บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย เปิดเวทีให้นักการตลาดรุ่นใหม่ได้ปล่อยของใน โครงการประกวดแผนการตลาด J-MAT Award ครั้งที่ 26 ในหัวข้อ “ฉายไอเดียให้ฉายแสง โรงหนังโดนใจ Gen Y” ชิงโล่พระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเกียรติบัตร และทุนการศึกษากว่า 500,000 บาท
สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย มีวัตถุประสงค์หลักในการพัฒนาศักยภาพนักการตลาดไทย ทุกรุ่น ทุกระดับ นับตั้งแต่นักการตลาดในองค์กรต่างๆ ผู้บริหาร ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก ไปจนถึงเหล่าคณาจารย์ และนักศึกษา ซึ่งโครงการประกวดแผนการตลาด J-MAT Award นี้ เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่มุ่งพัฒนานักการตลาด รุ่นเยาว์ โดยได้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 26 เนื่องจากเล็งเห็นความสำคัญว่าเยาวชนจะต้องมีเวทีให้พวกเขา ได้ลองตีโจทย์จริง ๆ ทางธุรกิจ และได้นำความรู้ด้านการตลาดทุกแขนงที่ได้เรียนมานำมาปรับใช้กับการวิเคราะห์ในสถานการณ์จริง จนเกิดเป็นแผนการตลาดที่มีการผสมผสานความคิดสร้างสรรค์กับกลยุทธ์ที่ ตรงเป้า ซึ่งทุกปีที่ผ่านมาผลลัพธ์ของนักศึกษาไทยนั้นมีการพัฒนาขึ้นมาก มีการนำเสนอแผนที่โดดเด่น น่าสนใจ นำไปใช้ได้จริง โครงการ J-MAT Award จึงเป็นโครงการที่ทางสมาคมฯ มุ่งหวังจะสนับสนุนต่อเนื่องในระยะยาวต่อไป
ด้าน อภิรักษ์ วาราชนนท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจโรงภาพยนตร์เป็นธุรกิจที่ต้องมีการพัฒนาตัวเองให้ก้าวไกลอยู่เสมอ ทาง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนาเทคโนโลยีและรูปแบบการนำเสนอที่ทันสมัย และครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่มีโอกาสได้ให้การสนับสนุนทางการศึกษา เปิดโอกาสให้นักศึกษา ทุกคนที่มาร่วมโครงการได้แสดงศักยภาพในตัวออกมา พร้อมกับเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับโรงภาพยนตร์ที่ตรงใจพวกเขาที่สุด การประกวดแผนการตลาดในครั้งนี้เป็นการประกวดแผนการตลาดที่เน้นความคิดสร้างสรรค์และแปลกใหม่ ซึ่งทุกทีมที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถตีโจทย์โรงภาพยนตร์ ภาพยนตร์แห่งอนาคตที่สุดล้ำได้โดนใจคนรุ่นใหม่ และสามารถต่อยอดด้วยการวางแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการที่สามารถนำนวัตกรรมการตลาดมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผลสูงสุด เป็นที่น่าชื่นชมเป็นอย่างมาก
สำหรับการประกวดแผนการตลาดครั้งนี้ มีทีมน้อง ๆ นักศึกษาส่งผลงานเข้าประกวดรวมทั้งสิ้น 355 ทีม จาก 48 สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากส่วนงานการตลาดของบริษัทชั้นนำกว่า 30 ท่าน เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกผลงาน ซึ่งรอบแรกพิจารณาคัดเลือกเหลือ 60 ทีม ประกาศผลเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 จาก 60 ทีม พิจารณาคัดเลือกเหลือ 25 ทีม ผ่านสู่รอบรองชนะเลิศ ประกาศผลเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2560 และพิจารณาคัดเลือกผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 7 ทีม ประกาศผลเมื่อ 19 เมษายน 2560 ซึ่งแต่ละทีมจะต้องนำเสนอผลงานในรอบสุดท้ายเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2560 ณ โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ใช้เวลาทีมละ 20 นาที ในการนำเสนอผลงาน และ 10 นาที ตอบคำถามจากคณะกรรมการ ซึ่งคะแนนการนำเสนอจะถูกนำไปรวมเข้ากับคะแนนผลงาน
ปรากฏว่า ทีม Dreamcatcher จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้นำเสนอแผนการตลาดยุคใหม่ ด้วยแนวคิดที่สร้างความแปลกและแตกต่าง คว้ารางวัลทีมชนะเลิศ รับโล่พระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเกียรติบัตร และทุนการศึกษา 130,000 บาท ส่วน รางวัลทีมรองชนะเลิศอันดับ 1 ตกเป็นของ ทีมMaxnificent จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับเกียรติบัตร พร้อมทุนการศึกษา70,000 บาท และรางวัลทีมรองชนะเลิศอันดับ 2 เป็นของ ทีม The Spotlight จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับเกียรติบัตร พร้อมทุนการศึกษา 55,000 บาท ส่วน รางวัลชมเชย รับเกียรติบัตร พร้อมทุนการศึกษา ทีมละ 40,000 บาท ได้แก่ ทีม ว่องไววิทย์ จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ทีม Movie Maniac จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ทีมGolden Tickets จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ทีม Swuniplex จาก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
นอกจากนี้ ยังมีรางวัลพิเศษประเภทต่าง ๆ ได้แก่ รางวัล The Best Idea รับทุนการศึกษา 30,000 บาท เป็นของ ทีม Golden Tickets จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,รางวัล Creative Award รับทุนการศึกษา 10,000 บาท เป็นของ ทีม Dreamcatcherจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, รางวัล The Best Support สำหรับภาควิชาที่ให้นิสิตนักศึกษาส่งผลงานมากที่สุด รับเงินรางวัล 30,000 บาท เป็นของ
ดร.ถนอมพงษ์ พานิช คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และรางวัลสำหรับอาจารย์ที่ปรึกษาทีมชนะเลิศ รับเงินรางวัล 20,000 บาท เป็นของ ดร.กฤตินี พงษ์ธนเลิศ ภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งถือว่าเป็นความสนุกสนาน ความท้าทายการคิดอะไรใหม่ ๆ รู้จักนำทฤษฏีที่ได้เรียนนำมาต่อยอด ปรับใช้เป็นแผนงานที่ดี ผลแพ้ชนะนั้นเป็นรางวัลเสริม แต่ประสบการณ์การทำงานร่วมกันและความตั้งใจที่แต่ละคนทุ่มเทอย่างเต็มที่นั้น นับเป็นรางวัลขั้นแรกของความสำเร็จ แล้วกลับมาสู้กันในปีต่อไป