จนถึง 18 พฤษภาคมนี้ เวลา 10.00 – 22.00 น. หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/Heineken และ instagram@heineken_th